"เพชรนาเคียน" ได้ "เสือแบล็ค" ติวเข้มดวล "อูเบด"

ภาคแรกระหว่าง เพชรนาเคียน และ อูเบด เกิดขึ้นในศึก ONE ลุมพินี 115 เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นไฟต์ที่สนุกและดุเดือดเกินบรรยาย เมื่อทั้งคู่ต่างพร้อมใจประเคนอาวุธใส่กันไม่มีพัก โดยเฉพาะในยกสุดท้าย แม้ เพชรนาเคียน จะโดน อูเบด ฟันศอกเรียกแผลแตกแต่กลับยิ่งบ้าดีเดือด เป็นฝ่ายเดินบดอาวุธเข้าใส่อย่างหนัก จน อูเบด ต้องเป็นฝ่ายถอยเพื่อเอาตัวรอดประคองเกมให้ครบยก

เมื่อกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 3 ท่านรวมคะแนนออกมา ปรากฏว่าเป็น อูเบด ที่ทำผลงานได้ดีกว่าในช่วง 2 ยกแรก เข้าป้ายเอาชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ ซึ่ง เพชรนาเคียน ได้ย้อนกลับไปวิเคราะห์ถึงสาเหตุของความพ่ายแพ้และบทเรียนสำคัญที่เขาได้รับจากไฟต์นี้

“ไฟต์ที่แล้วกับ อูเบด ยกแรกผมวางแผนจะลองดูเชิงก่อน แต่เขากลับเปิดเกมบุกใส่ทันที ทำให้ผมเป็นรอง พอเข้ายกสองผมพยายามออกอาวุธมากขึ้น แต่ก็ยังตามความเร็วเขาไม่ทัน จนช่วงท้ายยกเริ่มเห็นว่าเขาอ่อนแรงและออกอาวุธผิดจังหวะบ่อยขึ้น พอยกสุดท้ายผมจึงเร่งเดินบี้ใส่ต่อเนื่องจนเขาออกอาการ ซึ่งผมมั่นใจว่าถ้ามีเวลาเพิ่มอีก 20–30 วินาที ผมกดเขาลงได้แน่นอน”

“ตอนฟังผลคะแนนก็แอบลุ้นเหมือนกันว่าจะเป็นฝ่ายชนะ เพราะยกสุดท้ายผมทำได้ดีมาก แต่เคารพการตัดสินของกรรมการครับ ยอมรับว่ายกแรก ผมมัวแต่ดูเชิงมากเกินไป ทำให้เรียนรู้ว่า เวลาขึ้นชกกับคู่ต่อสู้ต่างชาติในรายการนี้ ผมต้องเปิดเกมตั้งแต่แรกให้ได้ครับ”

ในส่วนของการฝึกซ้อมในช่วงโค้งสุดท้ายสำหรับไฟต์นี้ เพชรนาเคียน เลือกเดินทางไกลจากบ้านเกิด  จ.นครศรีธรรมราช มาลับวิชาที่ค่ายเอ็นพีเสือแบล็คมวยไทยยิม ของรุ่นน้องคนสนิท เสือแบล็ค ท.พราน49 ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เพื่อเตรียมความพร้อมให้ถึงขีดสุดในทุก ๆ ด้าน ก่อนลุยแก้มือ อูเบด ในวันศุกร์นี้

“ผมกับเสือแบล็ครู้จักกันมากว่า 10 ปีแล้ว เคยเจอกันที่ระยอง จากนั้นก็ติดต่อกันตลอด จนไฟต์นี้ผมเลือกมาซ้อมที่ค่ายเขาในช่วงโค้งสุดท้าย เพราะเสือแบล็คเป็นมวยซ้ายเหมือน อูเบด ทำให้ได้ซ้อมใกล้เคียงกับสถานการณ์จริง และยังมีประสบการณ์ชกกับนักสู้ต่างชาติใน ONE ด้วย อีกอย่าง ที่ค่ายมีคู่ซ้อมให้เลือกเยอะมากครับ”

“เสือแบล็ค ช่วยติวให้ผมหลายอย่างเลย โดยเฉพาะอาวุธแปลก ๆ ที่ผมไม่เคยใช้มาก่อน เขาก็สอนให้ผมกล้าออก เพื่อจะได้ไปนำไปใช้สู้กับนักชกต่างชาติที่มักมาสู้แบบไม่มีตำรา แต่จะเป็นอาวุธอะไรนั้นอยากให้ไปรอติดตามบนเวที นอกจากนี้ยังมีการเสริมเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วยด้วย รับรองว่าไฟต์นี้แฟนมวยจะได้เห็นผมเดินอัดไม่มีหมดทั้ง 3 ยกแน่นอน และ เสือแบล็ค จะมาเป็นพี่เลี้ยงคอยแก้เกมที่มุมให้ด้วยครับ”

หลังเคยแลกเดือดกันแบบถึงพริกถึงขิงมาแล้ว ทำให้ไฟต์นี้ เพชรนาเคียน รู้ดีว่าตัวเองควรต้องวางแผนมาชกกับ อูเบด ในรูปแบบไหนถึงจะทำผลงานออกมาได้ยอดเยี่ยมกว่าเดิม พร้อมประกาศชัดถึงเป้าหมายที่ต้องการจะปิดเกมล้างแค้นให้ได้แบบทบต้นทบดอก

“อูเบด ได้เปรียบช่วงชกยาวกว่า แถมพลังสดช่วงต้นยก แต่ยังรับมือวงในไม่เก่ง เวลาโดนบี้ประชิดมักเสียจังหวะ ไฟต์นี้ผมแค่ระวังตัวให้ผ่านครึ่งยกแรกไปได้ เมื่อไหร่ที่เขาเริ่มหมดแรง ผมจะเดินบดใส่ไม่ยั้งแน่นอน

อีกอย่าง ไฟต์นี้ผมไม่ได้มีแค่อาวุธแปลก ๆ ที่ เสือแบล็ค ติวมาให้เท่านั้น แต่ยังซุ่มซ้อมศอกไว้เป็นพิเศษด้วย หลังจากที่ไฟต์ก่อนผมคิดแต่จะใช้หมัดอย่างเดียวจนลืมใช้อาวุธอื่น ๆ ครั้งนี้ถ้าได้เข้าวงในเมื่อไหร่ เขาเจอศอกผมแน่ครับ

ผมเชื่อว่า อูเบด น่าจะเตะต่อยและฉีกออกข้างเพื่อไม่ให้ผมเดินบี้ติด แต่คราวนี้ผมมั่นใจว่าตามสปีดเขาทันแน่ เพราะร่างกายฟิตกว่าไฟต์ก่อนเยอะ ผมจะเปิดเกมดุตั้งแต่เสียงระฆังยกแรกดังเหมือนยกสุดท้ายของไฟต์ก่อน และตั้งใจปิดเกมเพื่อคว้าโบนัสเป็นทุนการศึกษาและค่าเลี้ยงดู น้องซาฟีรา อีกครั้งครับ”