:::     :::

เรื่องไม่ลับกับ "วาตารุ เอ็นโด"

วันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
780
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

สำหรับ “วาตารุ เอ็นโด” กัปตันทีมชาติญี่ปุ่น หลังจากปรับตัวมาสักพัก เอ็นโด กลายมาเป็นนักเตะที่ทางเยอร์เก้น คล็อปป์ ส่งลงสนามอย่างสม่ำเสมอ จนกลายเป็นส่วนสำคัญ ในการพาทีมคว้าแชมป์แรกของฤดูกาลนี้ ในศึก “คาราบาว คัพ” จากการเอาชนะเชลซี 1-0 


นอกจากนี้ เอ็นโด ยังไม่ทำให้ผู้จัดการทีม และแฟนบอลของพลพรรค “หงส์แดง” ต้องพบความผิดหวัง เมื่องัดฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมออกมา ส่งผลให้หลายคนลืมการพลาดตัว มอยเซส ไกเซโด และโรเมโอ ลาเวีย ที่ย้ายไปร่วมทีมเชลซี 


นอกจากนี้ หลายคนยังยกย่องสโมสร ที่ทำการคว้าตัวเอ็นโด มาร่วมทีมอีกว่า นี่ถือเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุด ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเลย 


นั่นคือเรื่องราวในสนามของเอ็นโด กับภาพที่หลายคนเห็นกันจนชินตาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งสู้ฟัด, เสียบสกัด และทุ่มเทแบบสุดพลัง 


อย่างไรก็ตาม เอ็นโด ยังมีเคล็ดลับ ซึ่งเหมือนกับเหตุผลทางด้านจิตวิทยา ที่เอาไว้ใช้เวลาลงสนาม แน่นอนว่า เป็นเหตุผลที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน นั่นคือการสวม “ฟันยาง” ลงสนามของเอ็นโด


ช่วงนี้ เราลองไปดูกันว่า จุดเริ่มต้นการสวมฟันยางลงสนามแข่งขันของเอ็นโด เริ่มมาจากตรงไหน และ ส่งผลในแง่ของจิตวิทยา ในการเล่นฟุตบอลของเขาอย่างไร ? 

ภาพที่เราเห็นจนชินตา นั่นคือ เอ็นโด คือนักฟุตบอลเพียงไม่กี่คน ที่เลือกสวม “ฟันยาง”ลงสนามแข่งขัน ในลีกชั้นนำของโลก การสวมฟันยางลงสนามของเอ็นโด สร้างความประหลาดใจให้กับเหล่าแฟนบอลหลายคน ที่มองว่ามันเป็นเรื่องแปลกใหม่ ในวงการลูกหนัง


ก่อนหน้านี้ ฟันยางถือเป็นอุปกรณ์สำคัญ ในการแข่งขันกีฬารักบี้ และอเมริกันฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬาที่ต้องใช้การเข้าปะทะอย่างต่อเนื่อง เอ็นโด ออกมาย้อนความทรงจำว่า “ผมเริ่มสวมฟันยาง เพื่อลงเล่นฟุตบอล ในฤดูกาล 2020-21”


“สำหรับครั้งแรก ที่ผมตัดสินใจสวมฟันยาง เกิดขึ้นตอนผมพบกับทันตแพทย์ชาวญี่ปุ่น ผมมองว่า ฟุตบอลเป็นกีฬาแห่งการปะทะ แม้มันจะไม่หนักเท่ากับรักบี้ หรืออเมริกันฟุตบอล แต่สามารถเกิดอุบัติเหตุฟันหัก จากการกระแทกได้”


“เป้าหมายของผมคือ การปกป้องฟันของตัวเอง ผมไม่เพียงแค่สวมฟันยาง เพื่อเป็นการปกป้องฟันบน แต่เป็นการปกป้องฟันล่างด้วย ปัจจุบัน ผมสามารถพูดได้ว่า ผมกลัวที่จะเล่นฟุตบอล หากไม่ได้สวมใส่ ฟันยางลงสนาม”


“ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ผมชอบสวมฟันยางสีแดง หรือไม่ก็น้ำเงิน เพราะว่ามันเป็นสีของสตุ๊ทการ์ท และทีมชาติญี่ปุ่น” นี่คือจุดเริ่มต้นการสวมฟันยางของเอ็นโด ที่ไม่ใช่เรื่องของความเท่ หรือความเป็นแฟชั่น เหมือนที่หลายคนเข้าใจ 


แต่เป็นการช่วยผ่อนน้ำหนัก จากการปะทะที่ใบหน้า ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการกระทบกระเทือนทางสมอง หรืออาจเกิดอัมพาตได้ 

การสวมฟันยางของเอ็นโด ไม่ใช่การซัพพอร์ท และลดแรงกระแทกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่การสวมฟันยาง ลงเล่นลีกที่เข้าปะทะกันอย่างดุเดือดอย่างพรีเมียร์ลีก ยังมีเรื่องของ “วิทยาศาสตร์ทางการแพทย์” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย 


เอ็นโด กล่าวว่า ทันตแพทย์ที่แนะนำให้เขาสวมฟันยางลงสนามแข่งขัน มอบคำแนะนำที่น่าสนใจ ทันตแพทย์บอกกับเขาว่า คนเรามีโอกาสเอาตัวเองไปอยู่ในความเสี่ยง   ในการสูญเสียฟันของตัวเอง 


ดังนั้น การจัดระเบียบ และการป้องกันขากรรไกร ช่วยส่งผลดีในแง่ของร่างกาย และจิตใจ นี่คือเรื่องที่หลายคนมองข้ามไป อย่างที่บอกไปแล้ว เอ็นโด ไม่เหมือนกับนักกีฬาคนอื่นๆ เนื่องจากเขาสวมใส่ฟันยาง ป้องกันทั้งฟันบน และฟันล่าง


เหตุผลสำคัญ เพื่อเป็นการป้องกันขากรรไกรแบบเต็มระบบนั่นเอง ทำให้เขาลงเล่นด้วยความมั่นใจมากกว่าเดิม เรื่องราวที่หลายคนอาจยังไม่เคยทราบมาก่อน นั่นคือเอ็นโด ไม่ได้เลือกจะสวมฟันยางแบบสำเร็จรูป หรือที่ทำออกมาเป็นไซส์


เอ็นโด สั่งทำฟันยางแบบพิเศษ ที่ได้รับการออกแบบเฉพาะบุคคล โดยที่ผ่านกระบวนการทดลองมาอย่างพิถีพิถัน การสั่งทำฟันยางของเอ็นโด ต้องผ่านการลองกัด, วัดตำแหน่งกราม และเลือกวัสดุแบบพิเศษ เพื่อเป็นการรองรับรูปทรงปากของเขา


นี่คือเรื่องราวความเป็นมืออาชีพ และการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของเอ็นโด ตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น ที่ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของฟันยาง 

ประการสุดท้าย เอ็นโด บอกว่า “ฟันยาง” ช่วยเหลือเขาในแง่ของจิตวิทยาเป็นอย่างมาก ซึ่งส่งผลในแง่บวกต่อการเล่นในสนามแข่งขัน เอ็นโด บอกว่า ฟันยางมีข้อดี นั่นคือการช่วยให้เขารู้สึกถึงความมั่นใจ และช่วยให้เขารู้สึกราวกับเป็น “นักรบ” 


โดยกล่าวว่า “ฟันยางทำให้ผมไม่รู้สึกกลัวการฟันหัก ดังนั้น ผมจึงพร้อมเสียบสกัดแบบไม่ยั้ง ในการเข้าสกัดแบบ 1 ต่อ 1 ” 


“นอกจากนี้ ฟันยางยังมีข้อดี เพราะช่วยให้ผมรู้ตำแหน่งฟันกรามของตัวเอง  นำมาซึ่งความรู้สึกปลอดภัย และผ่อนคลาย ผมสวมฟันยาง เพื่อเป็นการป้องกันฟันหัก นอกจากนี้ ทำให้ผมรู้สึกราวกับเป็นนักรบเลย”


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด