ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส ผ่านเข้าเพลย์ออฟรอบ 2 ด้วยการเอาชนะ บรู้กลิน เน็ตส์ 4-0 เกมซีรี่ส์ หลังบุกคว้าชัย 96-88 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาทั้งที่ไม่มี โจเอล เอ็มบีด ผู้นำการทำสกอร์สูงสุดของเอ็นบีเอและผู้เข้าชิงรางวัลเอ็มวีพีที่มีอาการเข่าขวาเคล็ด ตามรายงานจากอีเอสพีเอ็น

'มันเริ่มที่ โจเอล' ไทรีส แม็กซี่ การ์ดซิกเซอร์สกล่าวหลังเกม 'เขาเป็นผู้นำของทีมนี้ และสำหรับเขา เขาดูแลเด็กๆก่อนเกม และเขาอวยพรให้เราโชคดี และเราขอขอบคุณสำหรับสิ่งนั้น และเราต้องการให้เขามีสุขภาพแข็งแรง'

โทไบอัส แฮร์ริส ฟอร์เวิร์ดวัย 30 ปี ทำ 25 คะแนนกับ 12 รีบาวน์ด, เจมส์ ฮาร์เด้นส์ ทำ 17 คะแนน, 8 รีบาวน์ดกับ 11 แอสซิสต์, แม็กซี่ ทำ 16 คะแนนกับ 8 รีบาวน์ด ส่วน ดีแอนโธนี่ เมลตัน ลุกจากม้านั่งสำรองลงมาช่วยทำอีก 15 แต้ม นำ ซิกเซอร์ส บุกคว้าชัย 96-88 กลายเป็นทีมแรกที่ผ่านเข้ารอบ 2 ของเพลย์ออฟรอเข้าไปพบกับผู้ชนะระหว่าง บอสตัน เซลติกส์ กับ แอตแลนต้า ฮอร์คส์

ซิกเซอร์ส กวาดซีรี่ส์ครั้งแรกนับตั้งแต่เอาชนะ มิลวอกี้ บัคส์ เมื่อปี 1985 และยังมีเวลาอีกอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ให้ เอ็มบีด ฟื้นฟูร่างกายเพื่อหวนคืนคอร์ตอีกครั้งในเพลย์ออฟ รอบ 2

'เห็นได้ชัดว่าวันนี้เป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับเราเพื่อให้ บิ๊ก เฟลล่า มีสุขภาพดี' ฮาร์เด้น กล่าว 'นั่นคือลำดับความสำคัญอันดับหนึ่ง'

ซิกเซอร์ส เน้นเกมป้องกันโดยไม่มี เอ็มบีด และลงเอยด้วยการเอาชนะ เน็ตส์ 21-4 ในช่วงเวลากว่า 8 นาทีในควอเตอร์สาม โดยมี พอล รีด ซึ่งลงเล่นแทนมีส่วนร่วมสำคัญจากการทำ 15 รีบาวน์ดและ 10 แต้มในเกมดังกล่าว

เอ็มบีด ทำเฉลี่ยเพียง 20 คะแนนต่อเกมในซีรี่ส์นี้ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของการเป็นคนทำสกอร์เฉลี่ยนมากสุดของเอ็นบีเอในช่วงฤดูกาลปกติ 33.1 คะแนนตาเกม เนื่องจาก เน็ตส์ ใช้แผนดับเบิ้ลทีมเล่นงานอย่างหนัก ก่อนเขาจะบาดเจ็บเข่าในช่วงต้นเกมที่ 3 และผลสแกนเอ็มอาร์ไอระบุให้เห็นถึงอาการแพลง แต่ยังมีเวลาอีกอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์เพื่อฟื้นฟูร่างกายกลับมา