แลมพาร์ด ช่วยให้ ทอฟฟี่ รอดพ้นการตกชั้นเมื่อฟดูกาลที่แล้ว เมื่อเขาเข้ามายังถิ่นกูดิสัน พาร์ค แทนที่ ราฟาเอล เบนิเตซ แต่ฤดูกาลที่สองของเขานั้นสโมสรจมปลักอยู่ที่ 19 หลังพ้นช่วงเบรกหน้าหนาว

ตำนาน เชลซี ถูกไล่ออกหลังทีมไร้ชัย 10 เกมติดต่อกัน และถูกแทนที่โดย ฌอน ไดช์ ในเดือนมกราคม ทว่าสถานการณ์ของ เอฟเวอร์ตัน ก็แทบจะไม่ดีขึ้น และพวกเขาก็ต้องลุ้นหนีตายจนวันสุดท้ายของฤดูกาล 2022-23

การคุม เชลซี รอบสองของกุนซือวัย 44 ปี ก็ไม่ประสบความสำเร็จพอๆ กัน โดยส่วนหนึ่งก็มาจากสถานการณ์ที่วุ่นวายตอนที่ แลมพาร์ด ก้าวเข้ามายังถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังตลาดเดือนมกราคม

ผู้จัดการทีมรายนี้นำ สิงห์บลูส์ ชนะแค่เกมเดียวจาก 8 นัดในพรีเมียร์ลีก โดยชัยชนะเกมเดียวเกิดขึ้นจากเกมพบ บอร์นมัธ ซึ่งทำให้ เชลซี รอดพ้นจากความเป็นไปได้ที่จะตกชั้น

แต่อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษจะคุมทีมตกชั้นแน่หากนำผลงานของ เอฟเวอร์ตัน และ เชลซี ที่เขาคุมในซีซั่นนี้มารวมกัน

แลมพาร์ด เก็บได้เพียง 15 แต้ม กับ เอฟเวอร์ตัน จากสถิติชนะ 3 เสมอ 6 จาก 20 เกม และเก็บได้เพียง 4 แต้ม กับ เชลซี ซึ่งจะทำให้เขามีแต้มเฉลี่ยทั้งฤดูกาลแค่ 26 คะแนน

นั่นทำให้ทีมที่ แลมพาร์ด คุมจะเหนือกว่าแค่ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่มีเพียง 24 คะแนน แม้แต่ชัยชนะนัดปิดฤดูกาลเหนือ นิวคาสเซิ่ล ก็ไม่สามารถทำให้ แลมพาร์ด รอดพ้นจากการตกชั้นได้