แต่ถึงตอนนี้ ทีมชาติไทย ภายใต้ มาซาทาดะ อิชิอิ ขาจุ่มเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ไป 1 ข้างแล้ว

พูดตามตรงว่า 4 คะแนนจาก 2 เกม พร้อมเก็บคลีนชีตทั้ง 2 นัด ค่อนข้างเซอร์ไพรส์ผู้เขียนพอสมควร

เพราะที่ผ่านมาทัพช้างศึก แทบไม่เคยไม่เสียประตูเลย เวลาเจอกับทีมระดับนอกอาเซียน หรือที่แรงกิงสูงกว่า

แต่ในความไม่พร้อมหลาย ๆ ด้าน อิชิอิ กลับเนรมิตทีมชาติไทยชุดนี้ออกมาได้ค่อนข้างน่าสนใจ แม้ผู้เล่นแทบไม่ได้เปลี่ยนไปจากชุดเก่าเท่าไหร่นัก

สิ่งที่เปลี่ยนคือ นักเตะมีความมุ่งมั่น กระหายในเป้าหมาย รู้หน้าที่ตัวเองว่าจะเล่นแบบไหน ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างไร

กองหลังมีข้อผิดพลาดให้เห็นบ้างบางจังหวะ แต่ภาพรวมทำได้ดี เก็บงานได้เนี้ยบ ลูกไหนไม่เสี่ยงสกัดทิ้ง ไม่มีมาหวงบอลเก็บบอลให้หวาดเสียว

กองกลาง อาจมีเปลี่ยนหน้าตาจากเดิมไปบ้าง แต่ทำหน้าที่เป็นผึ้งงานได้ดี ทั้งปัดกวาดหน้ากองหลังและสร้างสรรค์เกม ส่วนกองหน้าเองก็ใช้จังหวะน้อย คิดไว ทำไว จบสกอร์ ไม่มัวมาติ๊ดชึ่งเคาะบอลไปมาให้มากความเหมือนแต่ก่อน

ยุค อิชิอิ ทีมชาติไทย เน้นครองบอลเคาะไปมาน้อยลง แต่พยายามให้บอลเคลื่อนที่ไปข้างหน้าตลอด เกมรับก็รับเป็นระบบ แต่ละคนรู้หน้าที่ตัวเอง เห็นได้จาก 2 เกมที่ผ่านมา แม้เปอร์เซ็นต์ครองบอลทีมชาติไทยน้อยกว่าคู่แข่ง แต่สิ่งโอกาสจบสกอร์ก็เท่าหรือมากกว่าคู่แข่ง

เก็บชนะ คีร์กีสถาน 2-0 เกมรับ-เกมรุปทำได้อย่างเนียนตาหมดจด ขณะที่เกมล่าสุดที่เสมอ โอมาน 0-0 แม้รูปเกมจะเป็นรอง แต่ก็เป็นแท็คติกที่ “เต็มใจเป็นรอง” เพราะ อิชิอิ มองว่า 1 คะแนนอาจเพียงพอสำหรับการเข้าสู่รอบถัดไปได้

สุดท้ายตัวนักเตะเองก็ทำได้สำเร็จ ตรงนี้ต้องชื่นชมทุกคนที่มีวินัยการเล่นเป็นอย่างดี และทำตามแบบแผนของกุนซือ

จริงอยู่ว่าแม้จะเก็บคะแนนได้ตามเป้า และสถานการเรียลไทม์ (เขียนหลังเกมกลุ่มเอจบ) ไทย ยังไม่เข้ารอบ 100% ไม่ว่าจะเป็นอันดับ 2 หรือ อันดับ 3 ที่ดีสุดก็ตาม

แต่สถานการณ์กลุ่มเอหลังแข่งครบ 3 เกม ทีมอันดับ 3 ของสายคือ สาธารณรัฐประชาชนห้วยขวาง เอ้ย! จีน ซึ่งมีเพียง 2 คะแนน จากผลงาน เสมอ 2 แพ้ 1

ว่ากันตามตรงกันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 จาก 6 กลุ่ม ถูกตัดไปแล้วแน่ ๆ 1 กลุ่ม เหลืออีกแค่ 1 ชาติจาก 5 สายเท่านั้น ที่จะไม่ได้ไปต่อ

เมื่อเทียบเคียงกับสายอื่น ๆ โอกาสผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของไทยยังถือว่าสูงอยู่ดี (ในกรณีที่เข้าเป็นอันดับ 3) จากการมีตุนอยู่ในมือ 4 คะแนน

1. กลุ่มบี หาก ซีเรีย กับ อินเดีย จบลงที่ผลเสมอ

2. กลุ่มซี หาก ฮ่องกง ไม่แพ้ ปาเลสไตน์

3. กลุ่มดี หาก คู่ระหว่าง อินโดนีเซีย พบ ญี่ปุ่น มีผลแพ้ชนะ

4. กลุ่มอี หาก จอร์แดน ชนะ บาห์เรน

ใน 4 เงื่อนไขนี้หากเกิดขึ้นแค่เพียงข้อเดียว ทีมชาติไทย จะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ทันที 100%

แต่หากไม่ต้องลุ้นอะไรมาก เกมสุดท้ายที่พบ ซาอุดีอาระเบีย ที่ผ่านเข้ารอบชัวร์แล้ว ไทย มีแค่ 1 คะแนน ก็จะเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ทันที โดยไม่ต้องสนใจผลอีกคู่ในสาย

กลับกันหากไทยแพ้ แล้ว โอมาน เกิดชนะ คีร์กีซสถาน อาจต้องมาวัดกันที่ผลประตูได้เสีย หรือ จำนวนใบเหลือง ว่าใครจะดีกว่ากัน

หากเข้ารอบในฐานะอันดับ 2 คู่ต่อสู้ที่รออยู่คือ อุซเบกิสถาน หรือ ออสเตรเลีย

หากเข้ารอบในฐานะอันดับ 3 คู่ต่อสู้ที่รออยู่คือ ยูเออี, อิหร่าน หรือ อิรัก

แต่ดูเหมือนว่า อิชิอิ เองคงไม่ซีเรียสนัก เพราะเป้าหมายหลักคือการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายให้ได้ก่อน จากนั้นที่เหลือคือกำไร มีเท่าไหร่ใส่ให้หมด

เพราะหากอยากปีนป่ายไปแตะกำแพงเอเชีย ก็ต้องผ่านชาติเหล่านี้ให้ได้อย่างไม่มีข้อแม้