"มาดามแป้ง"บุกสมาคมฯยื่นหนังสือร้องเปาเกมล่าสุด
"มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร การท่าเรือ เอฟซี มาตามนัดยื่นหนังสือร้องเรียนการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมล่าสุด ณ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. เดินหน้ายื่นหนังสือร้องเรียนการทำหน้าที่ผู้ตัดสิน นัดท่าเรือเยือนสุโขทัย เผยยอมรับทุกคำตัดสิน เพียงแต่ขอแสดงความเห็นเพื่อวงการฟุตบอลไทย
วันที่ 1 เมษายน 2562 เวลา 14.00 น. ณ ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. เดินทางมายื่นหนังสือจากสโมสร เรื่องการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในการแข่งขันไทยลีก 1 นัดท่าเรือเยือนสุโขทัย เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยมี คุณธีรภัทร์ วนิชาชีวะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือดังกล่าว
โดย นวลพรรณ ล่ำซำ ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า “ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่แป้งเดินทางมายื่นหนังสือด้วยตนเอง ก็ด้วยความรักและความปรารถนาดี อยากเห็นการแข่งขันไทยลีกและวงการฟุตบอลไทยพัฒนา ก้าวเป็นลีกชั้นนำของภูมิภาค และต้องขอย้ำว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา แป้งเคารพและยอมรับผลการตัดสินตามกติกามาโดยตลอด ที่ผ่านมาเราทุกคนได้รับรู้ข่าวสาร ความคิดเห็นต่างๆ จากสื่อ จากสโมสรต่างๆ แฟนเพจกีฬาฟุตบอล รวมถึงความคิดเห็นจากแฟนบอลคนไทยมาโดยตลอด ถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา แป้งเชื่อว่าหลายสโมสร ทั้งนักกีฬา ผู้บริหาร และแฟนบอลทุกสโมสรก็คิดเช่นเดียวกับแป้ง หลังการแข่งขันไทยลีกฤดูกาล 2019 ผ่านมา 5 นัด ตนรู้สึกมีความห่วงใย และกังวลกับการตัดสิน และการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการบางท่านในหลายๆ นัด เกรงว่าอาจจะไม่ทันเกมและขาดมาตรฐาน แป้งในฐานะคนที่เข้ามาทำทีมฟุตบอล และรักฟุตบอล หวังที่จะเข้ามามีส่วนในการพัฒนาวงการฟุตบอลอย่างแท้จริง อยากให้การแข่งขันไทยลีกเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม สมศักดิ์ศรีวงการฟุตบอลไทย เพื่อขวัญและกำลังใจของพวกเราคนรักฟุตบอล ทั้งนักกีฬา ผู้ฝึกสอน แฟนบอล และผู้บริหารสโมสร การทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในสนามเป็นข้อบ่งชี้สำคัญของพัฒนาการการจัดการแข่งขันฟุตบอลไทย ว่าได้ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลหรือไม่”
.
พร้อมกับทิ้งท้ายว่า “แม้การยื่นหนังสือในวันนี้จะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันและตารางคะแนน ซึ่งตนยอมรับกฎและกติกามาโดยตลอด และต้องย้ำว่าตนไม่มีปัญหาหรือความขัดแย้งกับสโมสรใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเชื่อว่าเราทุกคนคือคนที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะร่วมกันพัฒนาวงการฟุตบอลของไทย อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลายๆ สโมสรซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่างที่หลายท่านได้รับทราบ ล้วนมีส่วนสำคัญในการบั่นทอนขวัญ กำลังใจของนักเตะ แฟนบอล และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ตนหวังว่าสิ่งที่ตนมาในวันนี้จะเป็นสัญญานและเสียงสะท้อน (และหวังว่าจะเป็นเสียงที่ดังพอ) ถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้มีการพัฒนามาตรฐานผู้ตัดสิน และร่วมกันเดินไปสู่พัฒนาการของไทยลีกต่อไป ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องลุกขึ้นมาพูดคุย กำหนดแนวทางเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวอย่างจริงจัง การออกมาพูดวันนี้ ขอบอกว่า มาพูดเพื่อศักดิ์ศรีและการก้าวหน้าของวงการฟุตบอลไทยอย่างแท้จริง จากใจคนรักบอลไทย”