:::     :::

ได้เวลา 'แม็คก้า' เฉิดฉาย

วันศุกร์ที่ 08 มีนาคม 2567 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
386
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
โทนี่ บลูม เจ้าของทีม ไบรท์ตัน คงจะเดินหัวเราะตั้งแต่บ้านไปจนถึงธนาคารเมื่อเขาเห็นเช็คที่เขียนว่า 'หนึ่งร้อยสิบห้าล้านปอนด์' ที่สั่งจ่ายเพื่อแลกกับการปล่อย มอยเสส ไกเซโด้ เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว โดยตอนนี้มิดฟิลด์อยู่ที่ เชลซี และมีฤดูกาลแรกที่ห่วยแตกอย่างสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งสตาร์อย่าง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่ย้ายออกไปในตลาดเดียวกันในราคา 35 ล้านปอนด์ กลับเป็นสิ่งที่น่าเสียใจสำหรับ ไบรท์ตัน อย่างที่สุด เมื่อพิจารณาจากราคาที่ค่อนข้างต่ำ และเมื่อมองถึงความแข็งแกร่งของเขาในทีม ลิเวอร์พูล

การเริ่มต้นของเขาในเมอร์ซี่ย์ไซด์ไม่เป็นตามแผนในทีแรก เนื่องจากการออกจากทีมโดยไม่ทันตั้งตัวของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ่ นั่นทำให้ แม็ค อัลลิสเตอร์ ถูกบังคับให้ต้องไปเล่นเป็นมิดฟิลด์หมายเลข 6 ที่ยืนต่ำมาก เขาใช้เวลาราว 1 เดือนกว่าจะชินกับมัน แต่ไม่นานจากนั้นก็เริ่มทำได้ดีขึ้น

ในบทบาทนั้น ซึ่งเขาลงเล่นแทบทุกเกมในช่วงเดือนแรกของฤดูกาลในขณะที่ วาตารุ เอ็นโด กำลังปรับตัว แม็ค อัลลิสเตอร์ แสดงให้เห็นถึงความฉลาดทางเทคนิคที่มากมายตามแบบฉบับแข้งอาร์เจนไตน์ตัวจิ๋ว แต่ก็ยังมีความกัดไม่ปล่อยแบบไร้ความปรานีตามรากเหง้าสกอตติชและไอริชของเขาด้วย

กองกลางที่รู้จักกันในชื่อ 'แม็คก้า' ครอบงำในทั่วทั้งเคิร์กบี้ ว่ากันว่าเขาเป็นสมาชิกผู้มีอิทธิพลในห้องแต่งตัวพร้อมกับรอยยิ้มชวนให้ติดใจ เพื่อนซี้ของเขาคือ ดาร์วิน นูนเญซ และทั้งคู่ดูจะมีกระแสจิตที่ผูกพันกันมากขึ้นไปอีกไม่ว่าจะในหรือนอกสนาม

"แน่นอนว่าความสัมพันธ์ของผมกับ ดาร์วิน ดีมาก" เขากล่าวในสัปดาห์นี้

"ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราพบกัน คุณสามารถเห็นความเชื่อมโยงระหว่างเราได้ตอนอยู่นอกสนาม ในสนามเราก็พยายามจะเชื่อมโยงกัน ตอนที่ผมเล่นในตำแหน่งหมายเลข 8 แน่นอนว่าการเชื่อมโยงนั้นมีความสำคัญ"

"ผมเล่นฟุตบอลมากนานมากแม้ว่าผมจะยังหนุ่มอยู่ก็ตาม ประสบการณ์มันช่วยได้ สำหรับผมมันสำคัญที่ต้องคิดในสนามและดูว่าเพื่อนร่วมทีมของคุณอยู่ที่ไหน  เมื่อคุณได้บอลแล้วคุณต้องตัดสินใจ ผมไม่รู้ว่าตัวเองดูเยือกเย็นรึเปล่า แต่สมองของผมมันอยู่ที่ 200 เปอร์เซ็นต์!"

ในการซ้อม ท้ังคู่มักจะมีชามาเต มาดื่มด้วยกัน และก็ชอบล้อเลียนกัน เพื่อนจากอเมริกาใต้อย่าง อาลีสซง และ หลุยส์ ดิอาซ ก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้นเช่นกัน และผู้เล่นทั้ง 4 คน จาก 4 ชาติ ก็มีเรื่องให้ขิงกันว่าประเทศใครดีกว่า

นูนเญซ มีสิทธิ์อวดอ้างตัวเองในตอนนี้ โดยเขาทำประตูให้ อุรุกวัย ในเกมเจอกับทั้ง บราซิล และ อาร์เจนตินา เมื่อปีที่แล้ว

เขามีสิทธิ์โอ้อวดอีกในหลายๆ ส่วนเวลานี้ หลังจากทำประตูชัยในนาทีที่ 99 ที่ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ หลังจากนั้นก็ทำประตูที่ 1,000 ให้ ลิเวอร์พูล ในยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่กรุงปราก เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่ นูนเญซ ก็ตอบขอบคุณ แม็ค อัลลิสเตอร์ สำหรับสิ่งนั้นด้วย 2 แอสซิสต์อันโดดเด่นใน 2 เกมหลังสุด

ในขณะที่คนอื่นๆ ตกเป็นข่าวพาดหัวใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น นูนเญซ หรือเหล่าเด็กๆ จากอะคาเดมี่ แต่ แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็มีความกระตือรือร้นอยู่เสมอ เขาอาจไม่ใช่คนที่ส่ง ลิเวอร์พูล ไปสู่ชัยชนะโดยตรง แตเขามีความสำคัญที่มากขึ้นเรื่อยๆ

อิทธิพลของเขาที่มีต่อเกมเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นับตั้งแต่ คล็อปป์ มอบใบอนุญาตให้เขากลับไปเล่นเป็นเบอร์ 8 ตามถนัด โดยมีกัปตันทีมชาติญี่ปุ่นอย่าง เอ็นโด ปักหลักอย่างแข็งแกร่งในพื้นที่หมายเลข 6 ทั้งคู่มีความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับวิธีการควบคุมเกม

โดมินิก โซบอสไล กองกลางที่ย้ายมาในช่วงซัมเมอร์เหมือนกันทำให้เกิดความตื่นเต้นในช่วงต้นซีซั่น แต่ แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็ดึงดาวเตะฮังการีออกจากการสนทนาเรื่องการซื้อแห่งฤดูกาล มันไม่ใช่แต่กับ ลิเวอร์พูล เท่านั้น แต่หมายถึงทั้งลีกเลย

ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์กล่าวในสัปดาห์นี้ว่าเขาสนุกในทุกวันกับการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกและคาราบาว คัพ หากเขายังรักษาผลงานอันโดดเด่นเหล่านี้ไว้ แม็ค อัลลิสเตอร์ คงจะต้องเพิ่มตู้เก็บเหรียญรางวัลอีกเป็นแน่


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด