อินเดียนาโพลิส โคลท์ส แต่งตั้ง เชน สไตเค่น วัย 37 ปีเป็นหัวหน้าโค้ชคนที่ 22 ในประวัติศาสตร์ 70 ปีของแฟรนไชส์ หลังบรรลุข้อตกลงด้วยสัญญา 6 ปีกับโค้ชทีมบุกของ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์คเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา 

โคลท์ส ตัดสินใจเลือก สไตเค่น โค้ชทีมบุกของ อีเกิ้ลส์ เป็นเฮดโค้ชคนใหม่ของพวกเขา หลังการปลด แฟร้งค์ ไรช์ ในช่วงกลางซีซั่นที่แล้ว หลังการคุมทีมบุก อีเกิ้ลส์ 2 ปีจนกระทั่งถูกทีมอินดี้ดึงมาร่วมงานในปี 2018 โดย โคลท์ส ตั้ง เจฟฟ์ แซ็ตเทอร์เดย์ เป็นหัวหน้าโค้ชรักษาการจนจบซีซั่นและเขายังเป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่สัมภาษณ์งานรอบสอง ก่อนงานดังกล่าวจะตกเป็นของ สไตเค่น 

สไตเค่น เริ่มงานในเอ็นเอฟแอลกับ ซาน ดีเอโก้ ชาร์จเจอร์ส ในฐานะผู้ช่วยทีมรับ (2011-2012) ก่อนจะย้ายมาทำงานโค้ชควบคุมคุณภาพเกมบุกของ คลีฟแลนด์ บราวน์ส (2013) จากนั้นเขากลับมาทำงานตำแหน่งเดียวกันกับ ชาร์จเจอร์ส (2014-2015) และก้าวขึ้นมาเป็นโค้ชควอร์เตอร์แบ็กของทีมสายฟ้า (2016-2019) โดยทำหน้าที่เฮดโค้ชรักษาการในปี 2019 ด้วย

จากนั้น ชาร์จเจอร์ส ตั้ง สไตเค่น เป็นโค้ชทีมบุก (2020) ก่อนจะย้ายมาทำงานตำแหน่งเดียวกันกับ อีเกิ้ลส์ ในช่วงปี 2021-2022 จนกระทั่ง โคลท์ส ดึงมารับงานเฮดโค้ชด้วยสัญญา 6 ปี หลังมีส่วนช่วย ฟิลาเดลเฟีย ผ่านเข้าถึงเกม 'ซูเปอร์ โบวล์' ครั้งที่ 57 

'วัฒนธรรมของเราจะถูกสร้างขึ้นบนเสาหลักทั้ง 4' สไตเค่น กล่าว 'อันดับแรกจะเป็นแคแร็กเตอร์, แคแร็กเตอร์เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผม เราต้องการปฏิบัติต่อผู้คนด้วยความเคารพ และเราต้องการป้อนสิ่งที่เป็นบวกและกำจัดสิ่งที่เป็นลบออกไป'

'อย่างที่สองคือการเตรียมการ ผมเชื่ออย่างนี้จริงๆ การแยกทางกันในลีกนี้อยู่ในขั้นเตรียมการ วิธีที่เราเตรียมตัวเป็นทีมฟุตบอลและองค์กร ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันเสาร์จะเป็นตัวกำหนดผลของเกมฟุตบอลในท้ายที่สุด ตอนนี้จะการันตีชัยชนะของเราหรือไม่? ไม่, แต่มันจะทำให้เรามีโอกาสต่อสู้ ผมสัญญากับคุณอย่างนั้น'

'ลำดับสามคือความสม่ำเสมอ เราต้องมีความคงเส้นคงวา และมันเริ่มจากเราในฐานะโค้ชที่ส่งข้อความของเราไปถึงผู้เล่นอย่างสม่ำเสมอ และบอกพวกเขาอย่างชัดเจนว่าเราต้องการให้มันออกมาอย่างไร และเราต้องการให้มันเป็นอย่างไร'

'อันดับ 4 คือไม่หยุดยั้ง เราต้องไม่ลดละในการแสวงหาสิ่งดีที่สุด ผู้เล่นดีที่สุด โค้ชดีที่สุดที่ผมเคยร่วมงานด้วยต่างก็หลงใหลในฝีมือของพวกเขามาตลอด และนั่นคือวิ่งที่เราต้องการสร้างขึ้นที่นี่ และนั่นคือสิ่งที่เราต้องการทำให้สำเร็จ' สไตเค่น กล่าว

โคลท์ส เลือกเฮดโค้ชมือใหม่เข้ามาเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาในการหาตัวแทนที่มั่นคงของ แอนดรูว์ ลัค หลังการรีไทร์ในปี 2019 ซึ่งทีมอินดี้ทำสถิติ 31-34 และผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟครั้งเดียวหลังการจากไปของ ลัค 

'เชน มีเวทมนตร์ในเกมบุกมากมาย ซึ่งยากที่จะหาได้ในลีกนี้' จิม เออร์เซย์ ของเจ้าทีม โคลท์ส กล่าว 'ทีมบุก, ในความคิดผมอาจซับซ้อนกว่าเล็กน้อย และใช้เวลาพัฒนานานกว่า โดยรู้ว่าเราจะต้องหาควอร์เตอร์แบ็กอายุน้อยมาพัฒนา นั่นคือปัจจัยสำคัญ แต่เขาต้องแสดงความเป็นผู้นำ เขาต้องแสดงให้เห็นว่าเขามีตัวตน และเด็กคนนั้นก็ผ่านมันมาได้ในการสัมภาษณ์ของเขา'

สไตเค่น เคยมีส่วนพัฒนาควอร์เตอร์แบ็กหนุ่มที่โดดเด่นมาแล้ว 2-3 คนตลอดอาชีพโค้ชเอ็นเอฟแอล 11 ปีของเขา หลังเคยปั้น จัสติน เฮอร์เบิร์ต ขว้างคอมพลีต 396 ครั้ง ทำ 31 ทัชดาวน์ และขว้างเฉลี่ย 289.1 หลาต่อเกม สร้างสถิติในซีซั่นรุคกี้ตลอดกาลเมื่อปี 2020

จากนั้นโค้ชวัย 37 ปี ยังมีส่วนช่วยพัฒนา เจเล็น เฮิร์ตส์ ควอร์เตอร์แบ็ก อีเกิ้ลส์ ทำระยะรวมกัน 3,928 หลา (ขว้าง 3,144 หลา, ถือบอลวิ่ง 784 หลา) และสร้างเกมวิ่งอันดับ 1 ของลีกและผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟจากการทำงานปีแรกใน ฟิลาเดลเฟีย 

โคลท์ส ถือสิทธิ์ดราฟท์อันดับ 4 ปี 2023 ซึ่งมีโอกาสเลือกควอร์เตอร์แบ็กตัวท็อปของร่างดราฟท์ปีนี้อย่าง ซี.เจ.สเตราด์ ของ โอไฮโอ สเตท, ไบรซ์ ยัง ของ แอลาบาม่า หรือ วิลล์ เลวิส ของ เคนทัคกี้