เรอัล มาดริด ที่ยังไม่แพ้ใครและนำจ่าฝูงในฤดูกาลนี้ ส่ง คาริม เบนเซม่า เจ้าของบัลลงดอร์คนล่าสุดยืนหน้าเป้า ส่วน เอลเช่ มี เปเร่ มีย่า ล่าตาข่ายกับ ลูกัส โบเย่ 

เริ่มเกมมา 6 นาทีแรก เรอัล มาดริด ส่งบอลเข้าประตูจากจังหวะทำชิ่งกันอย่างสุดยอดก่อนเป็น วินิซิอุส หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายและปาดให้ คาริม เบนเซม่า แปง่ายๆ เข้าไป ทว่า วินิซิอุส ถูกจับล้ำหน้าไปก่อนทำให้ไม่ได้ประตูออกนำ 

แต่อีก 5 นาทีถัดมา ทีมเยือนก็นำ 1-0 จนได้จากจังหวะต่อบอลหน้าเขตโทษก่อนบอลทะลักไปถึง เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ ยิงด้วยซ้ายตรงหัวกะโหลกส่งบอลเสียบมุมอย่างเด็ดขาด 

นาที 27 เรอัล มาดริด ส่งบอลตุงตาข่ายได้ในจังหวะที่ เบนเซม่า ชิ่งให้ ดาวิด อลาบา หลุดไปยิงด้วยซ้าย ทว่าวีเออาร์เช็กว่า เบนเซม่า ล้ำหน้าไปนิดเดียวจึงไม่ได้ประตูอีกครั้ง 

อีก 2 นาทีถัดมา เอลเช่ เกือบตีไข่แตกได้ นิโกลัส เฟร์นานเดซ ได้ส่องไกลด้วยซ้ายตรงเส้นเขตโทษ บอลทำท่าจะเสียบเสา แต่ว่า อันเดรย์ ลูนิน บินปัดปลายนิ้วได้อย่างสุดยอด

เรอัล มาดริด มีโอกาสอีกครั้งในนาที 39 วินิซิอุส เลี้ยงแหวกจากซ้ายตัดเข้าในก่อนยิงด้วยขวา แต่ปั่นไม่มากพอ บอลเลยหลุดกรอบออกหลังไป จากนั้นจบครึ่งแรก มาดริด นำ 1-0

ครึ่งหลังนาทีแรก เอลเช่ น่าจะได้ประตูสุดๆ เมื่อ นิโกลัส เฟร์นานเดซ กระดกบอลให้ ลูกัส โบเย่  วอลเลย์ด้วยซ้ายเน้นๆ ทว่าข้ามคานน่าเสียดาย

เรอัล มาดริด ส่งบอลตุงตาข่ายได้อีกในนาที 60 จากจังหวะที่ ดานี่ การ์บาฆาล เปิดบอลจากขวาไปถึง เบนเซม่า ยิงในเขตโทษ ทว่าวีเออาร์จับว่า เบนเซม่า ล้ำหน้า ทำให้เป็นครั้งที่ 3 ในเกมนี้ที่ยิงได้แต่ถูกจับล้ำหน้า

นาที 70 เอลเช่ น่าจะได้ประตูตีเสมอสุดๆ เมื่อ เอลีเบลตอน ปาลาซีออส หยอดบอลเข้าเขตโทษไปเสาไกล การ์ลอส แกลร์ก โขกจ่อๆ ทว่า อันเดรย์ ลูนิน ผวาเซฟช่วยทีมเยือนเอาไว้ได้อีก 

เรอัล มาดริด นำ 2-0 จนได้ในนาที 75 เบนเซม่า ทำชิ่งกับ โรดรีโก้ ที่เคาะคืนให้หัวหอกตัวเก่งยิงตรงเขตโทษด้วยขวาส่งบอลเบียดเสาเข้าไปอย่างแม่นยำ

จากนั้น เรอัล มาดริด ควบคุมเกมได้ดีขึ้นและเน้นผลพร้อมได้อีกประตูปิดท้ายจาก มาร์โก อาเซนซีโอ ในนาที 89 ทำให้จบเกมเอาชนะ เอลเช่ 3-0 ทิ้งห่าง บาร์เซโลน่า เป็น 6 คะแนน โดยบาร์ซ่ามีคิวลงเล่นวันพฤหัสบดีพบ บียาร์เรอัล