โจอี้ โบซ่า และ คาลิล แม็ค สองผู้เล่นดาวดังของ แอลเอ ชาร์จเจอร์ส ตกลงปรับลดค่าจ้างลงมาจากเดิม แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าทั้งคู่หรือคนใดคนหนึ่งจะถูกปล่อยตัวหรือไม่
แอลเอ ชาร์จเจอร์ส บรรลุข้อตกลงในการปรับโครงสร้างสัญญาของ โจอี้ โบซ่า และ คาลิล แม็ค สองผู้เล่นค่าจ้างแพง แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าทั้งคู่จะเป็นลูกทีมของ จิม ฮาร์บอห์ หัวหน้าโค้ชคนใหม่ต่อไปหรือไม่ ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์ค
โบซ่า ลดค่าจ้างจาก 22 ล้านเหรียญสหรัฐลงมาเหลือ 15 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ไลน์แบ็กเกอร์วัย 28 ปียังรับเงินการันตีเต็มจำนวน และยังคงสามารถได้รับเงินคืน 4 ล้านเหรียญสหรัฐจากโบนัสสร้างแรงจูงใจจากจำนวนแซ็ค
ขณะที่ แม็ค ไลน์แบ็กเกอร์วัย 33 ปีเงินเดือนลดลงจาก 23.25 ล้านเหรียญสหรัฐ เหลือ 19 ล้านเหรียญสหรัฐ และไม่สามารถติด แฟรนไชส์ แท็กในปี 2025
อย่างไรก็ตามอนาคตของ โบซ่า ยังเป็นทื่น่าสงสัย หลังจากเขาลงเล่นเพียง 14 เกมในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาและทำเพียง 9 แซ็ค โดยถูกนับเงินสูงถึง 36.6 ล้านเหรียญสหรัฐเทียบกับเพดานเงินเดือนสูงสุด นับตั้งแต่เขาเซ็นสัญญา 5 ปี มูลค่า 135 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020 โดยทำทั้งหมด 27 แซ็คใน 4 ฤดูกาลและพลาดการลงเล่นถึง 25 เกม
ชาร์จเจอร์ส ยังสามารถประหยัดเงินได้ประมาณ 14 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีเงินตาย 22 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการตัดหรือเทรด โบซ่า ออกจากทีม
ส่วน แม็ค อดีต โพร โบวล์ 8 สมัย เป็นผู้เล่นที่ทำรายได้สูงสุดในเพดานเงินเดือนมูลค่า 38.5 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นเป้าหมายสำหรับการปล่อยตัวที่เป็นไปได้ ทว่า แม็ค ยังมีจุดแข็งเรื่องการเล่นที่มีประสิทธิภาพจากการทำ 17 แซ็คในซีซั่น 2023 และไม่เคยพลาดการลงเล่นกับทีมสายฟ้าตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่การตัดผู้เล่นวัย 33 ปีจะช่วยเซฟเงิน 23 ล้านเหรียญสหรัฐ
