ที่ เอเม็กซ์ สเตเดียม เป็นศึก พรีเมียร์ลีก ระหว่าง เดอะ ซีกัลส์ รับมือ เรือใบสีฟ้า 

เล่นได้ 2 นาทีเศษ ไบรท์ตัน ทักทายก่อนจากจังหวะ แดนนี่ เวลเบ็ค ได้โอกาสสับไกติดเซฟ เอแดร์ซอน จากนั้นนาทีที่ 15 ทีมเยือนลุยบ้าง ฟิล โฟเด้น เปิดฟรีคิกเข้าทาง นาธาน อาเค่ ยิงข้ามคาน

จนนาทีที่ 17 ซิตี้ ออกนำ 1-0 ฟิล โฟเด้น แทงขึ้นทางขวาให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ เปิดเข้าใน เควิน เดอ บรอยน์ ทิ้งตัวโขกส่งบอลลอยเสียบใต้คานแบบหมดจด

เอาบอลมาเขี่ยได้ 2 นาที เจ้าบ้านพลาดโอกาสตีเสมอ วาเลยตีโน่ บาร์โก้ สาดเตะมุมจากทางซ้ายเข้ามาให้ ลูอิส ดังก์ โขกเน้นๆ แต่บอลตรงตัว เอแดร์ซอน รับเข้ามือหนึบ

เรือใบสีฟ้า นำห่าง 2-0 ในนาที 26 จากฟรีระยะหวังผลเยื้องทางขวา ฟิล โฟเด้น ยิงแฉลบผู้เล่นไบรท์ตันเปลี่ยนทางเข้าประตู

เท่านั้นไม่พอนาทีที่ 34 ทีมเยือนหนีไปไกล 3-0 โดยเป็นจังหวะเจ้าบ้านพยายามฝืนต่อบอลสั้นหน้าประตูตัวเองแล้วถูก แบร์นาร์โด้ ซิลวา ตัดเข้าทาง ฟิล โฟเด้น แปเสียบเสาซ้ายมือ

ครึ่งหลังนาทีที่ 62 แมนฯ ซิตี้ ส่งบอลเข้าประตูอีกครั้ง ไคล์ วอล์คเกอร์ แตะเข้าเขตโทษเหมือนยาวไปแต่ตามไปสไลด์ได้ก่อน และเป็น ฮูเลียน อัลวาเรซ ยิงไม่พลาด ผู้เล่นไบรท์ตันพยายามประท้วงแต่ไม่เป็นผลขยับสกอร์เป็น 4-0 

นาทีที่ 70 เจ้าบ้านร้องเอาจุดโทษ ยอชโก้ กวาร์ดิโอล เข้าข้างหลัง ชูเอา เปโดร แต่ผู้ตัดสินเฉย โดยทาง วีเออาร์ ตรวจสอบและยืนยันคำตัดสินเดิมไม่ให้เป็นจุดโทษ

จบเกม แมนฯ ซิตี้ บุกถล่ม ไบรท์ตัน 4-0 ทำให้ไล่จี้จ่าฝูง อาร์เซน่อล เหลือแต้มเดียวแถมลงเล่นน้อยกว่าหนึ่งนัด ส่วน เดอะ ซีกัลส์ อยู่อันดับ 11