เดสม่อนด์ ริดเดอร์ ควอร์เตอร์แบ็กปีสองเชื่อว่าทีมบุกของ แอตแลนต้า ฟอลค่อนส์ จะระเบิดฟอร์มสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมในซีซั่น 2023 หลังการสร้างขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่พร้อมเป็นภัยคุกคามเกมป้องกันของคู่แข่งทั้งเกมวิ่งและเกมขว้าง ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์คเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา 

ฟอลค่อนส์ ใช้สิทธิอันดับ 8 ของร่างดราฟท์ปี 2023 เลือก ไบจาน โรบินสัน รันนิ่งแบ็กจาก เท็กซัส แม้ว่าจะค้นพบเพชรเม็ดงามอย่าง ไทเลอร์ แอลไกเออร์ จากรอบ 5 คลาส 2022 และลงเล่นฐานะตัวจริงก็ตาม นั่นคือการตกแต่งทีมบุกของ อาร์เธอร์ สมิธ ที่สื่อถึงการเน้นเกมบุกภาคพื้นดินที่เขาชื่นชอบ ซึ่ง ริดเดอร์ เชื่อว่าแรงระเบิดจากแบ็คฟิลด์จะทำให้ทีมบุกของ ฟอลค่อนส์ อันตรายมากยิ่งขึ้น

'ในฐานะทีมบุก คุณมองหาเพลย์ที่สามารถระเบิดได้ ไม่ว่าจะเป็น เดร้ค (ลอนดอน), ไคล์ (พิตต์ส) คนอย่าง จอนนู (สมิธ), แม็ค ฮอลลิ่นส์ มันไม่สำคัญ' ริดเดอร์ กล่าว 'แต่เมื่อคุณสามารถส่งบอลออกไปให้คนอย่าง ไทเลอร์ แอลไกเออร์ หรือ ไบจาน หรือ ซี.พี. (คอร์ดาร์เรลล์ แพ็ตเทอร์สัน) และปล่อยพวกเขาลุย มันทำให้งานของผมง่ายขึ้นมาก'

'ดังนั้นเมื่อพวกเขาดราฟท์ ไบจาน ผมเพิ่งรู้ว่าทีมบุกนี้มีบางอย่างที่สามารถระเบิดได้ เราสามารถออกไปที่นั่น และไม่ว่ามันจะเป็นเกมวิ่ง, การขว้าง, เพลย์-แอ็คชั่น ไม่สำคัญ เราคิดว่าเราจะระเบิดฟอร์มได้สวยทีเดียว'

ตามหน้ากระดาษแล้วทีมบุกของ ฟอลค่อนส์ มีชิ้นส่วนสำคัญต่อการสร้างบิ๊กเพลย์โดยเฉพาะกลุ่มแบ็คฟิลด์หาก โรบินสัน สามารถทำผลงานได้ตามที่คาดไว้ ขณะที่ ลอนดอน แสดงให้เห็นทักษะการเป็นปีกนอกมือหนึ่งในซีซั่นรุคกี้ เขาสามารถจับคู่กับปีกใน พิตต์ส กลายเป็นฝันร้ายของเกมป้องกันฝั่งตรงข้าม 

'อย่างไรก็ตาม เราแค่อยากจะระเบิดฟอร์ม' ริดเดอร์ กล่าว 'ไม่ว่าจะเป็นเกมวิ่ง, เกมขว้าง หรืออะไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่านี่คือเกมที่คุณต้องทำคะแนนเพิ่มขึ้นบนบอร์ด และนั่นคือสิ่งที่เราต้องการทำในฐานะทีมบุก ในขณะเดียวกันก็คอยดูแลลูกบอล ควบคุมเกม ทำสิ่งที่คุณต้องทำต่อไป ออกไปที่นั่นและชนะเกม ดังนั้นจากทีมบุกของ ฟอลค่อนส์ เราสามารถออกไปที่นั่น แค่เล่นให้หนักที่สุดและคาดว่าจะระเบิดฟอร์มได้' 

ฟอลค่อนส์ เลือกผลักดัน ริดเดอร์ อดีตดราฟท์รอบ 3 คลาส 2022 ขึ้นมาเป็นควอร์เตอร์แบ็กตัวจริง โดยนำ ไทเลออร์ ไฮนิคกี้ ผู้เล่นประสบการณ์มารับบทแบ็คอัพ 

'มันรู้สึกดีที่พวกเขาไว้วางใจผม พวกเขาเห็นว่าผมทำงานและพยายามตราบเท่าที่คนอื่นๆออกไปที่นั่นและเป็นผู้นำทีม' ริดเดอร์ กล่าว 'เห็นได้ชัดว่าตลอดช่วงปิดฤดูกาล คุณได้ยินการพูดคุยทั้งหมดและทุกอย่าง แต่แค่รู้จากพวกเขาว่าพวกเขาไว้วางใจและเคารพผมเต็มที่ พวกเขารู้ว่าผมสามารถออกไปและเป็นผู้นำของเราได้ มันมีความหมายกับผมทุกอย่าง'