อัลเฟรด กับ เก้าอี้เสี่ยงทาย
นั่นคือครั้งสุดท้ายที่ฉันพบกับ “อัลเฟรด” เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ หรือชายที่ฉันเรียกอย่างเต็มปากตลอดว่า “อาจารย์”
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ฉันถูกที่ทำงานเก่าส่งไปดูแลสารทุกข์สุขดิบ และเป็นหนึ่งในทีมงานทัพชบาแก้ว U-19 ซึ่งโมงยามนั้นมีทัวร์นาเมนต์แข่งขันที่ “ย่างกุ้ง” มี หนึ่งฤทัย สระทองเวียน เป็นเฮดโค้ช ทว่าด้วยช่วงคาบเกี่ยวที่ อ.หนึ่ง ต้องศึกษาโปรไลเซนต์โค้งสุดท้าย ทำให้แต่งตั้ง เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ เข้ามาช่วยและเป็นหนึ่งในสตาฟฟ์ ส่งให้ฉันกับชายที่ถูกเรียกว่า “นินุ” รู้จักมักจี่กันมากขึ้น
อาจารย์เป็นคนลูกหนังที่มีดีเอ็นเอของชาวตะวันตกมาเต็มเปี่ยม ทัศนคติการใช้ชีวิตไม่ได้ออกโทนคนไทยเลยสักนิด ตั้งแต่กิจวัตรประจำวัน การกิน รวมถึงวินัย
ทุกวันที่ทีมหญิงไทยมีแข่งขัน หรือ ซ้อม อาจารย์จะออกมานั่งรอหน้าล็อบบี้โรงแรมคนแรกเสมอ การคุมทีมซ้อมในสนามก็จะเข้มงวด จุดไหนไม่ใช่จะสั่งหยุดและเข้าไปอธิบายเสมอ
กระทั่งการกิน ก็ถือว่าโคตรแปลก (ฮา) อาจารย์เป็นคนไม่ทานข้าว และรับประทานอาการแค่มื้อเย็นอย่างเดียว เมนูหลักของเขาคือเนื้อและผัก ครั้งหนึ่งระหว่างร่วมวงเสวนา อาจารย์กินขาแกะน่องใหญ่ๆคนเดียว 12 ชิ้น (เถื่อนมากดอกนี้) ไม่นับซุปผัก และขนมปังเนย
เราพูดคุยกันหลายเรื่องทั้งชีวิตที่เขาหันหลังให้ลูกหนังก่อนวัยอันควร จวบจนเข้าสู่วงการกอล์ฟเพราะพ่อตา และกลับมาใช้ชีวิตข้างสนามฟุตบอลอีกครั้ง
หลังจบงานทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลหญิง ฉันทราบว่าเขาอยากหาความท้าทายในระดับอาชีพดู เนื่องจากเขาเคยพูดบ่อยครั้งว่า ได้รับการติดต่อจากหลายสโมสรในลีกระดับล่างให้มาช่วยคุมทีม จนในที่สุดเขาเริ่มงานโค้ชอย่างทางการกับ กาฬสินธุ์ เอฟซี ทีมเล็กๆทางภาคอีสาน
ฉันไม่รู้ว่าเขาพุ่งชนปัญหาอะไรที่นั่น หลังอยู่ข้างสนามได้เพียง 8 เกม เขาตัดสินใจลาออก หากให้เดาฉันเชื่อว่าทัศนคติอาจารย์อาจไม่ตรงกับนักเตะหรือผู้ใหญ่ที่นั่น หรือไม่คงเรื่องผลงานที่ไม่ได้ดังใจ (ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 4 )
แต่สิ่งที่ทำให้ฉันเซอร์ไพรส์กว่า เห็นจะเป็นการที่อาจารย์กระโดดรับงานสโมสรลีกสูงสุดอย่าง ราชนาวี!
ตกใจทั้งที่ “อาจารย์” เลือกรับงาน และสโมสรตะหานน้ำที่เลือกชายชื่อ “อัลเฟรด” เข้ามารับเผือกร้อนต่อจากสองกุนซือเดิมอย่าง วิริยะ เผ่าพันธุ์ และ ชำนาญ แพรขุนทศ
นั่นถือเป็น “ก้าวสำคัญ” ของเขาอีกขั้นหลังจากก้าวข้ามจากไทยลีก 3 ขึ้นมายังลีกสูงสุด โดยมีเดิมพันสุดโหดนั่นคือการพาราชนาวี “หนีตกชั้น” ให้ได้ ซึ่งเวลานี้ทีมรั้งอันดับ 15
แหงล่ะ ... หลายคนอาจปรามาสจากผลงานที่ผ่านมาของ “อัลเฟรด” และมองว่าสโมสรทำอะไรที่โคตรเสี่ยง ในการตั้งเฮดโค้ชที่ไร้ประสบการณ์ในการคุมทีมสโมสรมาในช่วงเวลาที่ไม่อนุญาตให้ “พลาด”
แต่ก็อีกนั่นแหละ ของเช่นนี้อยู่ที่ “มันสมอง” โชคชะตาและจังหวะ เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ อาจพาทีมถีบตัวเองไปให้ไกลกว่าเก่าได้ หรือไม่ก็โคม่ากว่าเดิม ทุกอย่างเกิดขึ้นได้หมด
ผู้บริหารตะหานน้ำ วางเดิมพันครั้งนี้ไปแล้ว อยู่ที่ เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ จะพลิกทีมออกมาในรูปแบบไหน กับเส้นทางไทยลีกที่ยังเหลืออยู่มากกว่าครึ่งทาง
ได้แต่หวังว่า “เคมี” ของอาจารย์กับ ราชนาวี จะคลิกกัน