อันที่จริงต้องบอกว่า กระบี่ฯ คือหนึ่งในทีมที่มีปัญหามารุมเร้าตั้งแต่ยังไม่เปิดฤดูกาล ทั้งในเรื่องของงบประมาณและความชัดเจนในการทำทีม ก่อนสุดท้ายแล้วจะเป็น "โกจ๋วน" สมเกียรติ กิตติธรกุล ประธานสโมสรและนายกสมาคมกีฬาของจังหวัดกระบี่ ตัดสินใจส่งทีมเข้าแข่งขันต่อในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น 

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ดูเหมือนปัญหาจะทุเลาลงบ้างแล้ว แต่เปล่าเลย เพราะเรื่องต่อมาก็เป็นการคัดเลือกตัวผู้เล่น ที่กระบี่ฯ แทบจะไม่ได้มีบิ๊กเนมเข้ามาสู่ทีม เนื่องจากตลาดซื้อขายใกล้ปิดแล้ว บรรดาพ่อค้าแข้งมากดีกรีจึงมีสโมสรรองรับไปแทบทั้งหมด แค่นั้นยังไม่พอ มันยังตามมาด้วยปัญหาการลงทะเบียนนักเตะ ที่พวกเขาต้องพลาดการใช้งานอดีตแบ็คซ้ายทีมชาติไทยอย่าง วีระวุฒิ กาเหย็ม เพราะส่งชื่อเข้าระบบไม่ทัน

นี่คือเรื่องวุ่นๆ บางส่วนที่ กระบี่ เอฟซี ต้องเจอตั้งแต่ยังไม่เริ่มแข่ง แน่นอนว่าการเริ่มต้นฤดูกาล 2023-24 ของพวกเขาจึงไม่ได้มีอะไรที่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก แม้จะเปิดหัวด้วยการแบ่งแต้มกับ ชัยนาท ฮอร์นบิล ในแมทช์เดย์ที่ 1 ก็ตาม โดยในช่วง 12 นัดแรกนั้น กระบี่ฯ ไม่ชนะใครเลย จึงทำให้ต้องลงไปจมบ๊วยของตารางคะแนนอย่างไม่ต้องสงสัย 

และกว่าจะมาปลดล็อก 3 คะแนนแรกได้นั้น ก็ต้องรอจนถึงเกมที่ 13 ที่บุกไปเยือน เกษตรศาสตร์ เอฟซี (ชนะ 1-0) และก็เป็นประธานสโมสรอย่าง "โกจ๋วน" อีกนั่นแหละ ที่รังสรรค์การเปลี่ยนแปลงให้กับทีม เริ่มจากการดึงตัว "โค้ชหนุ่ม" อานนท์ บรรดาศักดิ์ พ่วงด้วยผู้ช่วยอย่าง "โค้ชต่อ" ธีระยุทธ งามละม้าย เข้ามากุมบังเหียนให้กับทีมแทนที่ของ "โค้ชเต้" อลงกรณ์ ทองอ่ำ 

แม้จะปลดล็อกชัยชนะแรกรวมถึงมีการเปลี่ยนแปลงภายในทีมไปบ้างแล้ว แต่สถานการณ์ของพวกเขาก็ไม่ได้ดีขึ้นแต่อย่างใด สุดท้ายแล้ว กระบี่ เอฟซี จบเลกแรกด้วยการอยู่อันดับสุดท้ายของตารางคะแนน โดยเก็บได้เพียง 7 แต้ม จากการลงสนาม 17 นัด พร้อมกับเป็นทีมเดียวในลีกที่เก็บแต้มได้เพียงหลักหน่วยเท่านั้น

แม้ภาพรวมของทีมจะเข้าขั้นวิกฤต แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ "โกจ๋วน" ถอดใจเลยแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้าม เขาสั่งให้ทีมงานเดินหน้าสู้ต่อในช่วงเวลาที่เหลือ จะเห็นได้จากการเซ็นสัญญานักเตะบิ๊กเนมหลายคนเข้ามาสู่ทีมในตลาดซื้อขายรอบสอง ไม่ว่าจะเป็น ลูคัส มาสซาโร่ ที่เคยยิงกระจายให้กับ ลำปาง เอฟซี, พงศ์พัทธ์ หลิวรุ่งเรืองกิจ ที่เคยเป็นแชมป์ลีกกับ นครปฐม ยูไนเต็ด รวมไปถึง รามอน โรดริเกซ ที่เคยคุมแนวรับให้กับ หนองบัว พิชญ เหล่านี้คือบางส่วนที่ตบเท้าเข้ามาเป็นนักเตะให้ทีม "อินทรีอันดามัน" ในช่วงเลกสองนี้

ถามว่าทำไมถึงยังกล้าทุ่มทุน ทั้งที่สถานการณ์ของทีมกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก คำตอบก็คงมีอยู่แค่อย่างเดียวนั่นแหละคือ "ความรัก" 

คงไม่ต้องบอกว่า "โกจ๋วน" รักสโมสรแห่งนี้มากแค่ไหน เอาแค่ว่าการต้องจ่ายเงินทำทีมติดต่อกันเป็นเวลาหลายฤดูกาล ก็น่าจะหมดสตางค์ไปเป็นหลักร้อยล้านบาทแล้ว ถ้าไม่รักกันจริง ก็คงทำแบบนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน

และแม้จะมีการเสริมทัพเข้ามาอย่างมากมาย แต่จนถึงตอนนี้ ผลงานของ กระบี่ เอฟซี ก็ยังคงไม่กระเตื้องเท่าไหร่นัก พวกเขายังจมบ๊วยอยู่เช่นเดิมตามที่ได้บอกไปในตอนต้น ถึงจะมีเกมสุดประทับใจที่เปิดบ้านเอาชนะทีมที่ลุ้นเลื่อนชั้นอย่าง เชียงใหม่ เอฟซี อยู่ก็ตาม 

โดยสถานการณ์ปัจจุบัน กระบี่ฯ มีคะแนนห่างโซนปลอดภัยอยู่ถึง 10 คะแนนเข้าไปแล้ว คงยากแน่ๆ ถ้าจะลุ้นให้เกิดปาฏิหาริย์แบบฤดูกาลก่อน

และถ้าหากวันนั้นมาถึงจริงๆ (การตกชั้นและต้องลงไปเริ่มต้นใหม่ในศึกไทยลีก 3) ก็อาจเป็นเรื่องที่แฟนบอลทำใจได้ยาก แต่อย่างน้อยหนึ่งเรื่องที่น่าจะรับประกันได้เลยก็คือ จะยังมีสโมสรที่ชื่อว่า กระบี่ เอฟซี ให้แฟนบอลได้เชียร์กันต่อไปอย่างแน่นอน เพราะยังไง "โกจ๋วน" ก็คงไม่ปล่อยให้ชื่อทีมนี้หายไปจากสารบบฟุตบอลไทยแน่ๆ 

ซึ่งก่อนที่จะถึงวันนั้น เราต้องบอกว่ายังพอมีเวลาให้ได้สู้กันอยู่ เพราะยังเหลือโปรแกรมการแข่งขันอยู่อีกหลายเกม

ก็ขอเป็นกำลังใจให้คนรักฟุตบอลแบบนี้นะครับ จะรอดหรือไม่รอด ก็ยังไม่มีใครรู้ แต่สิ่งที่ "โกจ๋วน" ได้ทำมาทั้งหมดนั้น หาได้ยากมากในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งเราก็เชื่อเหลือเกินว่ามันได้ใจแฟนบอลไปแบบเต็มๆ แล้ว

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในฤดูกาลหน้า จะยังได้เขียนถึงสโมสรแห่งนี้อยู่ และเป็นในกรณีของทีมจากศึกไทยลีก 2 นะ