ราฮีม มอร์ริส หัวหน้าโค้ชวัย 47 ปีเปิดเผยว่ามันเป็นช่วงเวลาพิเศษและเหมือนกลับบ้านเมื่อหวนกลับมาทำงานฐานะหัวหน้าโค้ชคนใหม่ของ แอตแลนต้า ฟอลค่อนส์ หลังเคยทำงานเฮดโค้ชรักษาการเมื่อ 4 ปีก่อนหน้านี้ ตามรายจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์ค 

มอร์ริส เคยทำงานกับ ฟอลค่อนส์ ฐานะผู้ช่วยเฮดโค้ช, โค้ชดีเฟนซีฟแบ็คและผู้ประสานงานเกมขว้างเกมป้องกันในปี 2015 จากนั้นปรับมาทำงานผู้ช่วยเฮดโค้ช, โค้ชปีกนอกและผู้ประสานงานเกมขว้างทีมบุกในช่วงปี 2016-2019 และก้าวขึ้นมาเป็นโค้ชทีมบุุกในปี 2020 และกลายเป็นเฮดโค้ชรักษาการหลัง ฟอลค่อนส์ ปลด แดน ควินน์ ออกจากตำแหน่งหลังสัปดาห์ทื่ 5 ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนั้น มอร์ริส ทำสถิติ 4-7 ก่อนจะย้ายมาทำงานฐานะโค้ชทีมรับของ แอลเอ แรมส์ และหวนคืน แอตแลนต้า อีกครั้งในฐานะหัวหน้าโค้ชคนใหม่ 

'นี่เป็นการกลับบ้าน' มอร์ริส กล่าวเมื่อถูกถามว่าเขาเคยจินตนาการว่าจะกลับมาเป็นเฮดโค้ชของ ฟอลค่อนส์ หรือไม่ 'เมื่อคุณมีโอกาสกลับบ้านในอาชีพนี้ มันสำคัญอย่างยิ่งต่อทุกคนที่เกี่ยวข้อง และนั่นคือช่วงเวลาพิเศษ ไม่ใช่แค่สำหรับผม แต่สำหรับครอบครัวของผม และสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง'

'แต่นี่เป็นกระบวนการสำหรับผมที่โดดเด่นและสนุกมาก ผมไม่สามารถแสดงความดีใจที่มีได้ในตอนนี้ที่ได้กลับมาร่วมงานกับ (อาร์เธอร์ แบลงค์ เจ้าของทีม ฟอลค่อนส์) แบลงค์ เพื่อให้สามารถกลับมาร่วมงานกับคนรอบข้างที่ผมอยู่ด้วยมานานหลายปีและผมสามารถพูดเรื่องนี้ได้ตลอดงานแถลงข่าวที่เหลือและมันอาจทำให้คุณเบื่อ แต่ถ้าคุณเคยอยู่จุดนี้ ได้กลับบ้าน นี่เป็นความรู้สึกดีที่สุดในโลกอย่างแน่นอน'

มอร์ริส เป็นที่รู้จักกันในเรื่องความเชี่ยวชาญเรื่องเกมป้องกัน แต่เขาจะมอบหมายให้ จิมมี่ เล้ค โค้ชทีมรับทำหน้าที่เรียกเพลย์ป้องกัน 

'เห็นได้ชัดว่า จิมมี่ เรียกมันมาเป็นเวลานานในเกมคอลเลจ และผมไม่เห็นปัญหาความมั่นใจและการดิ้นรนมากมายที่เขาจะต้องเรียกร้องในระดับต่อไป โดยส่วนตัวแล้วผมอยากให้ จิมมี่ ออกไปอยู่ข้างหน้าใช่ไหม? เรียกเพลย์ และตัวผมเองสามารถดูแลได้ทั้งสองฝั่ง ดังนั้นผมจึงสามารถมีส่วนร่วมกับวิธีที่เรารับมือกับสถานการณ์ต่างๆได้จริงๆ วิธีที่เราจะจัดการกับเกมของเราและเรื่องอื่นๆ เพียงเพื่อให้คุณได้หัวหน้าโค้ชทั้งหมด และคุณสามารถควบคุมทีมฟุตบอลตามที่คุณต้องการควบคุมมัน'