:::     :::

คุยกับ "เจ" อัครพงศ์ พุ่มวิเศษ "มิสเตอร์ราชันโคขาว"

วันศุกร์ที่ 01 มีนาคม 2567 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
1,331
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฤดูกาล 2023/24 ถือเป็นช่วงที่ "ราชันโคขาว" ลำพูน วอร์ริเออร์ เจอมรสุมซัดซวนเซจนเกือบล้ม กระทั่งมีข่าวลือตามมาว่าสโมสรอาจโดน บริษัท ไทยลีก จำกัด ตัดสิทธิ์จากการแข่งขัน ทว่าตอนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นและทีมยังเดินหน้าต่อไป

แต่สภาพจิตใจของนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชในทีม ณ เวลานั้นมีความกังวล ทำให้ผลงานของทีม “ราชันโคขาว” ในช่วงเปิดฤดูกาลย่ำแย่ แพ้ติดต่อกันยาว 4 นัด จนอันดับในตารางคะแนนรูดไปอยู่โซนตกชั้น แถมถูกคาดการณ์ว่าจะร่วงตกชั้นลงไปเล่นลีกรองฤดูกาลหน้า 

แต่จุดเปลี่ยนของฤดูกาลอยู่ที่เกมที่ 9 ซึ่ง “ราชันโคขาว” เปิดบ้านเอาชนะน้องใหม่ นครปฐม ยูไนเต็ด ไป 2-0 จากนั้น 9 นัด พวกเขาแพ้เพียงแค่เกมเดียว ชนะ 6 นัด เสมอ 3 นัด 

ทำให้อันดับขยับมาอยู่ที่ 7 ของตาราง ซึ่งคีย์แมนสำคัญที่พาทีมทำผลงานเทพคงหนีไม่พ้น “เจ” อัครพงศ์ พุ่มวิเศษ กองกลางกัปตันทีมที่ยิงไป 6 ประตู เป็นดาวซัลโวประจำทีม 

ดาวเตะคนนี้เป็นใคร มาจากไหน เราไปติดตามเรื่องราวของเขาในคอลัมน์นี้กันครับ 


แมน : สวัสดีครับ เจ 

เจ อัครพงศ์ : สวัสดีครับพี่ ยินดีมากครับที่ได้มาพูดคุยกัน

แมน : อยากให้เจช่วยเล่าให้ฟังถึงเส้นทางฟุตบอลหน่อยว่ามีจุดเริ่มต้นยังไง

เจ อัครพงศ์ : ผมเริ่มเล่นฟุตบอลแบบจริงจัง ตั้งแต่เด็กเลยครับ เล่นตามพี่ชาย ปัญญพนต์ พุ่มวิเศษ ยิ่งเราเห็นเขาเป็นนักฟุตบอลเลยอยากเป็นแบบเขา 

แมน : จุดเปลี่ยนในเส้นทางลูกหนังของเราคืออะไร

เจ อัครพงศ์ : คงเป็นตอนที่เรียนจบระดับประถมศึกษา แล้วตัดสินใจเดินทางจาก จ.ชุมพร บ้านเกิดมาเรียนระดับมัธยมที่ โรงเรียนปทุมคงคา ได้เล่นฟุตบอลที่นี่จนจบมัธยมแล้วเลยอยากหาความท้าทายเล่นระดับอาชีพครับ 


แมน : เส้นทางฟุตบอลราบรื่นดีมาตลอดมั้ย

เจ อัครพงศ์ : ไม่ดีเท่าไหร่ครับ เพราะพ่อกับแม่เขาอยากให้เรากลับไปเรียนที่ ชุมพร เนื่องจากมีช่วงที่ผมเที่ยว กินดื่ม ตามประสาวัยรุ่น เขากลัวเรียนไม่จบ เขาอยากให้เราเรียนจบระดับปริญญาตรี 

ผมจึงตัดสินใจจาก ม.รัตนบัณฑิต ไปเรียนที่ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชุมพร ต่อมาได้เล่นฟุตบอลระดับอาชีพกับทีม ชุมพร เอฟซี เป็นเวลา 3 ปี จนเรียนจบ จากนั้นเลยอยากหาประสบการณ์ใหม่เลยหาทีม ก่อนจะไปขอคัดตัวกับ บ้านบึง ภูเก็ต ซิตี้ ซึ่งมี  “โค้ชปอนด์” จงสฤษดิ์ วุฒิช่วย เป็นเฮดโค้ช เขาก็ถามเราเป็นใครมาจากไหน ทดสอบฝีเท้าได้ 1 สัปดาห์ก็ได้เซ็นสัญญากับทีม 


แมน : แล้วมาอยู่กับ ลำพูน วอร์ริเออร์ ได้ยังไงครับ

เจ อัครพงศ์ : ตอนนั้น โค้ชปอนด์ เขาไปคุมทีม ลำพูนฯ เขาอยากได้กองกลางเลยโทรศัพท์มาหาผม ชวนผมไปอยู่ด้วย เป็นช่วงที่หมดสัญญาพอดี ทาง ลำพูน เขามีเป้าหมายว่าอยากเลื่อนชั้นด้วย เราเองก็อยากไปเล่นระดับที่สูงอยู่แล้ว ก็เลยย้ายไป ลำพูนฯ 

แมน : การมาอยู่กับ ลำพูน วอร์ริเออร์ ปรับตัวยากไหม

เจ อัครพงศ์ : ไม่ยากครับ เพราะ โค้ชปอนด์ เขารู้ศักยภาพของเรา และรู้ว่าจะใช้เรายังไง เราก็แค่ทำผลงานในสนามให้เต็มที่แค่นั้นครับ จนผลงานของทีมดี ได้แชมป์ไทยลีก 3 และ ไทยลีก 2 ได้เลื่อนชั้นมาเล่นในไทยลีก 

