เลอชอน แม็คคอย รันนิ่งแบ็กวัย 33 ปี ตัดสินใจอำวงการคนชนคนที่โลดแล่นมานาน 12 ฤดูกาลโดยเซ็นสัญญา 1 วันก่อนรีไทร์ฐานะ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ ทีมแรกในอาชีพของเขา ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์คเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา

แม็คคอย เป็นดาวเด่นของมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์ก ก่อนถูก อีเกิ้ลส์ ดึงเข้าลีกฐานะดราฟท์รอบ 2 คลาส 2009 เพื่อรับบททายาทของ ไบรอัน เวสต์บรู้ก รันนิ่งแบ็กระดับตำนานของ ฟิลาเดลเฟีย ก่อน แม็คคอย จะสร้างชื่อในการเล่นปีที่สองด้วยการถือบอลวิ่ง 1,080 หลาและทำ 7 ทัชดาวน์ กลายเป็นส่วนสำคัญในทีมบุกภายใต้ควอร์เตอร์แบ็ก ไมค์ วิค หนึ่งปีต่อมา แม็คคอย ถือบอลวิ่ง 1,309 หลาและทำถึง 17 ทัชดาวน์ นำไปสู่การติด 'โพร โบวล์' และ 'ออล-โพร' สมัยแรกของเขา

อดีตรันนิ่งแบ็กดังยังถือบอลวิ่งมากสุดอาชีพ 1,607 หลาในซีซั่น 2013 ก่อนกลายเป็นตัววิ่งคนที่ 30 ของเอ็นเอฟแอลที่ถือบอลวิ่งแตะหลัก 10,000 หลาในช่วงเดือนธันวาคมปี 2017 ตอนที่เล่นกับ บัฟฟาโล่ บิลล์ส จากนั้นย้ายมาเล่นกับ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ และ แทมป้า เบย์ บัคคาเนียร์ส 

ตลอดอาชีพของ แม็คคอย ถือบอลวิ่งรวมกัน 11,102 หลาและทำ 73 ทัชดาวน์ คว้าแชมป์ 'ซูเปอร์ โบวล์' สองสมัยกับ อีเกิ้ลส์ และ ชีฟส์ ติด 'ออล-โพร' สองสมัย และ 'โพร โบวล์' 6 ครั้งตลอดอาชีพ

'เลอชอน มีการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของความเร็ว, ความคล่องแคล่วและความสามารถในการเล่นที่ยอดเยี่ยม ซึ่งทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นทรงพลังที่สุดในลีกและเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีประสิทธิภาพมากสุดในประวัติศาสตร์ของแฟรนไชส์เรา' เจฟฟรีย์ ลูรี่ ประธานและซีอีโอของ อีเกิ้ลส์ กล่าวถึง แม็คคอย 'เลอชอน นำตัวเขามาด้วยการผสมผสานระหว่างความมั่นใจและความกระตือรือร้น แต่เขายังขับเคลื่อนด้วยความปรารถนาที่จะเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลในตำแหน่งแบ็ค และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่น่าตื่นเต้นที่จะอยู่รอบๆและดูทุกสัปดาห์'

ส่วน แม็คคอย กล่าวว่า 'ผมยังมีสีเขียวอยู่ในใจผม มีหลายครั้งที่ผมเห็น อีเกิ้ลส์ ในทีวี และรู้สึกแปลกๆที่ไม่ได้สวมชุดนั้น ผมนึกถึงเกมใหญ่ๆเหล่านั้นและเสียงคำรามของแฟนๆทันที ผมมองว่าตัวเองในฐานะ อีเกิ้ลส์ มันเป็นการสมควรที่จะกลับบ้านและรีไทร์กับ อีเกิ้ลส์'