:::     :::

ด่านต่อไปก่อนพักเบรก

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน 2565 คอลัมน์ ฟุตบอลข้างถนน โดย โกสุ่ย
647
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลังจากสะดุดเจ๊า โมนาโก เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ เปแอสเช กลับมาคว้าชัย 5 เกมรวดจากทุกรายการ

ถือเป็นผลงานที่เป็นไปตามคาดและดำเนินไปตามความต้องการของสโมสร นักเตะ และแฟนบอล เพราะฤดูกาลนี้ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง เสริมทีมดุดันและกลายมาเป็นเต็ง 1 ในลีกแบบไม่มีคู่แข่ง (อีกครั้ง)

การเสริมทัพดังกล่าวใช่เพียงยกระดับใน ลีก เอิง แต่เป้าหมายสำคัญคือเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พวกเขาถวิลหา และจากผลงานสองนัดแรกได้เป็นไปตามเป้าหมายด้วยการคว้า 6 คะแนนเต็ม

ว่าไปแล้ว ผลงานของ เปแอสเช ที่ดูเหมือนสานต่อความยอดเยี่ยมเมื่อพิจารณาจากสกอร์ที่ออกมา แต่หากวิเคราะห์หรือติดตามการลงสนามในช่วงหลังจะพบว่ายอดทีมจากเมืองหลวงฝรั่งเศสต้องผ่านบททดสอบแทบทุกนัด ทั้งจากคู่แข่งแต่การต่อสู้กับแรงกดดันที่โถมมายังนักตะ

นั่นคือกำแพงหรือขวากหนามที่ คริสโตฟ กัลติเย่ร์ ทราบดีว่าต้องพบเจอตลอดการเดินทางในซีซั่นนี้ แม้ตามหน้าเสื่อจะมีนักเตะที่เหนือคู่แข่ง แต่เมื่อลงสนามจะมีปัจจัยต่างๆ ที่กำหนดทิศทางหรือเปลี่ยนเกมแบบไม่คาดคิดรออยู่

โจทย์สำคัญในช่วงที่ผ่านมาคือการลงสนามทุกๆ 3-4 วันของ เปแอสเช แน่นอนว่าด้วยขนาดทีมที่ใหญ่ทำให้ กัลติเย่ร์ มีทางเลือกหลายด้าน ซึ่งอยู่ที่ว่าจะปรับมากน้อยแค่ไหนในแต่ละเกม

ส่วนใหญ่เทรนเนอร์จาก ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เลือกจะปรับทัพไม่มากนัก เหตุผลส่วนหนึ่งเป็นเพราะ กัลติเย่ร์ มองว่าไม่อยากเปลี่ยนสมดุลแบบกะทันกันโดยเฉพาะแดนกลางที่เห็น วิตินญ่า จับคู่กับ มาร์โก แวร์รัตติ อย่างต่อเนื่อง





แม้แต่แนวรุก 3 เทพอย่าง ลีโอเนล เมสซี่, เนย์มาร์ และ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่ลงเล่นด้วยกันหากไม่มีปัญหาบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเหมือนในช่วงต้นฤดูกาล หรือกรณีการพักหัวหอกบราซิล (มีเกิดอาการในช่วงซ้อม) เป็นสำรองในเกมดวล น็องต์ นอกเหนือไปจากนั้น กัลติเย่ร์ ระบุไม่มีความจำเป็นต้องปรับตำแหน่งหรือพักนักเตะเลย

เข้าใจเหตุผลของเทรนเนอร์วัย 56 ปีเป็นอย่างดี และหากใครอ่านบทสัมภาษณ์หลังจบเกมที่บดชนะ แบรสต์ 1-0 ในเกมลีก เอิง เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็น่าจะเข้าใจได้มากขึ้นว่าทำ MNM ต้องลงพร้อมกันในแนวรุกโดยที่กุนซือใหญ่ไม่พักใครคนใดคนหนึ่งก่อนเกมสำคัญ

"มีเหตุผลที่ผมส่งแนวรุกทั้งสาม (เมสซี่, เนย์มาร์ และ เอ็มบั๊ปเป้) ลงไปตั้งแต่นาทีแรกเพราะต้องการสร้างความอันตรายและมั่นใจว่าพวกเราจะมีประตูก่อนหมดครึ่งแรก และจัดการได้ดีหลังจากนั้น"

