"คัมภีร์เทวดา" ขอปลดล็อกคว้าชัยแรกแจ้งเกิด

“คัมภีร์เทวดา” พิชิตสัญญา ONE มาครองจากการคว้าแชมป์ Road To ONE Thailand ซีซัน 3 รุ่นมวยไทยชาย 64 กก. และได้โอกาสโชว์ฝีมือครั้งแรกในศึก ONE ลุมพินี 109 เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งแม้จะประเดิมด้วยการพ่ายน็อก “อาเลสสิโอ มาลาเทสตา” ในยกที่ 2 แต่เพราะการแสดงความเป็นนักสู้ใจเกินร้อยด้วยการยืนรับหมัดของคู่ชกจากอิตาลีนานร่วมนาที จึงทำให้เขาได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามหลังจบเกมและทำให้มีกำลังใจกลับมาฮึดสู้ต่ออีกครั้ง

ไฟต์ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 117 เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา “คัมภีร์เทวดา” กลับมาพร้อมความมุ่งมั่นหวังเก็บชัยชนะแจ้งเกิดให้ได้ แต่สุดท้ายต้องเผชิญความผิดหวังอีกครั้งหลังถูก “เอลบรุส ออสมานอฟ” จากรัสเซีย รัวอาวุธหนักใส่ไม่ยั้งจนพ่ายน็อกไปตั้งแต่ยกแรก ซึ่งความพ่ายแพ้ในครั้งนั้นได้สร้างความบอบช้ำทางจิตใจให้แก่ดาวรุ่งผู้เปี่ยมไปด้วยความฝันและความทะเยอทะยานรายนี้เป็นอย่างมาก

“ไฟต์ล่าสุดผมรู้สึกผิดหวังในตัวเองมาก เพราะไม่สามารถชกได้ตามแผนที่วางไว้ เดิมทีผมตั้งใจจะเป็นฝ่ายเดินเข้าหา ใช้ช่วงชกที่ยาวกว่าคุมระยะไม่ให้เขาเข้ามาทำได้ง่าย ๆ แต่พอขึ้นสังเวียนจริงกลับรู้สึกประหม่ากับบรรยากาศในสนาม จนลืมทุกอย่างที่ซ้อมมา ก่อนจะพลาดโดนหมัดเข้าที่ขมับจนเสียนับ แม้จะพยายามฝืนลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ก็ยังมึนอยู่มาก รับอาวุธไม่ไหว สุดท้ายต้องแพ้น็อกไปครับ”

“หลังจากนั้นผมตัดสินใจเลิกเล่นโซเชียลชั่วคราว เพราะรู้ดีว่าจะต้องเจอกระแสวิจารณ์มากมาย พอกลับถึงบ้านก็ไม่มีใจจะทำอะไรเลย ถึงขั้นซึมอยู่หลายวัน ได้แต่นั่งทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ผมคิดมากจนครอบครัวต้องเข้ามาปลอบและให้กำลังใจ บอกให้สู้ต่อไป เพราะอนาคตยังอีกยาวไกล และทุกคนยังเชื่อมั่นในตัวผมเสมอ คำพูดนั้นทำให้ผมมีแรงฮึดกลับมาฝึกซ้อมอีกครั้งครับ”

ภารกิจพิสูจน์ตัวเองของ “คัมภีร์เทวดา” ในครั้งนี้ยังคงต้องพบกับคู่ชกต่างชาติเช่นเดิม โดยจะต้องทำหน้าที่รับน้องโหด “ฮัมซา ราชิด” จอมบู๊จากโมร็อกโก เจ้าของสถิติสุดโหดชนะ 17 จากทั้งหมด 19 ไฟต์ในการชกระดับอาชีพ และฝากผลงานล่าสุดเอาไว้เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาด้วยการเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “ธนูเพชร ว.เทคโนหลวงปู่สรวง” ในรายการ Fairtex Fight มวยมันพันธุ์ EXTREME

หลังจากพ่ายแพ้ไปแบบไม่ทันได้โชว์ของดีใน 2 ไฟต์ที่ผ่านมา ครั้งนี้ “คัมภีร์เทวดา” ให้คำมั่นพร้อมเดินเปิดเกมเดือดตั้งแต่วินาทีแรกของการแข่งขัน เพื่อโชว์อาวุธเด็ดหลายลูกที่ซุ่มซ้อมมา โดยเฉพาะท่า Calf Kick (คาล์ฟคิก หมายถึงการเตะเจาะยางบริเวณน่อง) ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก “ยูกิ โยซะ” ยอดนักคิกบ็อกซิ่งซูเปอร์สตาร์ชาวญี่ปุ่น

“ฮัมซา มีความเร็วเป็นจุดเด่น ส่วนอาวุธของเขาส่วนใหญ่เป็นหมัดซึ่งผมมองว่าไม่น่ากังวลมากนัก ผมมั่นใจว่าอาวุธมวยไทยของผมครบเครื่องกว่า และครั้งนี้เป็นการชกนวมเล็กครั้งแรกของเขา จึงอาจมีปัญหาเพราะยังไม่คุ้นเคย ความรู้สึกและการป้องกันตัวต่างจากนวมใหญ่แน่นอน ผมจะใช้จุดได้เปรียบตรงนี้บุกเข้าโจมตีให้มากที่สุด”

“นอกเหนือจากแม่ไม้มวยไทยที่เตรียมมาครบแล้ว ผมยังซ้อมท่า calf kick เป็นพิเศษ โดยศึกษาจากจังหวะที่ ยูกิ ใช้จนเอาชนะ เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส มาได้ ผมเห็นว่าท่านี้มีประโยชน์ เพราะแม้ดูพื้น ๆ แต่ถ้าเตะเข้าจุดเดิมซ้ำ ๆ จะทำให้คู่ชกเคลื่อนไหวช้าลงได้ ผมซ้อมจนออกได้เป็นธรรมชาติแล้ว แต่ผลบนเวทียังต้องรอดูกันครับ”

ไฟต์นี้นักกีฬา ONE อย่าง “คัมภีร์เทวดา” รู้ดีว่าตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจแพ้ได้อีก โดยขอการันตีพร้อมสู้สุดใจไม่ว่ายังไงก็ต้องจัดหนักน้องใหม่ “ฮัมซา” ประเดิมแต้มชัยแรกให้ได้สถานเดียว เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าตัวเขาคู่ควรกับการยืนหยัดอยู่บนเวทีการแข่งขันระดับโลกแห่งนี้

“ผมมีประสบการณ์บนเวที ONE มาแล้ว 2 ไฟต์ ครั้งนี้มั่นใจว่าจะไม่เกิดอาการประหม่าซ้ำอีกแน่นอน เพราะได้บทเรียนสำคัญจากไฟต์ที่ผ่านมา ที่ตอนนั้นผมมัวแต่สนใจบรรยากาศในสนามมากเกินไปจนเสียสมาธิ ทำให้จังหวะการชกไม่เป็นไปตามที่ซ้อมไว้ แต่ครั้งนี้ผมจะโฟกัสอยู่ที่คู่ต่อสู้และเกมบนเวทีเท่านั้น”

“ไฟต์นี้ผมตกอยู่ในสถานการณ์หลังชนฝาแล้ว ต่อให้โดนอาวุธหนักแค่ไหนผมก็จะสู้ให้ถึงที่สุด จะต้องไม่มีคำว่าแพ้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด เพราะถ้าแพ้อีก เส้นทางในรายการนี้คงยากขึ้น ผมต้องคว้าชัยชนะแจ้งเกิดให้ได้ เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าผมคู่ควรกับการเป็นนักกีฬา ONE และคู่ควรที่จะยืนอยู่บนเวทีแห่งนี้ครับ”