เชลซี เคยยิ่งใหญ่ในรอบกว่า 2 ทศวรรษยุคอดีตเจ้าของสโมสร โรมัน อบราโมวิช เมื่ออัดฉีดเงินกว่า 1.2 พันล้านปอนด์ แลกมา 5 แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, 5 แชมป์สโมสรยุโรป (รวมทุกรายการ), แชมป์เมเจอร์รวม 19 รายการ, ถึงรอบรองฯชปล. 7 ครั้ง 

แต่ก็แลกกับการเปลี่ยนกุนซือบ่อยถึง 15 ราย ช่วงระหว่างฤดูกาล 2003-04 จนสิ้น 2021-22 ทาง ‘เสี่ยหมี’ ก็ถูกบีบให้ขายทีมเนื่องจากการแซงก์ชั่นฐานะคนสนิท วลาดิเมียร์ ปูติน ปธน.รัสเซีย ฐานะผู้ออกคำสั่งเปิดสงครามรุกรานยูเครน 

กระทั่ง ‘สิงห์บลูส์’ ได้ ท็อดด์ โบห์ลี่ กับกลุ่มเคลียร์ เลก แคปิตอล มาเป็นเจ้าของใหม่ แล้วแสดงศักยภาพการเงินจับจ่ายร่วม 600 ล้านปอนด์ ทว่าเพราะทำแบบไร้ยุทธศาสตร์ผลงานทีมซีซั่น 2022-23 จึงมั่วซั่ว เปลี่ยนเฮดโค้ช/ผจก.ทีม ทั้งแบบเต็มเวลาและรักษาการแล้ว 4 คน

สถานการณ์ทีมที่เหนือโซนตกชั้น 9 แต้ม หลังพ่าย อาร์เซน่อล 1-3 วานนี้ทำให้แฟนบอล เชลซี บางส่วนออกมาตะโกนโหยหา อบราโมวิช พร้อมทั้งรุมโจมตี ‘แลมพ์ส’ ทางโซเชี่ยล มีเดีย ว่ามือไม่ถึง 

https://twitter.com/footballdaily/status/1653518616556445697/video/1

ซึ่งมันทำให้ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลสโมสรสะเทือนใจมาก จึงอยากฝากข้อคิดแก่แฟนๆรุ่นใหม่รู้จัก - อยู่ให้เป็น,  เย็นให้พอ, รอให้ได้ -

“เชลซี ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กว่า 20 ปีที่ผ่านมา แต่ ณ ตอนนี้เราไม่ได้อยู่จุดนั้นอีก” การเปิดปากกับ ‘สกาย สปอร์ตส์’

“ช่วงเวลานี้ที่ผมทำงานร่วมกับสโมสร ก็เห็นเบื้องหลังชัดเจน, เห็นการทำงานบนสนามซ้อม นั่นเหตุผลว่าทำไม” 

“หากคุณทำตัวเป็นทีมติ๋มๆ ที่ใครก็ชอบประลองแข้งด้วยตลอดเวลา มันก็คงไม่ได้ดีขึ้นไปกว่านี้”

“ก็รู้ว่าอะไรๆไม่ได้เปลี่ยนชั่วข้ามคืน แต่เราจะทำให้ดีขึ้นโดยเร็วสุด” 

“ธรรมชาติเกมอันขาดการตอบสนองของเรามีผลจากหลายประการ สำคัญสุดคือความเอาใจใส่ของนักเตะ พวกเขาความมั่นใจต่ำเตี้ย แต่เมื่อคุณเล่นให้ เชลซี มันต้องทำอย่างดีที่สุดต่อให้ความเชื่อมั่นหดหาย” 

“อะไรจะเกิดก็ช่างมัน ขอให้เข้าใจว่าต้องทำงานหนักไว้ก่อน ความห่างของผลงานมันสวนทางจากที่เราเป็นมาตลอดหลายๆปีก่อน” 

ปี 2023 คือหนึ่งในศักราชหายนะของ เชลซี เมื่อลงเล่นทุกรายการแพ้ไป 13 จาก 23 นัด (ชนะ 4, เสมอ 6) ยิงได้ 14, เสีย 30 ลูก โดยมีถึง 13 นัดเป้าสะอาด