ที่ คิง ฟาห์ด อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดียม กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นศึก 'เอล กลาซิโก' ฉบับซูเปอร์ คัพ 

ผ่านไป 19 นาที มาร์โก อาเซนซีโอ มีจังหวะสับไกให้ เรอัล มาดริด แต่บอลข้ามคาน แต่นาทีที่ 25 ราชันชุดขาว ได้เฮเมื่อทาง คาริม เบนเซม่า ตัดบอลก่อนจะแทงให้ วินิซิอุส จูเนียร์ หลุดไปยิงด้วยซ้ายเสียบเสาแรก 1-0

หลังจากโดนก่อน บาร์เซโลน่า เหมือนตื่น นาทีที่ 30 อุสมัน เดมเบเล่ ครอสมาให้ ลุค เดอ ยอง โขกเต็มๆ แต่บอลเข้ามือ ติโบต์ กูร์ตัวส์

อาซูลกราน่า เดินหน้าต่อเนื่องจนตีเสมอในนาทีที่ 41 เมื่อทาง อุสมัน เดมเบเล่ เปิดเข้าใน เอแดร์ มิลิเตา สกัดไปโดน ลุค เดอ ยอง บอลเด้งชนเสาแรกเข้าประตูไป 1-1

ครึ่งหลัง บาร์ซ่า หาโอกาสจบได้ดีกว่า นาที 49 กาบี ตัวสำรองพลิกยิงไกลบอลหลุดเสาซ้ายมือ จากนั้นนาที 54 อุสมัน เดมเบเล่ เก็บตกด้วยซ้ายก็ยังหลุดเสาไหล

เล่นไปถึงนาทีที่ 69 เรอัล มาดริด พลาดออกนำเมื่อลูกยิงของ คาริม เบนเซม่า ไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

แต่นาทีที่ 72 โลส บลังโกส ออกนำ 2-1 จังหวะแรก คาริม เบนเซม่า ยิงติดเซฟ แทร์ ชเตเก้น ปัดเข้าทาง ดานี่ การ์บาฆาล ปาดเข้าในโดนขาประตูบาร์ซ่า เบนเซม่า แปเน้นๆ ไม่พลาด

กระนั้นนาทีที่ 83 บาร์ซ่า ตีเมอ 2-2 จอร์ดี้ อัลบา เปิดมาให้ อันซู ฟาตี ขึ้นโขกโล่งๆ คนเดียวกลางประตูส่งบอลเสียบตาข่าย

จบเกม 90 นาทีเสมอ 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป 30 นาที

นาทีที่ 98 เรอัล มาดริด ได้เฮหนสามจากจังหวะสวนกลับ โรดรีโก้ โกเอส หลุดมาทางขวาก่อนปาดเข้าใน วินิซิอุส ปล่อยหลอกมาให้ เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ จับก่อนยิงเสียบตาข่าย 3-2

หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เรอัล มาดริด ชนะ บาร์เซโลน่า ช่วงต่อเวลา 3-2 เข้ารอบชิงชนะเลิศรอพบ แอตเลติโก มาดริด หรือ แอธเลติก บิลเบา ต่อไป