การมี เมสซี่, เนย์มาร์ และ เอ็มบั๊ปเป้ ในสนามตั้งแต่ต้นย่อมข่มกองหลังฝ่ายตรงข้ามได้ดีเสมอ และเป็นเหมือนการส่งสัญญาณไปยังคู่แข่งว่าให้เตรียมตัวเจอกับความหายนะได้เลยหากเปิดช่องหรือพลาดขึ้นมา

จะว่าไปสิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องคิดมากให้ปวดหัว ในเมื่อนักเตะมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ก็ควรจะส่งตั้งแต่ต้นเกม หลังจากนั้นจะปรับเปลี่ยนอะไรระหหว่างเกมก็แล้วแต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้น

สำหรับ เปแอสเช ที่ยังไม่แพ้ใครตั้งแต่เปิดฤดูกาลมีเพียงสะดุดเสมอ โมนาโก ไปนัดเดียว จะมีเกมสำคัญในสุดสัปดาห์นี้ก่อนถึงช่วงพักทีมชาติ นั่นคือการออกไปเยือน โอลิมปิก ลียง 





แม้ผลงาน โอแอล ช่วงสองนัดหลังสุดต้องพบเจอกับคำว่า 'พ่ายแพ้' แต่หากพิจารณาฟอร์มใน กรูปาม่า สเตเดียม ต้องบอกว่าคงเป็นงานหนักของ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง เพราะลูกทีม ปีเตอร์ บอสซ์ คว้าชัยทั้ง 4 นัด

ยิ่งการรับมือ เปแอสเช จะเป็นตัวกระตุ้น ลียง ได้อย่างดี ทั้งบรรดานักเตะที่อยากแสดงผลงานและเรียกศัรทธาจากแฟนบอล รวมไปถึงสาวก โอแอล ที่พร้อมหนุนหลังทีมในการรับมืออริจากเมืองหลวง

มันคือบททดสอบของทั้ง ลียง และ เปแอสเช ฝ่ายแรกต้องการกลับมาอยู่บนเส้นทางแห่งชัยชนะอีกครั้ง ที่สำคัญหากพวกเขาทำสำเร็จมันจะส่งผลเพิ่มเป็นทวีคูณแน่นอน ฝ่ายหลังแน่นอนว่ามองไปที่ 3 คะแนน นั่นคือทางเลือกและโจทย์แรกที่ กัลติเย่ร์ มอบให้นักเตะ ที่สำคัญกับเป้าหมายรักษาสถิติไม่แพ้ในซีซั่นนี้ยิ่งทำให้ทีมเยือนมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ซึ่งทำให้เกมวันอาทิตย์ที่กำลังจะถึงนี้กลายเป็นบททดสอบที่พวกเขาต้องผ่านไปให้ได้

วัดกันตรงนักเตะคงไม่ต้องพูดมากความว่าสโมสรจากเมืองหลวงดีกว่าเยอะ แต่ปัจจัยในเกมดาร์บี้แมตช์เช่นนี้มีอะไรมากกว่านั้น ทั้งความพร้อมด้านจิตใจ ทัศนคติ และที่สำคัญคือความมุ่งมั่นเมื่อลงสนาม หรืออาจจะรวมไปถึงอุบัติเหตุและเหตุการณ์ไม่คาดคิดในสนามที่จะกลายมาเป็นตัวเปลี่ยนเกม

เมื่อนำปัจจัยหลายอย่างประกอบเข้าด้วยกัน จึงไม่แปลกที่เกมนี้จะได้รับความสนใจจากแฟนบอลแดนน้ำหอม แม้ทาง เปแอสเช จะเหนือกว่าหลายช่วงตัวแต่หากประมาทขึ้นมาอาจจะน้ำตาตกได้

ทุกอย่างจะถูกตัดสินในสนาม ซึ่งคำถามหลักคือ เปแอสเช จะสามารถผ่านด่านสำคัญพร้อมเก็บ 3 คะแนนก่อนเข้าสู่ช่วงพักโปรแกรมทีมชาติได้หรือไม่ หรือทาง โอลิมปิก ลียง จะเป็นคนสร้างบาดแผลให้สโมสรจากเมืองหลวงได้เป็นทีมแรกในซีซั่นนี้

แค่คิดก็อดใจรอไม่หวแล้ว 




ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด