เจ้าถิ่น แอตเลติโก มาดริด มีข่าวดีได้ ยาน โอบลัค นายทวารมือหนึ่งฟิตกลับมาเฝ้าเสาทันเวลา พร้อมกับให้ อองตวน กรีซมันน์ ลงตัวจริงในแดนหน้าครั้งแรกในซีซั่นนี้ ส่วน เรอัล มาดริด ขาด คาริม เบนเซม่า หัวหอกตัวเก่งที่บาดเจ็บ 

เริ่มเกมมา 6 นาทีแรก แอต.มาดริด ทักทายก่อนจากฟรีคิกที่ โรดรีโก้ เด ปอล เปิดให้ เฟลีเป้ วิ่งมาโขกตามน้ำ แต่บอลข้ามคานไปนิดเดียว

นาที 12 ยังเป็นโอกาสของ ตราหมี ที่ โกเก้ แทงบอลขึ้นหน้าให้ การ์ราสโก้ โฉบไปเลี้ยงต่อเข้าเขตโทษ ก่อนยิงด้วยขวาแฉลบผู้เล่นทีมเยือนออกหลังไปแบบได้ลุ้น

เกมของ เรอัล มาดริด เป็นรอง ทว่าเป็นฝ่ายนำ 1-0 จากจังหวะลุ้นยิงจริงจังครั้งแรกในนาที 18 โรดรีโก้ จ่ายบอลให้ ออเรเลียง ชูอาเมนี่ ที่ตักข้ามแนวรับตราหมีไปถึง โรดรีโก้ วอลเลย์ด้วยขวาตามน้ำเข้าไปอย่างสวยงาม

ตราหมี เกือบตีเสมอได้ในนาที 25 อองตวน กรีซมันน์ แย่งบอลได้ก่อนลากมาซัดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ต้องออกแรงบินปัดปลายนิ้วออกหลังไป 

ราชันชุดขาวเป็นฝ่ายนำ 2-0 ในนาที 36 ลูก้า โมดริช แทงบอลให้ วินิซิอุส หลุดขึ้นทางซ้ายก่อนลากต่อเข้าไปจิ้มด้วยขวาในเขตโทษ บอลชนเสาเด้งไปเสาไกล เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ วิ่งมาซ้ำจ่อๆ ไม่เหลือซาก จากนั้นจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้

ครึ่งหลังเกมของเจ้าถิ่นยังไม่ดีขึ้นทำให้ต้องปรับแท็คติกส่ง อัลบาโร่ โมราต้า และ มาเตอุส คุนญ่า ลงแทน โรดรีโก้ เด ปอล และ ชูเอา เฟลิกซ์ ในนาที 62 

นาที 74 เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ ลองยิงไกลให้ราชันได้ลุ้น แต่ว่าบอลไม่เข้ากรอบ 

ตราหมี 83 แอต.มาดริด ตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จากลูกเตะมุมที่ เอแดร์ มิลิเตา โหม่งเคลียร์แต่โดนไม่เต็ม บอลเลยไปโดนไหล่ มารีโอ เอร์โมโซ่ เด้งเข้าประตูสำเร็จ

จากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม โดยช่วงทดเจ็บ เอร์โมโซ่ ของเจ้าถิ่นโดนใบแดงด้วยหลังทำฟาวล์ ดานี่ เซบายอส จากนั้นจบเกม เรอัล มาดริด บุกชนะ แอต.มาดริด 2-1 รักษาสถิติชนะทุกนัดเอาไว้ได้ พร้อมนำจ่าฝูงต่อไป