ทัพโคนมมีปัญหาจัดทัพพอสมควรเพราะขาดทั้ง คริสเตียน เอริคเซ่น และ ราสมุส ฮอยลุนด์ สองตัวหลักจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เกมรุกจึงใช้ โยนาส วินด์ เล่นร่วมกับ ยุสซุฟ โพลเซ่น ส่วน สโลวีเนีย มี เบนยามิน เชชโก้ จาก ไลป์ซิก คอยล่าตาข่าย

ในช่วง 15 นาทีแรก เดนมาร์ก มีโอกาสลุ้นยิงจากทั้ง โยอาคิม เมห์เล่ และ โยนาส วินด์ แต่ ยาน โอบลัค นายทวารตัวเก่งของ สโลวีเนีย ยังป้องกันเอาไว้ได้  

นาที 26 เดนมาร์ก ได้ประตูนำ 1-0 ที่ต้องการจนได้จากจังหวะที่ โยนาส วินด์ เก็บบอลได้ในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนตักไปหน้าประตู โยอาคิม เมห์เล่ วิ่งสอดมาชาร์จจ่อๆ ตุงตาข่าย 

แต่ สโลวีเนีย ตามตีเสมอ 1-1 ได้เร็วในอีก 4 นาทีถัดมา จากฟรีคิกหน้าเขตโทษฝั่งซ้ายที่ โธมัส เดลานีย์ ไปทำฟาวล์ แซน ซิพอตนิค ก่อนเป็น เอริค ยานซ่า ปั่นด้วยซ้ายเข้าไป แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล บินปัดได้ปลายนิ้วแต่เอาไม่อยู่ และจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้

ครึ่งหลังนาที 54 เดนมาร์ก นำอีกรอบเป็น 2-1 มัทเธียส เยนเซ่น กระดกบอลไปให้ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด โหม่งเสยต่อไปถึง โธมัส เดลานีย์ พักบอลลงด้วยหน้าขาก่อนตวัดด้วยซ้ายระยะเผาขนเข้าประตูไป เสียงเฮกระหึ่มสนามแทบแตก

จากนั้น สโลวีเนีย พยายามปรับเกมรุกสู้เพื่อตามตีเสมอให้ได้ แต่ก็ไม่สำเร็จ เดนมาร์ก ต้านเอาไว้ได้หมดทำให้จบเกม โคนม เอาชนะไปได้หวุดหวิด 2-1 คว้าตั๋วลุยรอบสุดท้ายในทันทีด้วยการมี 22 คะแนน ส่วน สโลวีเนีย ไปลุ้นนัดสุดท้ายที่จะเล่นในบ้านพบ คาซัคสถาน ซึ่งตามหลังแต้มเดียว วัดกันเข้ารอบโดยตรง