สตีเว่น เจอร์ราร์ด นักวิเคราะห์ บีที สปอร์ต มองว่าเมื่อเข้าถึงนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้ว ทุกทีมล้วนมีโอกาสเป็นแชมป์ทั้งสิ้นดังนั้น อินเตอร์ มิลาน ซึ่งคว้าตั๋วแล้วหนึ่งทีมก็มีสิทธิไม่น้อยไปกว่าตัวเต็งอย่าง แมนฯ ซิตี้ หรือ เรอัล มาดริด ในรอบรองฯอีกคู่
อินเตอร์ ย้ำชัยใส่ เอซี มิลาน 1-0 วานนี้รวมผลสองนัดเข้าชิงฯประตูรวม 3-0 นับเป็นการเข้าชิงฯชปล./ยูโรเปี้ยน คัพ หนที่ 6 ของสโมสร แล้วเป็นครั้งล่าสุดต่อจาอปี 2010 ซึ่งขึ้นถึงแชมป์
ในมุมของ ‘สตีวี่ จี’ มองว่า ‘งูใหญ่’ ก็มองถึงความสำเร็จได้แม้ดูว่าดีกรีเป็นรองผู้ชนะจากรอบตัดเชือกอีกคู่ เพราะตัวเขาเมื่อชปล. 2005 ฐานะ ลิเวอร์พูล ก็ถูกมองเป็นรอง เอซี มิลาน คู่ชิงฯ แต่สุดท้ายคว้าแชมป์สุดเร้าใจ
“ใช่แน่นอนพวกเขาสามารถเป็นแชมป์ชปล.ได้ ทีม อินเตอร์ มิโอกาสและคู่ควรต่อโอกาสนั้น” เจอร์ราร์ด แสดงความเห็น
https://twitter.com/btsportfootball/status/1658572000460263439
“ผมเห็นว่าพวกเขาจัดการทีมดี, มืออาชีพ และบริหารคนเก่ง ปิดงานลงได้เมื่อคืน, รับมือความกดดันและตีหัวเข้าบ้านจากประตูลูกโต้กลับ”
“‘งูใหญ่’ เป็นทีมที่เอาลงยาก, ป้องกันในกรอบเขตโทษได้ดีมากๆ แล้วยังสามารถลำเลียงบอลไปสร้างความหวาดเสียวได้อีก”
“ไม่ว่าคู่ชิงฯเป็นใคร พวกเขาจะต้านทานได้”
“คิดว่า อินเตอร์ มองนัดชิงฯกับทีมเต็งเป็นความท้าทายที่ดี เพราะเล่นแบบบริหารพื้นที่บนสนามได้ดี, นิ่งเวลาครองบอล, มีวิงแบ็กที่เหมาะกับวิธีการเล่น และ เฟเดริโก้ ดิมาร์ซิโอ คือตัวอันตรายของทีมเวลาเล่นโต้กลับ”
“ระบบ 3 เซนเตอร์แบ็กปกป้องกรอบเขขตโทษอยู่หมัด, กองกลางมีสมดุลที่ดี, ส่วนผสมที่ดีระหว่างจังหวะและตัววิ่งสอดเข้ากรอบเหมาะเจาะ เป็นทีมที่มีทั้งความดื้อรั้น และเหนียวแน่น”
นัดชิงฯชปล.มีขึ้น 10 มิ.ย.นี้ยัง อตาเติร์ก โอลิมปิก สเตเดี้ยม นครอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย สนามเดียวกับที่ เจอร์ราร์ด ได้แชมป์ชปล.เมื่อ 18 ปีก่อน
