"ก้องไกล" ตั้งเป้าสยบ "เฟอร์รารี" หวังแจ้งเกิดอีกครั้ง

ก้องไกล ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งนักชกที่ขึ้นสังเวียนเมื่อไรมักใส่เต็มร้อย โดยนับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่สังเวียน ONE ลุมพินี ในเดือน ก.พ. 66 เขาเก็บชัยชนะมาแล้ว 3 ครั้ง และทั้งหมดเป็นการปิดเกมคู่ต่อสู้แบบไม่ครบยก

อย่างไรก็ตาม ฟอร์มกลับมาสะดุดใน 5 ไฟต์หลัง โดยไฟต์ล่าสุด ก้องไกล พลาดท่าโดนอาวุธของ แอนตาร์ คาเซมนักชกสัญชาติฝรั่งเศส-เบลารุส น็อกตั้งแต่ต้นยกสอง ในศึก ONE ลุมพินี 90 เมื่อปลายปีที่แล้ว จนต้องเผชิญทั้งความผิดหวังและกระแสวิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์

“ช่วงที่ฟอร์มไม่ดี ผมเจอกับคำวิจารณ์มากมาย มีบ้างที่รู้สึกท้อ แต่ไม่นานก็ปลุกกำลังใจตัวเองให้กลับมาซ้อมต่อ แม้ผลงานช่วงหลังจะไม่สวยนัก แต่ผมดีใจที่รายการยังให้โอกาสผมกลับมาชก ครั้งนี้ ผมมั่นใจมากเพราะซ้อมมาอย่างต่อเนื่องกว่า 4 เดือน สภาพร่างกายสมบูรณ์ที่สุดตั้งแต่ชกมวยมา ครั้งนี้ผมแพ้ไม่ได้อีกแล้ว ตั้งใจจะคว้าชัยชนะให้ได้”

ในการเตรียมตัวเพื่อคืนสังเวียนครั้งนี้ ก้องไกล เลือกย้ายฐานซ้อมไปที่ค่ายพีเค.แสนชัย ย่านพระราม 3 เพื่อเสริมความรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์

“ตอนนี้ผมซ้อมที่ค่าย พีเค. ครบครึ่งปีแล้ว รู้สึกว่าทุกอย่างพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมีวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วยเสริม อีกทั้งยังมี พระจันทร์ฉาย คอยให้คำแนะนำ สอนเทคนิค และช่วยแก้เกมให้อย่างใกล้ชิด การได้ฝึกซ้อมกับคนที่เจนสนาม ทำให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา เพราะเขาจะใส่ใจในจุดที่เราบกพร่องและปรับแก้ให้ทุกขั้นตอนครับ”

“และสิ่งสำคัญที่ทำให้ผมไม่ยอมถอดใจ คือได้เห็นนักมวยหลายคนในค่ายที่มาชกใน ONE แม้เคยแพ้หลายครั้ง แต่ยังกลับมาแจ้งเกิดได้ อย่างเช่น กิ่งซางเล็ก เขาก็กลับมาได้ แล้วทำไมผมจะกลับมาไม่ได้”

เป้าหมายของ ก้องไกล ในไฟต์นี้ชัดเจน คือการคว้าชัยเหนือ เฟอร์รารี เจ้าของรางวัล “ยอดมวยปี 2564” ผู้ครองสถิติชนะ 5 จาก 8 ไฟต์ใน ONE และทุกชัยชนะล้วนมาจากการปราบนักชกต่างชาติมากฝีมือทั้งสิ้น ก่อนจะถูกโทษแบนจากแข่งขันไปนาน 3 เดือน หลังตรวจพบสารกระตุ้น

สำหรับทั้งคู่ไม่ใช่คนแปลกหน้าเสียทีเดียว เพราะครั้งหนึ่งเคยซ้อมร่วมกันที่ค่ายแฟร์เท็กซ์ แม้จะเป็นช่วงสั้น ๆ แต่ ก้องไกล รู้ดีถึงศักยภาพของคู่ซ้อมเก่า และมั่นใจว่าเตรียมอาวุธพร้อมสู้เต็มที่

“ตอนที่รู้ว่าจะได้เจอกันกับ เฟอร์รารี ผมตกใจเหมือนกัน เพราะเราเคยซ้อมปล้ำกันตอนที่ผมถูกส่งตัวไปซ้อมที่ค่ายแฟร์เท็กซ์ ซึ่งผมเห็นว่าเกมวงในเขาแข็งจริง อีกอย่าง เขาเป็นมวยสูงยาว อาวุธครบเครื่อง โดยเฉพาะศอกงัดหน้าและแข้งที่อันตราย ถือเป็นคู่ต่อสู้ที่ชกด้วยยากมาก ถ้าไปสู้ในทางถนัดของเขาเราจะเสียเปรียบ”

“ส่วนจุดอ่อนของเขากับผมคล้ายกันตรงที่รับอาวุธหนักไม่ค่อยได้ ดังนั้น ใครพลาดก่อนก็มีสิทธิ์หล่นได้ทันทีไฟต์นี้ผมจึงเตรียมหมัด ศอก และแข้งขาไว้พร้อมเปิดเกมแลก เชื่อว่าจะสู้กันสนุกแน่นอน”

“ผมกับเขาต่างก็อยากชนะเพื่อกลับมาแจ้งเกิด เราคงต้องวัดกันไปเลย ผมต้องชนะให้ได้ เพื่อโอกาสได้ไปต่อในรายการนี้”