เอริก เทน ฮาก ผจก.ทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มกังวลว่างบประมาณเสริมทัพตลาดซัมเมอร์ 2023 อาจไม่ได้มากมายอย่างที่ร้องขอไป เนื่องจากสโมสรยังคาราคาซังเรื่องเทคโอเวอร์กิจการจากมือเจ้าของเดิมตระกูลเกลเซอร์
กลุ่มเจ้าของทีม ‘ปีศาจแดง’ ชาวอเมริกันเชื้อสายยิว ประกาศมองหาหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เมื่อพ.ย. 2022 ถึงเวลานี้ยืดเยื้อมาร่วม 5 เดือนยังไม่สรุปแม้มี 2 แคนดิเดตหลักอย่าง เซอร์จิม แร็ตคลิฟฟ์ แห่งอาณาจักรปิโตรเคมีภัณฑ์ทรงอิทธิพล อินิออส หรือ ชีค ยัสมิน แห่งราชวงศ์กาตาร์
เส้นตายยื่นข้อเสนอซื้อกิจการ ‘ปีศาจแดง’ สิ้นสุดเมื่อศุกร์ที่แล้ว ลำดับต่อไปนำสู่กระบวนการพิจารณาข้อเสนอขอผู้สนใจซื้อกิจการ คงอาศัยเวลาสักระยะคาดว่าจะลุล่วงก่อนเข้าปฏิทินฤดูกาล 2023-24
https://twitter.com/ManUtdMEN/status/1654010467650768897
จุดนี้เองที่ ‘อีทีเอช’ มองว่าอาจไม่ทันชาวบ้านชาวช่อง ซึ่งพร้อมลุยตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ แล้วอาจปาดหน้าผู้เล่นที่ ‘ปีศาจแดง’เล็งไว้
ฐานะลูกจ้าง เทน ฮาก ทำได้แค่ถอนหายใจ จนอาจต้องขายผู้เล่นบางรายระดมทุน สะสมเงินก้อนไปพลางๆ
“ตอนนี้ยังไม่ได้รับแจ้งเลยว่าตลาดซัมเมอร์ 2023 มีงบประมาณเท่าไหร่” การเปิดปากกับ ‘สกาย สปอร์ตส์’
“ผมไม่มีอิทธิพลในส่วนนั้น ไม่มีเลย...แล้วไม่ทราบด้วยว่าตั้งงบเท่าไหร่”
“สิ่งเดียวที่ผมทราบคือ แมนฯ ยูไนเต็ด คือหนึ่งในสโมสรใหญ่สุดลำดับต้นๆ คิดว่าฐานแฟนบอลคงติดสองลำดับแรกโลก - นี่จากมุมมองส่วนตัว”
“ดังนั้นก็คิดว่าสโมสรนี้ต้องท้าประลองในการแข่งขันระดับสูงสุดของโลกอย่างแชมเปี้ยนส์ ลีก, พรีเมียร์ลีก อังกฤษ”
“แต่การทำทีมฟุตบอลต้องอาศัยงบประมาณเพื่อวางโครงสร้างผู้เล่น เพราะท้ายที่สุดแล้วระดับของผู้เล่นในมือชี้วัดว่าสามาถประสบความสำเร็จหรือไม่”
ตำแหน่งที่ เทน ฮาก มองหาคือหอกเบอร์#9, เซนเตอร์แบ็กใหม่, ผู้รักษาประตู และกองกลาง คาดใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 200 ล้านปอนด์