แมน : อยู่ ลำพูน วอร์ริเออร์ ได้ร่วมงานกับนักเตะฝีเท้าดีหลายคน ประทับใจใครมากที่สุด


เจ อัครพงศ์ : ผมชอบเอาจุดเด่น จุดดีของหลายๆ คนมาปรับใช้ อย่าง “บังดุล” อดุลย์ หละโสะ ซึ่งเป็นคนใต้เหมือนผม ผมพูดคุยกันบ่อย บังดุล สอนผมหลายอย่าง โดยเฉพาะความเป็นผู้นำผมได้จากเขาเยอะมากๆ อย่างพี่บาส อาทิตย์ สุนทรพิธ ก็ได้วิธีการเล่นกองกลาง เทคนิค วิธีการเล่นระดับสูงจากเขา 

แมน : การเล่นกับนักเตะระดับโลกอย่าง อาลี ซิสโซโก้ และ เจฟเฟรน ซัวเรส ช่วยยกระดับอะไรบ้าง

เจ อัครพงศ์ : อาลี ซิสโซโก้ หรือ เจฟเฟรน ซัวเรส เขาเป็นนักเตะระดับโลก แต่เขาไม่เคยถือตัวเลย เขาจะไม่พูดมาก แต่เขาจะทำให้เห็นว่านักเตะอาชีพที่ดีเขาต้องใช้ชีวิตอย่างไร ทั้งการอยู่ การกิน ส่วนในสนามเขาเต็มที่ เราก็จำเขามา สิ่งหนึ่งที่ผมจำมาตลอดคือ ทำมากกว่าพูด 


แมน : อเล็กซานเดร กาม่า มีส่วนยกระดับฟอร์มการเล่นอย่างไร

เจ อัครพงศ์ : เขารู้ว่านักเตะแต่ละคนศักยภาพเป็นอย่างไร เขาก็จะมอบหมายหน้าที่ในสนามตามความเหมาะสมของแต่ละคน ทุกคนล้วนเข้าใจแท็คติคของ กาม่า เมื่อลงสนามแล้วจึงทำผลงานได้ดี 

แมน : คิดว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ ลำพูน ฟอร์มดี

จ อัครพงศ์ : น่าจะเป็นเพราะผู้ใหญ่มอบความจริงใจกับเรา แม้จะเจอปัญหามากมายในช่วงต้นฤดูกาล แต่เขายืนยันกับนักเตะว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ให้ทำงานในสนามเต็มที่ เรื่องนอกสนามจะไม่ส่งผลต่อทีม ทำให้เราเชื่อใจและไม่ต้องกังวลใจ เต็มที่ในสนามพอ นอกจากนี้ผมว่าเราอยู่กันแบบครอบครัว หากใครมีปัญหาก็จะเปิดอกพูดคุยกันเสมอ ทำให้เราเชื่อใจ วางใจกัน และสนับสนุนกัน จนทีมเวิร์คของเราดีมาก เรามีเป้าหมายเดียวกันคือพาทีมจบอันดับในลีกสูงสุด และหวังคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยสักรายการ 


แมน : จนถึงตอนนี้เจลงเล่นกับ ลำพูน วอร์ริเออร์ เกิน 100 นัดไปแล้วนะครับ

เจ อัครพงศ์ : ผมว่าลำพูน คือบ้านของผมแล้ว ผมชอบบรรยากาศที่นี่ แฟนบอลที่นี่อบอุ่นมาก ยิ่งตอนเล่นในบ้านพวกเราพร้อมวิ่งถวายหัวเลย เราอยากมอบชัยชนะให้แฟนบอลทุกนัดเลย การเล่นที่สนามแม่กวง ผมอยากให้แฟนบอลมีความสุขกับฟอร์มของทีม ชัยชนะของทีม นี่คือสิ่งที่ผมภูมิใจที่สุดแล้ว 

แมน : เคยคิดไปถึงการติดทีมชาติบ้างไหมครับ

เจ อัครพงศ์ : เป้าหมายของนักเตะทุกคนคือการติดทีมชาติอยู่แล้ว ผมก็หวังจะเป็นเช่นนั้น ให้เป็นเรี่องของอนาคตดีกว่าครับ ตอนนี้ขอทำผลงานให้ ลำพูน ก่อน 

แมน : คิดว่าเส้นทางฟุตบอลเรามาไกลแค่ไหน

เจ อัครพงศ์ : ผมว่าไกลมาก ผมแค่อยากเล่นในลีกสูงสุดสักครั้ง แต่นี่ผมได้แชมป์ไทยลีก 3 และไทยลีก 2 จนมาเล่นในลีกสูงสุดตามฝันสำเร็จ มันมาไกลมากๆ ครับ 


แมน : เป้าหมายต่อจากนี้

เจ อัครพงศ์ : อยากเล่นกับ ลำพูน ไปเรื่อยๆ อยากทำให้แฟนบอลมีความสุข ทำอันดับในลีกให้ได้สูงที่สุด และคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยสักรายการ ผมว่าเรามีโอกาสทำได้ เพราะเราอยู่ในเส้นทางของฟุตบอลถ้วย ช้าง เอฟเอคัพ และ รีโว่ คัพ 

แมน  : ขอบคุณ เจ มากๆ ที่วันนี้สละเวลามาพูดคุยกัน 

เจ อัครพงศ์ : ขอบคุณพี่มากๆ เช่นกันครับ

ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์กันด้วยนะครับ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด