แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมเปิดบ้านรับการมาเยือนของลิเวอร์พูล โดยเป็นการล้างตาจากเกมลีกในนัดแรก ที่พลพรรค "ปีศาจแดง" บุกไปพ่ายมาอย่างขาดลอย ด้วยสกอร์ 1-3
แน่นอนว่า นอกจากเป็นการเจอกันของสองคู่แค้นแล้ว เกมนี้ยังมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เมื่อส่งผลโดบตรงต่อการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ในปีนี้ของลิเวอร์พูล รวมถึงการแย่งพื้นที่ท็อปโฟร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ช่วงนี้ ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตปราการหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมาบอกถึงความสำคัญของเกมคู่นี้ รวมถึงมุมมองที่มีต่ออดีตต้นสังกัด และความเห็นต่อโอเล่ กุนนาร์ โซลชา อดีตเพื่อนร่วมทีมที่ผันตัวเองมาเป็นกุนซือใหญ่ของทีมในเวลานี้
คุณรอคอยเกมวันอาทิตย์มากน้อยขนาดไหน ?
"แดงเดือด คือเกมแรกที่ผมมักมองหาในโปรแกรมการแข่งขัน เมื่อโปรแกรมถูกประกาศออกมาในช่วงฤดูร้อน หรือก่อนที่ฤดูกาลจะเริ่มต้นขึ้น คุณมักพุ่งตรงไปหาการเจอกันของทั้งสองทีม ใครเล่นเกมเหย้า และใครเล่นเกมเยือน เมื่อคุณเห็นมันในปฏิทิน มันจะติดอยู่ในใจคุณ และไม่ออกไปไหนด้วย"
"กระทั่งผมมาที่ยูไนเต็ด ผมแทบไม่ต้องรู้ถึงความสำคัญของเกมนี้ ที่มีต่อทั้งสองสโมสรเลย ผมเห็นโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ที่สนามฝึกซ้อม และไม่ต้องบรรยายถึงรูปแบบของเกมนี้ คุณสามารถเตรียมแผนการเล่นในระหว่างสัปดาห์ ทว่าช่วงเช้าของวันแข่งขัน คุณแทบไม่ต้องบอกเลยว่า เกมนี้มีความหมายอย่างไร หรือคุณต้องทำอะไรบ้าง คุณจะมุ่งเข้าสู่เกมการแข่งขันเอง"
ย้อนกลับไป คุณยังเป็นผู้เล่น ทว่าคุณก็รู้ถึงความเป็นคู่ปรับในฐานะแฟนบอล พร้อมทั้งความหมายของเกมนี้ ?
"ใช่แล้ว ... เมืองลิเวอร์พูล อยู่ห่างออกไปไม่ไกล แค่วิ่งรถจากมอเตอร์เวย์จากเมืองแมนเชสเตอร์ ดังนั้น คุณจึงมีโอกาสเจอกับแฟนบอลลิเวอร์พูล เป็นประจำ เพื่อนของผมหลายคนก็เป็นแฟนบอลลิเวอร์พูล ดังนั้น คุณไม่ต้องการแพ้ในเกมแบบนี้หรอกนะ ในฐานะของการเป็นนักเตะ มันเป็นอะไรที่น่าภูมิใจมากๆ เกมจะส่งผลมากมายต่อคุณ ไม่ว่าคุณจะพบกับชัยชนะ หรือพ่ายแพ้ต่อคู่อริ ดังนั้น หลายสิ่งหลายอย่างที่ผสมรวมกันนี้ ทำให้เกมเป็นการแข่งขันในระดับสูง"
ไฮไลท์สำคัญของคุณ คือการยิงประตูใส่ลิเวอร์พูล ต่อหน้าแฟนบอลในอัฒจันทร์ฝั่งสเตรทฟอร์ด เอนด์ ?
"ใช่แล้ว การยิงประตูให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับการเจอกับลิเวอร์พูล โดยเฉพาะต่อหน้าแฟนบอลที่ฝั่งสเตรทฟอร์ด เอนด์ แถมยังเป็นประตูที่เหลือเชื่อแบบนั้นด้วย ถือเป็นอะไรที่สุดยอดสุดเท่าที่ผมเคยเจอ ... ผมล้อเล่นนะ มันน่าเหลือเชื่อมาก การยิงประตูใส่ลิเวอร์พูล พร้อมกับได้เห็นสีหน้าของบรรดาแฟนบอล ผมสามารถมองย้อนเวลากลับไป และจดจำมันได้ มันเป็นเรื่องดีที่มีมันอยู่ในความทรงจำ"
"เมื่อแฟนบอลลิเวอร์พูล ทำให้ผมเจ็บปวด ผมจะควักมันออกมา พร้อมกับพูดว่า -ข้าเคยทำมันได้- ดังนั้น มันจึงเป็นสิ่งที่สวยงาม มีผู้เล่นเพียงไม่กี่คนหรอก ที่จะมีประสบการณ์แบบนั้น เมื่อคุณสามารถยิงประตูได้ และพาทีมเก็บชัยชนะ ผมทำแบบนั้น 2-3 หน ลิเวอร์พูล ก็เป็นหนึ่งในนั้น มันยากที่จะบรรยายออกมา เพราะมันมีให้คนที่รู้ความหมายของมันจริงๆ"
ปกติแล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะลงสนามไป พร้อมกับการลุ้นตำแหน่งแชมป์ โดยที่มีลิเวอร์พูล เป็นตัวขัดขวาง แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ?
"ผมมองว่ามันเป็นแรงจูงใจนะ หากว่าตอนนี้ ผมกำลังลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมคงไม่อยากเห็นลิเวอร์พูล เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก สิ่งที่แล้วร้ายคือ มีแค่สองทีมที่มีโอกาสคว้าแชมป์ นั่นคือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูล ผมไม่อยากเห็นมันเกิดขึ้นจริงๆ ช่วงเวลาที่ผมเป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล ยังไม่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก"
"สิ่งที่พวกเราจะคุยกันในห้องแต่งตัวคือ -พวกเขาไม่สามารถคว้าแชมป์ลีก โดยเฉพาะที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พวกเขาไม่สามารถมาเยือนสนามแห่งนี้ พร้อมกับกลับออกไป พร้อมกับการเป็นแชมป์ลีกได้- นี่คือสิ่งที่ต้องกระตุ้นใส่ผู้เล่น ลองนึกภาพดูถึงการที่ลิเวอร์พูล เฉลิมฉลองแชมป์ลีก มันคงเป็นความฝันที่เลวร้ายจริงๆ"
คุณประทับใจในปราการหลังอย่างลินเดเลิฟ หรือไม่ ?
"ใช่เลย ผมคิดว่าเขาทำผลงานได้ดีมาก ในแง่ของการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผมคิดว่า เขาอยู่กับผู้จัดการทีมคนก่อนหน้านี้ ซึ่งมองว่าเขาไม่สามารถก้าวมาเป็นตัวหลักในตำแหน่งปราการหลังตัวกลางได้ เขาเปลี่ยนแปลงไป ผมคิดว่า เขาได้รับความช่วยเหลือจากโอเล่ ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมมาจากนอร์เวย์ และพูดภาษาที่ใกล้เคียงกันกับเขา (แถบสแกนดิเนเวีย)"
"เขาเข้าใจอะไรมากขึ้น และกำลังเดินมาถูกทางแล้ว คุณสามารถพูดได้ จากการดูความสามารถของเขา ผู้จัดการทีมระดับสูง คือคนที่ดึงศักยภาพของลูกทีมออกมาได้ แน่นอนว่า โอเล่ สามารถทำแบบนั้น และกำลังทำได้อย่างยอดเยี่ยม"
คุณอยู่กับโอเล่ ที่สนามซ้อม เขาทำได้ดีขนาดไหน ตามมุมมองของคุณเอง ?
"ฟังนะ ผมเดินไปรอบสนามซ้อม คำชมที่ผมสามารถมอบให้เขาได้คือ กลุ่มผู้เล่นมีความสุขมากขึ้น พร้อมได้รับผลที่ยอดเยี่ยม และทำได้ดีกว่าที่คาดหวังกันเอาไว้ นี่คือคนที่ทำงานในสโมสรฟุตบอลที่กลับมามีความสุขอีกครั้ง พวกเขาดูมีความสุขกับการทำงาน และเหมือนจะก้าวกระโดดไปข้างหน้า นี่คือสภาพแวดล้อมที่เขาสร้างมันขึ้นมาที่สโมสรแห่งนี้"
"ผมไม่คิดว่า ผู้คนจะคาดหวังสิ่งเหล่านี้จากตัวของโอเล่ เขาไม่ได้เป็นคนที่ส่งเสียงดังมากนัก แต่เขาคือคนที่ทำให้คนอื่นรับรู้ถึงความรู้สึกได้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาเป็นทีมเดิมอีกครั้ง นี่คือข้อพิสูจน์ถึงทีมงานของเขา ทั้งเขา, ไมค์ ฟีแลน และคนที่อยู่เบื้องหลัง ในการทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ผมเชื่อว่า เขาสร้างความยากลำบากขึ้นมา ในการตัดสินใจว่า ใครควรเป็นผู้จัดการทีมคนต่อไป"
