ฟร้องค์ เลอเบิฟ อดีตกองหลังของ เชลซี มองทีมเก่าตอนนี้ปัญหาเพียบ พร้อมโยนความผิดให้ ท็อดด์ โบห์ลี่ และทีมงานฝ่ายเสริมทัพที่ก่อความผิดพลาดนี้
"สิงห์บลูส์" หมดเงินไปทะลุหนึ่งพันล้านปอนด์ นับตั้งแต่เจ้าของทีมคนใหม่เข้ามาเทคโอเวอร์เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว แต่ฤดูกาล 2022/23 กลับล้มเหลวไม่เป็นท่าจบอันดับที่ 12 ของลีก ในปีนี้ก็ยังไม่ดีนักแม้จะได้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มาคุมทีมโดยชนะในลีกแค่เกมเดียวจาก 6 นัดแรก ซึ่งทาง เลอเบิฟ มองว่าเป็นการบริหารที่ผิดพลาดในการเสริมทีม
"เอาความจริงมาพูดกันดีกว่า - เชลซี เป็นทีมกลางตาราง การดึงดูดผู้เล่นเป็นเรื่องยาก และนักเตะอย่าง เอ็มบั๊ปเป้ ไม่ได้อยากมาร่วมทีม" เลอเบิฟ กล่าว
"นักเตะระดับบิ๊กเนมต้องการเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก, อาร์เซน่อล เจอกับปัญหานั้นมาหลายปี เช่นเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แข้งระดับท็อปไม่อยากมา เชลซี เพราะสโมสรกำลังตกต่ำ"
"ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสโมสรกลายมาเป็นแบบนี้หลังจากสองปีที่แล้วยังคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีกอยู่เลย, ผมเกลียดมันจริงๆ ผมไม่ได้มีอะไรที่ต่อต้าน ท็อดด์ โบห์ลี่ แต่พวกเขาต้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะทำลายสโมสร"
"ผมต้องบอกว่าคนที่รับผิดชอบเรื่องการเสริมทีมเป็นคนที่ต้องถูกตำหนิมากที่สุด เป็นเรื่องปกติที่สโมสรจะเซ็นสัญญากับผู้เล่นอายุน้อยถ้าพวกเขามีความมุ่งมั่น แต่บอร์ดบริหารลืมที่จะต้องรักษาสมดุลของทีม"
"กระดูกสันหลังของทีมยังเด็กมากนอกจาก (ติอาโก้) ซิลวา ซึ่งมีแข้งประสบการณ์ในทีมไม่มากนัก แม้แต่ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ก็ยังเด็กมาก แม้ว่าเขาจะรู้จักเกมเป็นอย่างดีก็ตาม "
"ผมไม่เห็นความเป็นผู้นำ นั่นคือปัญหาหลัก ฝ่ายที่ดูแลการเสริมทีมไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย และผมคิดว่าทุกคนต้องรับผิดชอบ, โบห์ลี่ อนุมัติข้อตกลงโดยมี โปเช็ตติโน่ รับหน้าที่ ถ้าผมถูกขอให้ไปคุม เชลซี ผมจะตอบปฎิเสธ!"
"การขาดผู้นำเป็นปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ และผมไม่รู้ว่าพวกเขาจะแก้ไขมันยังไง เชลซี ยังต้องการความช่วยเหลือในแดนกลางอย่าง โทนี่ โครส หรือ ลูก้า โมดริช พวกเขาอาจจะแก่และไม่ได้ลงเล่นมากนัก แต่พวกเขาสามารถรับใช้สโมสรได้เป็นอย่างดีแน่นอน"
