"ผมยังไม่รู้ว่าจะใช้งานเขาอย่างไร?" ประโยคแรกที่ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ตอบคำถามนักข่าวเรื่องกองหน้าคนใหม่ คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู
ในที่สุดการย้ายทีมของ เอ็นกุนกู ก็เกิดขึ้นทันเส้นตายตลาดซื้อขายซัมเมอร์ เป็นไปตามคาดการณ์ แต่ที่น่าแปลกใจเล็กน้อยก็คือ เอซี มิลาน โผล่มาเป็นข่าวได้แป๊ปเดียว แล้วก็เซ็นสัญญากันเลย
มิลาน ต้องการกองหน้าเข้ามาเพิ่ม หลังจากปล่อยบรรดาส่วนเกินออกไปแล้ว ทั้ง ลูก้า โยวิช (หมดสัญญา), แทมมี่ อาบราฮัม (หมดสัญญายืมตัว), ชูเอา เฟลิกซ์ (หมดสัญญายืมตัว), โนอาห์ โอกาฟอร์ (ขาย)
ที่น่าแปลกคือเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ตลาดซื้อขายซัมเมอร์จะปิดทำการ มิลาน ยังไม่ได้กองหน้าคนใหม่ ท่ามกลางความกดดันของเทรนเนอร์ อัลเลกรี ที่พุ่งปรี๊ด หลังจากเปิดซีซั่นด้วยการแพ้คาบ้านต่อ เครโมเนเซ่ 1-2
จนกระทั่งประสบความสำเร็จกับ เอ็นกุนกู ในที่สุด
การย้ายทีมของ เอ็นกุนกู เป็นการซื้อขาดทันที ทำให้ มิลาน สามารถบรรลุข้อตกลงกับ เชลซี ได้รวดเร็วขึ้น ค่าตัวจบที่ 37 ล้านยูโร บวกส่วนเสริมอีก 5 ล้านยูโร
ตามข้อมูลของ สกาย อิตาเลีย มิลาน อาจจบค่าตัวของ เอ็นกุนกู แค่ก้อนหลัก 37 ล้านยูโร เพราะส่วนเสริมอีก 5 ล้านยูโรเป็นเงื่อนไขที่เกิดขึ้นได้ยาก
ขณะเดียวกัน เชลซี จะได้รับส่วนแบ่งการย้ายทีมครั้งต่อไปของ เอ็นกุนกู ที่จำนวน 10 เปอร์เซนต์ด้วย
ทันทีที่บรรลุข้อตกลงกันได้ เอ็นกุนกู ก็ได้รับอนุญาติให้ออกเดินทางไปประเทศอิตาลีตั้งแต่ค่ำวันพฤหัสบดี และเข้ารับการตรวจร่างกายที่คลีกลา มาดอนนิน่า ในช่วงเช้าวันศุกร์
หลังจากนั้นการเซ็นสัญญาระยะเวลา 5 ปี ก็เกิดขึ้นในช่วงเย็นวันศุกร์ที่สำนักงานใหญ่ของกาซา มิลาน ผูกมัดการเล่นในถิ่นซาน ซีโร่ ไปจนถึงปี 2030
อย่างไรก็ตาม มิลาน ตัดสินใจยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ เพราะติดเกมเซเรียอาเยือน เลชเช่ ในคืนวันศุกร์
ภายหลังจบเกมที่ เวีย เดล มาเร่ หนึ่งในประเด็นที่ อัลเลกรี ถูกตั้งคำถามคือการเซ็นสัญญากับ เอ็นกุนกู ที่นักข่าวรู้แล้ว แม้ยังไม่มีการประกาศทางการ
"ผมยังไม่รู้เลยว่าจะใช้งาน เอ็นกุนกู อย่างไร แต่แน่นอนว่าเขาเป็นผู้เล่นที่มีคุณภาพสูง เรามีผู้เล่นในแนวรุกที่มีคุณภาพ สิ่งสำคัญคือการหาสมดุลในทีมให้เจอ" อัลเลกรี กล่าว
จากเกมแรกของฤดูกาล 2025-26 ที่แพ้คารัง ซาน ซีโร่ ต่อ เครโมเนเซ่ 1-2 อัลเลกรี วางระบบการเล่น 3-5-2 มีสองกองหน้า คริสเตียน พูลิซิช กับ ซานติอาโก้ คีเมเนซ
และในเกมสองที่บุกชนะ เลชเช่ 2-0 อัลเลกรี ยังยึดระบบเดิม 3-5-2 ที่เล่นไปเล่นมาแทบจะกลายเป็น 3-6-1 เพราะ อเล็กซิส ซาเลมาเกอร์ส ถอยร่นไปเป็นกองกลางฝั่งซ้ายอีกคน ทิ้งศูนย์หน้าตัวเป้า คีเมเนซ เอาไว้คนเดียว
"แทนที่จะใช้ผู้เล่นแดนหน้าสองคน ผมเลือกที่จะเพิ่มผู้เล่นในแดนกลางเติมเข้าไปอีกคน ด้วยแนวทางนี้ เราจะมีสมดุลมากขึ้น และเหนือสิ่งอื่นใดคือครอบคลุมพื้นที่สนามได้ดีกว่า"
"เราต้องพยายามหาความมั่นใจ และเราจะทำได้ก็ต่อเมื่อเก็บคลีนชีต (ไม่เสียประตู) ได้ต่อเนื่องเท่านั้น"
เมื่อพิจารณาจากการวางแท็กติกของ อัลเลกรี แล้ว การมาของ เอ็นกุนกู น่าจะเป็นการแย่งตำแหน่งกับ คีเมเนซ มากกว่า แม้กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสมีสไตล์เป็นตัวต่ำแบบเดียวกับ คริสเตียน พูลิซิช ก็ตาม
จากการให้สัมภาษณ์ของ อัลเลกรี แสดงให้เห็นว่าเขาไม่น่าจะมีส่วนร่วมมากนัก ในเรื่องการเสริมทัพที่เป็นหน้าที่ของผู้อำนวยการกีฬา อิ๊กลี่ ทาเร่ และบุคคลอื่นในฝ่ายบริหาร
และไม่แน่ว่า คีเมเนซ จะอยู่กับทีมต่อไปหลังจากตลาดปิดทำการไปแล้วหรือเปล่า หรือจะมีกองหน้าเข้ามาแทน
แต่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นอย่างไรก็ตาม การย้ายเข้า-ย้ายออกทุกครั้งจะสมหวังหรือผิดหวัง ไม่มีใครล่วงรู้อนาคตได้
ดูอย่าง พูลิซิช ที่ไม่มีใครคาดหวังมากนักตอนย้ายมาจาก เชลซี แต่ตอนนี้กลายเป็นตัวรุกที่ รอสโซเนรี่ ขาดไม่ได้ไปแล้ว
