'บรรเทา'หรือ'ตอกย้ำ'ซีซั่นสุดบัดซบ

วันพุธที่ 14 พฤษภาคม 2568 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
335
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
โทรฟี่ ยูโรปา ลีก จะช่วยเซฟซีซั่นอันบัดซบของทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่สถานการณ์ในพรีเมียร์ลีกห่วยแตกเหมือนกันเปี้ยบ

ผู้ชนะที่ได้ชูถ้วย ยูโรปา ลีก ที่ บิลเบา จะสามารถกอบกู้วิกฤติและพอจะลบล้างผลงานที่ย่ำแย่ตลอดทั้งฤดูกาล 2024-25 ได้บ้าง

แต่สำหรับผู้แพ้ จะยิ่งทวีความบัดซบ และเป็นการซ้ำเติมซีซั่นที่แย่ที่สุดในพรีเมียร์ลีกอย่างไม่ต้องสงสัย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ต่างอยู่ในสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกัน หลังจากแพ้คาบ้านในเกมพรีเมียร์ลีกด้วยสกอร์ 0-2 เหมือนกันในเกมที่ 36 ของฤดูกาล
ชัยชนะของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถีบให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หล่นไปอยู่อันดับ 16 และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็รูดลงไปอันดับ 17
นับตั้งแต่ลีกสูงสุดของอังกฤษเปลี่ยนเป็นพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ฤดูกาล 1992-93 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่เคยจบต่ำกว่าอันดับ 3
แต่หลังจาก เฟอร์กี้ วางมือพร้อมแชมป์พรีเมียร์ลีกหนสุดท้ายในฤดูกาล 2012-13 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ไม่เคยเหมือนเดิมอีกต่อไป
ปีที่ตกต่ำที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือการจบอันดับ 8 ฤดูกาลที่แล้ว 2023-24 ด้วยฝีมือของ เอริค เทน ฮาก และคงไม่มีใครคิดว่าจะมีผลงานที่แย่กว่านี้อีกแล้ว
แต่ซีซั่นนี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในแง่ของระบบและแท็กติกการเล่นอย่างแท้จริง การปรับตัวเป็นไปอย่างยากลำบาก ส่งผลชัดเจนต่อผลการแข่งขัน
จากสองเกมสุดท้ายที่จะพบกับ เชลซี (เยือน) และ แอสตัน วิลล่า (เหย้า) ต่อให้ชนะรวดทั้งสองเกม ก็ไม่มีทางจบอันดับสูงเกินกว่าที่ 13 
และเมื่อพิจารณาจากโปรแกรมสุดหิน มีโอกาสเห็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หล่นไปจบอันดับ 17 ด้วยซ้ำ
โทรฟี่ ยูโรปา ลีก จึงเป็นความหวังสูงสุดของ รูเบน อาโมริม อย่างไม่ต้องสงสัย เหมือนอย่างที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เคยทำได้ในฤดูกาลแรกที่มาถึงโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
สถานการณ์ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็ไม่ต่างกัน จากก่อนเริ่มต้นซีซั่น เป้าหมายอยู่ที่การลุ้นพื้นที่ แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่จากปัจจุบัน ทำได้เพียงหลีกเลี่ยงการจบอันดับ 17 พื้นที่สุดท้ายที่รอดตกชั้น
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ต้องการสัมผัสโทรฟี่ครั้งแรกในรอบ 17 ปี หรือนับตั้งแต่คว้าแชมป์ลีกคัพ (คาราบาวคัพ ปัจจุบัน) ในฤดูกาล 2007-08 
ขณะเดียวกัน ท็อตแน่ม ห่างหายจากการคว้าแชมป์ฟุตบอลยุโรปมานานถึง 41 ปีแล้ว นับตั้งแต่ที่คว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ (ยูโรปา ลีก ปัจจุบัน) ในฤดูกาล 1983-84
ในฤดูกาล 2024-25 ที่ผลงานย่ำแย่ไม่ต่างกัน แต่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สามารถตอกย้ำชัยชนะเหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ทั้งสามเกมที่พบกัน
ท็อตแน่ม บุกชนะ 3-0 ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และกลับไปเปิดบ้านชนะ 1-0 ส่วนอีกเกมในคาราบาวคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ชนะที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม 4-3
อย่างไรก็ตาม ตามรายงานข่าวที่ปรากฏมาตลอดสัปดาห์ สถานะของเฮดโค้ชทั้งสองคนดูเหมือนจะแตกต่างกัน
รูเบน อาโมริม ขาเก้าอี้ยังคงแข็งแรง ต่อให้พลาดแชมป์ยูโรปา ลีก เพราะถือว่าเป็นการเข้ามารับช่วงต่อในช่วงกลางซีซั่น ไม่ได้สร้างทีมเป็นของตัวเองตั้งแต่เริ่มต้น
ขณะที่ แอนจ์ พอสเตโคกลู ดูเหมือนจะเป็นซีซั่นสุดท้ายกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ต่อให้คว้าแชมป์ยุโรปใบกลาง ที่มีตั๋ว แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นโบนัสด้วยก็ตาม
เกมที่ บิลเบา วันที่ 21 พฤษภาคม จะเป็น 'ออล-อิงลิช ไฟนอล' หรือรอบชิงชนะเลิศของสองสโมสรอังกฤษ เป็นครั้งที่ 6 ในฟุตบอลยุโรป
และเป็นการยืนยันโควต้า แชมเปี้ยนส์ ลีก 6 ที่นั่งในฤดูกาล 2025-26 แน่นอนแล้ว

คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด