โจน ลาปอร์ต้า ประธานคนปัจจุบันของ บาร์เซโลน่า แถลงข่าวชี้แจงสถานการณ์ทางการเงินที่เรียกว่า 'น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง' ของสโมสร เนื่องจากมีหนี้สินก้อนโตถึง 1.35 พันล้านยูโร ซึ่งเป็น 'มรดกบาป' จากการบริหารงานผิดพลาดในยุคของ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานคนก่อนหน้านี้ ตามรายงานจากมุนโด้เดปอร์ติโบเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา 

บาร์โตเมว ก้าวขึ้นมาเป็นประธานสโมสรในช่วงเดือนมกราคมปี 2014 จนถึงเดือนตุลาคมปี 2020 แม้จะนำความสำเร็จมาสู่สโมสรการคว้าแชมป์ ลา ลีกา (4 สมัย), โกปา เดล เรย์ (4 สมัย), แชมเปี้ยนส์ลีก (1 สมัย), ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ (1 สมัย), ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ (1 สมัย) และ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ (2 ครั้ง) 

การบริหารงานผิดพลาดทั้งการทุ่มเงินมหาศาลเพื่อสัญญากับนักเตะและประเคนค่าเหนื่อยก้อนโตให้ผู้เล่นทำให้ต้องแบกภาระค่าจ้างที่คิดเป็น 103 เปอร์เซ็นต์ของรายได้สโมสร

นั่นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทีมอาซูลกราน่าไม่สามารถขยายสัญญากับ ลิโอเนล เมสซี่ เนื่องจากการทำข้อตกลงใหม่กับกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์จะทำให้ค่าจ้างนักเตะพุ่งสูงถึง 110 เปอร์เซ็นต์เกินกว่าข้อกำหนดที่ ลา ลีกา จะยอมรับได้ 

'เงินเดือนของเราคิดเป็น 103 เปอร์เซ็นต์ของรายได้รวมของสโมสร ซึ่งมากกว่าคู่แข่งของพวกเรา 20-25 เปอร์เซ็นต์' ลาปอร์ต้า เผย

'สิ่งแรกที่เราต้องทำเมื่อเรามาถึงคือการขอกู้เงิน 80 ล้านยูโร เพราะไม่อย่างนั้นเราไม่สามารถจ่ายเงินเดือนได้ การบริหารงานก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยการโกหก'

'เรายังพบว่าเราต้องบรูณะ คัมป์ นู อย่างเร่งด่วน เพราะไม่เช่นนั้น มันเสี่ยงต่อแฟนบอลที่เข้ามาชมเกม นอกจากนี้เรายังพบว่าสโมสรได้รับเงินค่าลิขสิทธิ์ทีวีล่วงหน้าแล้วถึง 50 เปอร์เซ็นต์'

'เราพบว่านโยบายค่าจ้างในรูปแบบของสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญเรียกว่าปิรามิดคว่ำ ผู้เล่นประสบการณ์ในข้อตกลงระยะยาวและนักเตะเยาวชนในสัญญาระยะสั้น ไม่มีการลดค่าจ้าง มีแต่เรื่องโกหก'

'เรายังพบว่ามีการจ่ายเงินให้คนกลางแบบไม่สมส่วน ไม่ใช่แม้แต่ตัวแทน' 

'บาร์เซโลน่า มีมูลค่าสุทธิติดลบ 451 ล้านยูโร มันเป็นมรดกบาป สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก'

'จดหมาย (เปิดผนึก) ของ บาร์โตเมว เป็นความพยายามที่จะชี้แจงเหตุผลในการจัดการที่ไม่ยุติธรรม มันเป็นการกระทำแบบสิ้นคิด พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบทุกอย่างจนถึงวันที่ 7 มีนาคม พวกเขาจะต้องไม่หนีความรับผิดชอบจากการกระทำของพวกเขา'

บาร์เซโลน่า เซ็นสัญญากับ 4 นักเตะใหม่ในช่วงซัมเมอร์นี้ทั้ง เมมฟิส เดอปาย, เอริก การ์เซีย, เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน และ เอแมร์ซอน โรยาล ก่อนสโมสรจะลงทะเบียนนักเตะใหม่อย่าง เดอปาย และ การ์เซีย ก่อนหน้าเกมเปิดซีซั่นใหม่กับ เรอัล โซเซียดาด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งทีมอาซูลกราน่าเป็นฝ่ายคว้าชัยด้วยสกอร์ 4-2 

ก่อน เคราร์ด ปีเก้ จะเป็นนักเตะอาวุโสที่นำร่องช่วยสโมสรด้วยการตกลงลดเงินเดือนถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง ลาปอร์ต้า คาดหวังว่านักเตะประสบการณ์คนอื่นๆจะเดินตามรอยกองหลังวัย 34 ปี 

'ผมขอขอบคุณ ปีเก้ สำหรับความเต็มใจของเขาที่จะช่วยเหลือสโมสร การลดค่าจ้างของเขาช่วยให้เราลงทะเบียนนักเตะได้ เราสามารถลงทะเบียน กุน (เซร์คิโอ อเกวโร่) ด้วยข้อตกลงที่เราวางแผนจะทำกับนักเตะคนอื่นๆ ผมหวังว่ากัปตันทีมคนอื่นๆจะทำเหมือนกับ ปีเก้'

แม้จะมีปัญหามากมาย แต่ ลาปอร์ต้า ยังเชื่อว่า บาร์เซโลน่า จะสามารถแก้ไขสถานการณ์นี้ได้และเปิดเผยเพิ่มเติมว่าสโมสรได้กู้เงินจำนวน 550 ล้านยูโรในอัตราดอกเบี้ย 1.1 เปอร์เซ็นต์เพื่อปรับโครงสร้างสโมสร พร้อมคาดการณ์ว่าจะต้องใช้เวลา 2-3 ปีกว่าสโมสรจะกลับมามีสถานะทางการเงินที่มั่นคงอีกครั้ง

'สถานการณ์เป็นเรื่องที่น่าทึ่ง แต่เรามีข่าวดีมาบอก' ลาปอร์ต้า กล่าว 'แผนยุทธศาสตร์ที่อิงจากความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ของเรา สินทรัพย์ที่ บาร์ซ่า มี ทำให้สถานการณ์นี้ดีขึ้นชั่วคราว ผมคิดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า สโมสรจะมีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้น'

'เราไม่กลัวเลย เรามีแรงจูงใจสูงและเป็นบวกและขวัญกำลังใจอยู่ในระดับสูง มันเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ แต่เราสามารถก้าวข้ามมันไปได้'

'ผมขอเรียกร้องให้แฟนบาร์ซ่าและในสโมสรทั้งหมดรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ด้วยฟุตบอลและความสามัคคี ผมเชื่อว่ายุคนี้จะเต็มไปด้วยความสำเร็จ' ลาปอร์ต้า กล่าว