เริ่มเกมมานาที 14 นาโปลี น่าจะได้ประตูนำสุดๆ เมื่อ มัตเตโอ โปลิตาโน่ ไหลบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ ควิช่า ควารัตสเคเลีย มีทั้งเวลาและพื้นที่ ทว่ายิงติดเซฟ วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช และในจังหวะเตะมุม วิคเตอร์ โอซีเมน ได้โหม่งบอลเฉี่ยวเสาไกลออกหลังนิดเดียว

อีก 10 นาทีถัดมา นาโปลี มีลุ้นอีกครั้ง อ็องเดร-ฟร้องค์ ซัมโบ อ็องกีสซ่า โยนบอลจากฝั่งขวาไปถึง วิคเตอร์ โอซีเมน ได้โหม่ง แต่ไม่เข้ากรอบ 

ท้ายครึ่งแรก โตริโน่ มีลุ้นบ้างจากฟรีคิกที่ ริคคาร์โด้ โรดรีเกซ ยิงติดบล็อกออกหลัง และจากจังหวะเตะมุม อเลสซานโดร บวนจอร์โน่ ได้โหม่งแต่ไม่เข้ากรอบ จากนั้น นาโปลี ได้สวนกลับ ควิช่า ควารัตสเคเลีย พาบอลถึงกลางสนามก่อนลักไก่ยิงหลังเห็น วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช ออกมาไกล ทว่าบอลลอยหลุดเป้าหมายไปไกลทำให้จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลังนาที 61 นาโปลี ออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ ควิช่า ควารัตสเคเลีย ถ่ายบอลออกซ้ายให้ มาริโอ รุย เปิดเข้าเขตโทษ ควารัตสเคเลีย เข้าชาร์จเสาแรกตุงตาข่าย 

ทว่านาโปลีก็ดีใจได้เพียง 3 นาที เมื่อ โตริโน่ เป็นฝ่ายตามตีเสมอ 1-1 จากเตะมุมที่ ดูวาน ซาปาต้า โหม่งเสาแรก บอลเลยไปโดน อ็องเดร-ฟร้องค์ ซัมโบ อ็องกีสซ่า แล้วเด้งเป็นใจให้ อันโตนิโอ ซานาเบรีย ตีลังกาฟาดจ่อๆ บอลตรงตัว อเล็กซ์ เมเร็ต ที่ปัดได้แต่ไม่ออก กลายเป็นประตูสุดสวยของทีมเยือน 

นาที 77 เจ้าถิ่นมีโอกาสอีกครั้งเมื่อกองหลังทีมเยือนโหม่งเคลียร์ไม่ดี วิคเตอร์ โอซีเมน ได้หมุนตัวยิงมุมแคบ แต่ซัดตรงตัว วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช และจากจังหวะเตะมุมฝั่งขวา ชวน เชซุส ได้โหม่ง แต่บอลก็เข้าซอง มิลินโควิช-ซาวิช

ท้ายเกม นาโปลี ขึงเกมรุกต่อเนื่องและมีโอกาสอีกพอสมควรจากการหาช่องยิงไกลของ ควิช่า ควารัตสเคเลีย ทว่าก็ไม่เป็นประตูทำให้จบเกม นาโปลี ได้เพียงเสมอ โตริโน่ 1-1 ก่อนทำศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก ดวล บาร์เซโลน่า