แต่ปีแล้วปีเล่าที่เจอกับความผิดหวัง ปีแล้วปีเล่าที่ต้องผ่านทั้งน้ำตาความเศร้าและความโศก ท้ายที่สุดสิ่งที่ เปแอสเช วาดฝันยังไม่สำเร็จอย่างตั้งใจสักที

มีเพียงฤดูกาล 2019–20 ที่ไปได้ไกลที่สุดถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่วิมานต้องพังทลายเพราะอดีตลูกหม้อเก่าที่ชื่อ กิงส์เล่ย์ โกมัน ที่ช่วยให้ บาเยิร์น มิวนิค บดชนะ 1-0

สำหรับ เปแอสเช คงไม่ต่างจากกองทัพที่ผ่านสมรภูมิสู้รบมากมาย เจอคู่แข่งเล่นงานจนสะบักสะบอม บาดเจ็บปางตายจนต้องพึ่งมีดหมอหลายรอบ ลุกแล้วล้มล้มแล้วลุกเช่นนั้นมานานหลายปี ถูกถากถางก่นด่าทับถมสารพัดจากบรรดากองแช่ง แต่พวกเขายังคงยึดมั่นกับเส้นทางที่วาดหวังไว้

ทุกๆ ปีคือโอกาสแห่งการเริ่มต้นในเส้นทาง แชมเปี้ยนส์ ลีก ทุกๆ ปีคือหนทางที่จะเดินหน้าไปยังฝั่งฝันอันตั้งใจ ไม่ต่างจากซีซั่นนี้ที่พวกเขามาพร้อมกับความหวังครั้งใหม่

แต่ทุกอย่างไม่ได้ง่ายดายอย่างที่ คริสโตฟ กัลติเย่ร์ กล่าวไว้นั่นแหละว่านอกจาก เปแอสเช ต้องต่อสู้กับตนเองแล้ว ขวากหนามต่างๆ มากมายยังคงรอพวกเขาในเส้นทางหลังจากนี้

ทีมมหาอำนาจทั่วยุโรปที่ต้องห้ำหั่นหรือบรรดา 'แจ็ค' ที่กำลังพอบั่นคอยักษ์ใหญ่คือสิ่งที่ เปแอสเช ต้องผ่านไปได้ให้ได้ ขึ้นชื่อว่าเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก หากประมาทหรือผ่อนคันเร่งเมื่อไหร่มีโอกาสที่จะโดนทิ้งและหลุดโค้งได้เมื่อนั้น

สิ่งเหล่านี้ถูกย้ำเตือนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ เปแอสเช ที่เจอความเจ็บปวดมาสารพัด หลายคนอาจจะมองว่ามันทำให้ยอดทีมจากฝรั่งเศสแข็งแกร่งขึ้น แต่อีกมุมหนึ่งมันคือสะเก็ดแผลที่พร้อมปะทุหรือสร้างความเจ็บปวดให้พวกเขาอีกครั้ง

สภาพจิตใจคือสิ่งที่เป็นปัญหาหนักของ เปแอสเช บางครั้งพวกเขาไล่ขย่มคู่แข่งไม่ให้ลืมหูลืมตา แต่หลังจากนั้นกลับต้องเจอบททดสอบอันโหดร้ายที่ทำให้พวกเขาประสบพบกับความผิดหวัง

หลายครั้งที่ เปแอสเช ต้องตกรอบน็อกเอาต์ทั้งที่รูปเกมเหนือกว่า บ่อยครั้งที่นัดแรกเมื่อเล่นในรังทำได้ดีทั้งผลงานและผลการแข่งขัน แต่เกมที่สองกลับตกม้าตายแบบไม่มีเหตุ

เรื่องที่ว่าเพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ในเกมดวล เรอัล มาดริด เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา หรือย้อนไปไกลกว่านั้นสักหน่อยคือเกมพบ บาร์เซโลน่า ซึ่งยังคงอยู่ในความทรงจำใครหลายๆ คน

นั่นคืองานของ กัลติเย่ร์ ที่ต้องปลุกเร้าและคอยกระตุ้นลูกทีมโดยเฉพาะเรื่องของหัวจิตหัวใจที่บางครั้งต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะและสร้างขึ้นมา 

ไม่มีใครสงสัยหรือกังขาในแง่ของนักเตะและคุณภาพในทีมเปแอสเช แต่ปัญหาสำคัญคือการรักษาระยะและต้านทานแรงกดดันเมื่อโดนโถมเข้าใส่ โดยเฉพาะเกมสำคัญๆ ที่พวกเขามักจะผ่านไปไม่ได้

มันเกือบจะเกิดขึ้นอีกครั้งในเกมพบกับ ยูเวนตุส เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ด้วยรูปเกมที่เป็นต่อออกนำ 2-0 ใครหลายคนคิดว่า 3 คะแนนคงอยู่ไม่ไกล ... แต่ 45 นาทีหลังกลับกลายมาเป็นหนังคนละม้วนที่ ไอ้ม้าลาย ไล่ขย่มเอาคืนและเกือบทำสำเร็จ

หากจะมองว่าเป็นปัญหาที่ยังคงกัดกิน เปแอสเช ก็คงไม่ใช่เรื่องกล่าวเกินจริง แต่สำหรับ กัลติเย่ร์ เลือกที่จะมองบวกเพราะเขารู้สึกว่าได้เห็นลูกทีมใส่ความพยายามลงไปมากกว่าที่ผ่นมา โดยเฉพาะการยืนหยัดและรักษาผลการแข่งขันให้เป็นไปตามที่ต้องการ

แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา แต่ทาง กัลติเย่ร์ เชื่อว่าชัยชนะนัดที่ผ่านมาจะทำให้นักเตะ เปแอสเช ได้เรียนรู้และเติบโตขึ้นไม่มากก็น้อย

มองในมุมเทรนเนอร์ใหญ่แห่ง ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เขาพยายามที่จะบอกว่าหากเป็นเมื่อก่อนดีไม่ดี เปแอสเช อาจจะไม่ได้ 3 คะแนนประเดิมรอบแบ่งกลุ่มก็เป็นไปได้ ผิดจากนัดล่าสุดที่ทุกคนดูมุ่งมั่นตั้งใจอย่างมาก โดยเฉพาะแนวรับที่ทำงานกันได้ดีหลังจากโดนตีไข่แตกในต้นครึ่งหลัง

ความพยายามคือสิ่งจำเป็นและเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากในเวที 'ยูซีแอล' ใช่ว่าคุณจะมีแค่นักเตะที่ดีเท่านั้นเพราะมันไม่ได้การันตีชัยชนะเสมอไป สิ่งที่ต้องควบคู่ไปด้วยคือความมุ่งมั่นตั้งใจตลอด 90 นาที

สัญญาณที่ดีได้ถูกส่งออกมา แต่เรื่องที่สำคัญไปกว่านั้นคือการพัฒนาให้ทีมเติบโตไปอย่างที่ต้องการ 

ไม่มีใครรู้ว่าท้ายที่สุด เปแอสเช จะไปถึงฝั่งฝันได้หรือไม่ แต่สำหรับพวกเขามันคือโอกาสครั้งใหม่ที่พร้อมจะทำให้สำเร็จ