เมื่อเวลาเดินไม่เท่ากัน

หลายคนมองว่าไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมายเพราะคู่แข่งคือ อาร์เซน่อล ทีมที่ตอนนี้มีศักยภาพและแนวทางชัดเจนกว่า นอกจากนั้นทีเด็ดทีขาดในการเข้าทำยังอันตราย โดยเฉพาะลูกตั้งเตะซึ่งเล่นงาน ปิศาจแดง เสียอยู่หมัด

สองประตูที่เสียไปในนัดดังกล่าวมาจากจังหวะนั้น แม้ขุนพล แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามจัดการหรือป้องกันอย่างเต็มกำลัง แต่จนแล้วจนแล้วก็ต้านทานไม่ไหว

ถือเป็นจังหวะตัดสินเกมก็ว่าได้ เพราะเอาเข้าจริง อาร์เซน่อล ไม่สามารถเล่นงาน ผีแดง ในจังหวะ 'โอเพนเพลย์' ได้มากเท่าไหร่ จึงไม่แปลกที่ อาโมริม จะอดเสียดายนิด ๆ กับการปราชัยนัดล่าสุด 

มุมมองของ อาโมริม เชื่อว่า ปืนใหญ่ ไม่ได้ทำผลงานที่ดีกว่าถึงขนาดที่ลูกทีมตนเองต้านไม่ไหวหรือโดนกดดันจนโงหัวไม่ขึ้น แต่จุดกำหนดผู้ชนะในเกมล่าสุดคือการเล่นลูกตั้งเตะของฝ่ายตรงข้าม

อาโมริม ทราบในเรื่องนี้ดี แต่ด้วยระยะเวลาเตรียมตัวอันน้อยนิดบวกกับโปรแกรมลงสนามแบบต่อเนื่อง ทำให้ตลอดช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาตั้งแต่ย่ำเท้าลงบนแผ่นดินอังกฤษ กุนซือชาวโปรตุเกสแทบไม่มีเวลาลงรายละเอียดแบบลึกซึ้งอย่างที่ต้องการ หรือพูดง่าย ๆ คือตอนนี้แค่จัดสรรเวลาให้พร้อมลงเล่นในแต่ละเกมยังสายตัวแทบขาด

ลงซ้อม - ลงแข่ง - พักผ่อน นั่นคือวัฏจักรของฟุตบอลอังกฤษในช่วงเดือนธันวาคมต่อไปจนถึงต้นเดือนมกราคม ยิ่งสโมสรที่ลงเล่นในเวทียุโรปยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะพวกเขาแทบไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องอื่น ๆ เลย

ทำให้ อาโมริม ต้องตัดสินใจเปลี่ยนทีมทุกนัด แม้ส่วนหนึ่งอาจมาจากความต้องการสลับหมุนเวียนเพื่อทดสอบนักเตะทุกคนและดูว่าใครเข้าท่าหรือใช้งานได้มากที่สุด แต่เหตุผลสำคัญสำหรับนายใหญ่ปิศาจแดงมีมากกว่านั้น

"ในตอนนี้ เป็นไปได้ไม่ได้เลยที่จะลงเล่นด้วยทีมเดิม พวกเขาต้องรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของทีม แต่พวกเรากำลังเปลี่ยนแปลงหลักการ กำลังเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่าง เปลี่ยนแปลงแนวทางการเล่น วิธีการเพรสซิ่ง ดังนั้นเราต้องให้นักเตะทุก ๆ คนฟิตสมบูรณ์

"ตอนนี้เราไม่สามารถปล่อยให้นักเตะมีอาการบาดเจ็บรบกวน เพราะมันจะกลายเป็นเรื่องที่รับมือได้ยากกับการลงเล่นทุก ๆ เกมหลังจากนี้ ดังนั้นพวกเรา (ทีมงานผู้ฝึกสอน) จะจัดการในทิศทางที่รู้สึกว่าเป็นแนวทางที่ดีสำหรับทีม"

มุมมองของ อาโมริม แตกต่างไปจากแฟนบอลส่วนใหญ่ สิ่งที่กุนซือวัย 39 ปีให้ความสำคัญมากที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงแนวคิดของผู้เล่นให้ดำเนินไปในทิศทางที่ตนเองต้องการ ไม่ใช่การเข้ามาพลิกฟื้นทีมในชั่วข้ามคืน

สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดเจนคือระบบการเล่น 3-4-3 ซึ่งแตกต่างออกไปจากเดิม รวมถึงการเพรสซิ่งหรือการขึ้นเกม ทุกอย่างได้ดำเนินไปตามรูปแบบและแนวทางที่ อาโมริม ต้องการ แต่อย่าลืมว่าสิ่งเหล่านี้มีเวลาในการปรับเปลี่ยนหรือดำเนินการ และไม่ใช่อาหารสำเร็จรูปที่จะราดน้ำร้อนหรือเอาเข้าเตาอบพร้อมทานได้ทันที

ณ ตอนนี้ สิ่งสำคัญคือต้องให้เวลากุนซือกับนักเตะปรับตัวเข้าหากัน หาจุดลงตัวที่ทั้งสองฝ่ายจะสามารถผลักดันทีมให้เดินหน้า ซึ่งพวกเขาพยายามอย่างเต็มที่ในช่วงระยะเพียง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

มีเพียงแฟนบองบางกลุ่มที่ยังคงใจร้อนอยากเห็นทีมเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฝ่ามือ จนลืมไปว่า อาโมริม เพิ่งเข้ามาทำงานไม่ถึง 1 เดือนเต็ม และเขาไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะเสกให้ ปิศาจแดง กลายเป็นยอดทีมเพียงชั่วข้ามคืน

อย่างที่กล่าวไปว่าทุกอย่างมีเวลาในการดำเนินงาน โดยเฉพาะขั้นตอนหลอมรวมปรัชญาและแนวคิดที่ต้องค่อยเป็นค่อยไป 

หากทุกอย่างดำเนินไปในทิศทางที่ควรเป็น นักเตะเปิดใจรับสิ่งใหม่และพร้อมผลักดันแนวคิดของเทรนเนอร์อย่างเต็มที่ เชื่อว่าอีกไม่นานแฟนบอล ปิศาจแดง จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ส่วนใครที่ชอบแบบสำเร็จรูปหรืออยากเห็นการเปลี่ยนแบบชั่วข้ามคืนอันนี้ก็คงไม่ว่ากัน แต่ขอเตือนไว้สักหน่อยว่านี่มันคือชีวิตจริงไม่ใช่เกม FM, PES หรือ FC ที่จะสามารถรีเซ็ตเกมได้ทุกครั้งหากคนเล่นไม่พอใจสิ่งที่เป็นอยู่