เริ่มเกมมานาทีที่ 7 เลเวอร์คูเซ่น มีโอกาสทักทายก่อนจากจังหวะยิงไกลหน้าเขตโทษของ มุสซ่า ดิยาบี้ แต่บอลไม่ได้แรงมากพอที่จะผ่านมือ อเล็กซานเดอร์ นือเบล 

ทว่ากลับเป็น โมนาโก ที่ได้ประตูนำ 1-0 แบบมีโชคเมื่อ ลูคัส ฮราเด็ชกี้ โกลเจ้าบ้านครองบอลหน้าประตูตัวเองทำให้โดน บรีล เอ็มโบโล่  ตามแซะจนเสียจังหวะก่อนเท้าไปจิ้มโดนบอลค่อยๆ กลิ้งเข้าประตูตัวเอง แม้ผู้เล่นเจ้าถิ่นจะโวยว่าเป็นฟาวล์ แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร 

นาที 23 โมนาโก มีโอกาสอีกเมื่อ เกรแป็ง ดิยัตต้า จ่ายให้ รูเบน อากีลาร์ เติมขึ้นมายิงด้วยขวา บอลเข้ากรอบ แต่ไม่แรงพอที่จะผ่านมือ ลูคัส ฮราเด็ชกี้ 

เลเวอร์ฯ มีโอกาสในนาที 34 มุสซ่า ดิยาบี้ จ่ายหักข้อส่งบอลเข้าเขตโทษ นาดีม อามิรี่ สอดเข้าไปกำลังจะได้ยิงอยู่แล้ว แต่ อเล็กซานเดอร์ นือเบล ออกมาทุบทิ้งหวุดหวิด 

นาที 44 โมนาโก เกือบได้เมื่อ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน เลี้ยงตัดจากซ้ายเข้ากลางก่อนไหลให้ เกรแป็ง ดิยัตต้า ยิงด้วยซ้ายเน้นๆ ลูคัส ฮราเด็ชกี้ ต้องออกแรงปัดปลายมือ 

ครึ่งหลังนาที 48 เลเวอร์คูเซ่น ตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จจากการเล่นโต้กลับ โฟลเรียน เวิร์ตซ์ ผ่านบอลขวาให้ เยเรมี่ ฟริมปง ตบกลับเข้าเขตโทษ มุสซ่า ดิยาบี้ แตะหนีตัวบล็อกก่อนแปลอดขา นือเบล เข้าไป 

นาที 59 ห้างยาได้เฮต่อเนื่องกับประตูนำ 2-1 โฟลเรียน เวิร์ตซ์ โชว์สเต็ปเลี้ยงหนีผู้เล่น โมนาโก 3 คนจนเข้าเขตโทษก่อนโยกยิงด้วยขวาผ่านผู้เล่นอีก 2 ผู้เล่นเข้าประตูไปอย่างสุดยอด

แต่ โมนาโก ไม่ถอดใจตามทวง 2-2 ได้ในนาที 74 เบน เยแดร์ โยนบอลจากซ้ายมาขวาให้ เกรแป็ง ดิยัตต้า จับแล้วหมุนตัวยิงด้วยซ้ายจากหน้าเขตโทษส่งบอลโค้งเสียบเสาสวยงาม 

ช่วงทดเจ็บ กองเชียร์เจ้าถิ่นต้องช็อกตาตั้งเมื่อเป็น โมนาโก ที่ได้ประตูชัยหลังจากกองหลัง เลเวอร์ฯ เคลียร์เตะมุมไม่ขาด โมนาโก เก็บได้ก่อนจบที่ อักเซล ดิซาซี่ ตั้งป้อมยิงไกลส่งบอลพุ่งเบียดเสาเข้าอย่างแม่นยำทำให้ โมนาโก บุกชนะ 3-2  แถมนัดสองได้กลับไปเล่นในบ้านวันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์