"ทรงชัยน้อย" พร้อมแลกอาวุธ "หนุ่มสุรินทร์"

นับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่สังเวียน ONE ลุมพินี เมื่อเดือน ม.ค. 66 ทรงชัยน้อย โชว์ลีลาการชกดุดัน เร้าใจ จนค่อย ๆ เอาชนะใจแฟนมวยกลายเป็นขวัญใจที่หลายคนรอติดตาม เขาเก็บชัยชนะต่อเนื่อง 5 ไฟต์จนคว้าสัญญา ONE มาครองเมื่อ พ.ย. 66 และได้โอกาสขึ้นเวทีระดับโลกมาแล้ว 1 ครั้ง ในศึก ONE Fight Night 21 เมื่อ เม.ย. 67

3 ไฟต์หลังสุด เขายังคงทำฟอร์มดีต่อเนื่อง เริ่มจากการเอาชนะคะแนนเอกฉันท์คู่ปรับเก่า รักษ์ เอราวัณ ต่อด้วยการปิดเกมน็อกเอาต์หยุดสถิติไม่แพ้ใคร 6 ไฟต์รวดของ ยอดนำชัย แฟร์เท็กซ์ ช่วงปลายปีที่แล้ว และล่าสุด เขาเอาชนะคะแนนเอกฉันท์เหนือ ตี๋ใหญ่ ทีเด็ด99 ในศึก ONE ลุมพินี 100 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ชัยชนะครั้งล่าสุดส่งผลให้ปัจจุบัน ทรงชัยน้อย ครองสถิติไร้พ่าย 9 ไฟต์รวดใน ONE ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทุกครั้งต้องเจอกับคู่ชกระดับหัวกะทิของรุ่นอะตอมเวต (105-115 ป.) อยู่เสมอ

“ผมภูมิใจกับผลงาน 9 ไฟต์ที่ผ่านมามาก ไม่เคยคิดเลยว่าจะเก็บชัยชนะติดต่อกันได้นานขนาดนี้ เพราะการต้องเจอกับคู่ต่อสู้เก่ง ๆ มันไม่ง่ายเลยที่จะผ่านได้ กว่าจะชนะได้แต่ละครั้ง ผมต้องผ่านความเจ็บปวด ต้องอดทนกับหลายเรื่องถึงจะผ่านมาได้ และการที่ยังไม่แพ้ใครในรายการนี้ก็พอจะพิสูจน์ได้ว่าเราเป็นเบอร์ต้น ๆ ของรุ่นนี้เหมือนกัน แต่ยังมีอีกหลายด่านให้ผมพิสูจน์อีกเยอะ”

“ผมพัฒนาตัวเองขึ้นมาก เมื่อก่อนผมหมัดหนักแต่ไม่เคยใช้หมัดเลย ใช้แต่จังหวะฝีมือ ทุกวันนี้ผมนำวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วย รวมถึงนำอาวุธแม่ไม้มวยไทยอื่น ๆ เช่น เข่าลอย การออกหมัดชุดมาใช้ซึ่งได้ผลดีมาก”

ศึกครั้งนี้ เขาจะต้องเจอกับอีกหนึ่งนักชกที่ฟอร์มร้อนแรงอย่าง หนุ่มสุรินทร์ จอมเก๋าเจ้าของผลงานคว้าชัยชนะ 104 ไฟต์ จากการแข่งขัน 125 ครั้ง และไร้พ่ายบนสังเวียน ONE ลุมพินี 5 ไฟต์รวด โดยผลงานล่าสุดเพิ่งโชว์ฟอร์มเดือดปิดเกมน็อก แป๊ะยิ้ม ส.บุญมีฤทธิ์ ตั้งแต่ยกสอง ในศึก ONE ลุมพินี 113 เมื่อ มิ.ย. ซึ่งครั้งนี้เจ้าตัวประกาศชัดว่าจะโชว์ศักยภาพที่แท้จริงด้วยการล้ม ทรงชัยน้อย เพื่อก้าวไปอีกระดับบนเวทีนี้ให้ได้

ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ทั้งคู่ต่างยังไม่เคยแพ้ให้ใครใน ONE ทำให้ไฟต์นี้การันตีว่าจะต้องมีคนเสียสถิตินี้แน่นอน ด้าน ทรงชัยน้อย มั่นใจว่าเกมการชกจะเต็มไปด้วยความดุเดือด และแฟน ๆ จะได้เห็นการนับน็อกเกิดขึ้นในไฟต์นี้แน่

“หนุ่มสุรินทร์ ฟอร์มกำลังสด มีหมัดอันตรายมาก เพราะผ่านประสบการณ์มวยสากลสมัครเล่นมา ทำให้การออกหมัดหลากหลายและน่ากลัว แต่จุดอ่อนของเขาคือเวลาเจออาวุธหนัก ๆ ก็มีสะเทือนเหมือนกัน โดยเฉพาะเกมวงใน ถ้าเราเดินเบียดเข้าไปเรื่อย ๆ ก็น่าจะทำให้เขาออกอาการได้

แม้เขาจะมีประสบการณ์บนสังเวียนมากกว่า แต่สำหรับรายการ ONE ลุมพินี ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญเท่าไหร่ เพราะผมชกนวมเล็กมามากกว่า น่าจะมีวิธีแก้เกมได้ดีกว่า ไฟต์นี้ถือว่าสูสี เขาน่าจะมาเปิดเกมใส่ผม และถ้าเป็นแบบนั้น ผมเองก็พร้อมแลกเหมือนกัน ยังไงไฟต์นี้ต้องมีคนแพ้แน่นอนครับ”

นอกจากนี้ เขายังหวังใช้ชัยชนะครั้งนี้เป็นใบเบิกทางกลับไปพิสูจน์ฝีมือบนสังเวียนใหญ่ระดับโลกอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการรีแมตช์ล้างตากับ นาดากะ คู่ปรับเก่าที่เคยยัดเยียดความพ่ายแพ้แบบไม่ครบยกให้เมื่อ 2 ปีก่อนในกติกามวยไทย 5 ยก ซึ่งเป็นรอยแค้นที่ยังฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้

“ถ้าผมชนะได้แบบสวย ๆ ผมก็อยากขอโอกาสไปรีแมตช์กับ นาดากะ ที่บ้านเกิดเขา ถ้าได้โอกาสนั้น ผมมั่นใจว่าร่างกายของผมสมบูรณ์พอที่จะสู้เต็มที่ จะไม่ยอมแพ้เขาง่าย ๆ แบบครั้งก่อนแน่นอน”