"เสกสรร" ยันลุยบู๊แหลกตามสไตล์ดวล "เสือแบล็ค"

ตลอดกว่า 2 ปี ที่ผ่านมาบนสังเวียนรายการของ ONE เสกสรร พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเรื่องของอายุเป็นเพียงตัวเลข เมื่อเขาบรรเลงเพลงต่อสู้แบบบ้าระห่ำให้เห็นจนชินตา จนก้าวขึ้นมาเป็นนักสู้ขวัญใจแฟนมวยทั่วโลกแบบเต็มตัว โดยเก็บชัยชนะได้ถึง 10 ครั้ง จากการชก 13 ไฟต์

อย่างไรก็ตาม ใน 2 ไฟต์หลัง เสกสรร ต้องพบกับความผิดหวังติดต่อกัน เริ่มจากพ่ายทีเคโอยก 3 เอซา เทน พาว จากสหรัฐอเมริกา ในศึก ONE Fight Night 30 เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 68 ล่าสุดเขาพ่ายให้กับคู่ปรับเก่าอย่าง เมืองไทย พีเค.แสนชัย ด้วยคะแนนเอกฉันท์แบบสุดมันในศึกภาค 5 ในศึก ONE ลุมพินี 114 เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา

“ในไฟต์ล่าสุดที่เจอกับ เมืองไทย ผมรู้สึกพอใจกับผลงานตัวเองมากครับ เพราะอายุขนาดนี้แล้วยังขึ้นชกได้สนุกและดุเดือด ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว หลังครบ 3 ยก ผมก็รู้ว่าคงไม่ชนะ เมืองไทย แน่นอน แต่สิ่งที่ภูมิใจคือเราสู้กันเต็มที่ และสามารถทำให้แฟนมวยประทับใจได้”

ในวัยเข้าใกล้เลขสี่ เสกสรร เผยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรักษามาตรการชกให้ดีต่อเนื่องได้ในการแข่งขันระดับสูง อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมใช้หัวใจที่แข็งแกร่ง เดินหน้าสร้างความสนุกให้ทุกคนรับชมต่อไป

“ทุกครั้งที่ขึ้นเวที ผมเตรียมตัวซ้อมมาอย่างดี ฟิตเต็มร้อยเสมอ แต่ก็ต้องยอมรับตามตรงว่าร่างกายไม่เหมือนเดิมแล้ว อายุที่มากขึ้นทำให้การออกอาวุธช้าลง เวลาโดนโจมตีก็รู้สึกเจ็บมากกว่าเมื่อก่อน ผมสู้แบบบู๊หนักมาตลอด เข้าใจดีว่าทุกอย่างย่อมเสื่อมไปตามกาลเวลา”

“หลายคนอาจบอกว่าผมควรเลิกชกได้แล้ว แต่ความจริง เสียงเชียร์ที่อยากให้ผมชกต่อยังมีมากกว่า เพราะแฟน ๆ บอกว่าพอได้ดูผมขึ้นเวทีแล้วสนุก ตื่นเต้น และมีความสุข ผมเลยยังอยากตอบแทนพวกเขาด้วยการสู้ต่อไปครับ” 

กลับมารอบนี้ เสกสรร ขอเดินหน้าพิสูจน์ความเป็นตัวตึงในพิกัดน้ำหนัก 140 ป. อย่างต่อเนื่อง ด้วยการหยุดความร้อนแรงของ เสือแบล็ค ลงให้ได้ โดยพร้อมเดินบุกบู๊แหลกตามสไตล์ถนัด เพื่อให้แฟนมวยได้รับชมไฟต์อันน่าประทับใจอีกครั้ง

ด้าน เสือแบล็ค เพิ่งเรียกความมั่นใจกลับคืนมา จากการประเดิมชกคิกบ็อกซิ่ง เอาชนะคะแนนเอกฉันท์ แสงอาทิตย์ ลูกทรายกองดิน ในศึก ONE ลุมพินี 114 โอกาสนี้เจ้าตัวพร้อมหวนบู๊มวยไทย หวังลุยเก็บชัยในรุ่นนี้ต่อเนื่องเป็นไฟต์ที่ 2 ให้ได้

เสกสรร ยอมรับว่าการเจอกับ เสือแบล็ค ในตอนนี้เป็นงานหิน เพราะอีกฝ่ายกำลังกลับมามั่นใจ แถมสภาพร่างกายสดเต็มที่ แต่พร้อมลุยแบบไม่มีเกียร์ถอย รับประกันไฟต์นี้ออกมาเดือดแน่นอน

“เสือแบล็ค เป็นมวยที่เตะขาต่อยหมัดได้ดี จุดแข็งคืออาวุธหนักและน่ากลัว ไฟต์ล่าสุดเขาทำได้เยี่ยม ทั้งสภาพร่างกาย ความมุ่งมั่น และกำลังใจ ทำให้กลับมาเก็บชัยชนะได้อีกครั้ง”

“การเจอ เสือแบล็ค ไม่ใช่งานง่ายแน่นอน เพราะเขาต้องเตรียมตัวมาอย่างดี ทั้งในเรื่องการป้องกันตัวและออกอาวุธ ร่างกายก็แข็งแกร่ง แต่ผมพร้อมปะทะเต็มที่ ผมจะเน้นปล่อยอาวุธเข้าใส่ตรงช่วงใบหน้าเป็นพิเศษ ถ้าเข้าเป้าที่ปลายคางแบบเต็ม ๆ เขามีสิทธิ์หล่นทันทีครับ”

ไฟต์นี้นอกจากจะเป็นด่านวัดความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจของ เสกสรร แล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญที่เขาจะพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นผู้ชนะอีกครั้ง หลังจากพ่ายมา 2 ไฟต์ติดอีกด้วย ซึ่งเขาเชื่อว่าความอึด ถึก ทน ตามสไตล์ “คนไม่ยอมคน” จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะพาเข้าเส้นชัย

“ไฟต์นี้จะดุเดือดแค่ไหน หรือจะจบอย่างไรก็ยังบอกไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่ารูปเกมจะออกมาสูสี ผลแพ้ชนะพร้อมพลิกได้ทุกหน้า อาจชี้ขาดกันในเสี้ยววินาที ที่สำคัญคือใครถึกและอึดกว่ากัน คนนั้นจะเป็นฝ่ายชนะไป”

“หลังจากแพ้มา 2 ไฟต์ติด ถ้าผมกลับมาเก็บชัยชนะได้ จะเป็นแรงผลักดันสำคัญให้สู้ต่อไปด้วยความมั่นใจเต็มร้อย ผมพร้อมสู้กับ เสือแบล็ค ให้แฟน ๆ ได้ชมไฟต์ที่สนุกแน่นอน ทุกคนช่วยเป็นกำลังใจให้ผมด้วยครับ”