ฮาแลนด์ผู้กอบกู้นอร์เวย์

‘ไวกิ้ง’ อันที่จริงเกมปิดท้ายกลุ่ม ไอ เยือน อิตาลี ขอแค่ไม่แพ้ด้วยผลต่างถึง 9 ลูก ก็ยังการันตีแชมป์กรุ๊ป ตีตั๋วเช่นกัน 

ทว่าลูกทีมของ สตาเล่ โซลบัคเก้น ทำดีกว่านั้น 

แม้ตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อน 0-1 ที่ซาน ซิโร่ แต่ไม่มีอาการตื่นวิตก 

เพราะรัวทีเดียวสี่เม็ดครึ่งหลัง โดยไฮไลต์คือการเบิ้ลของ ฮาแลนด์ จนแซงคว้าชัยสุดยิ่งใหญ่ 4-1 จบแชมป์กลุ่มอย่างสมศักดิ์ศรี 

ถือเป็นการผ่านไปเล่น เวิลด์ คัพ รอบสุดท้ายอีกครั้งนับจาก ฟร้องซ์ 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส  

สองประตูที่ทำได้เกมพบกับ อิตาลี  หมายความว่าสถิติการทำประตูของ ฮาแลนด์ นามทีมชาติของเขานั้นสูงถึง 55 ประตูจาก 48 เกมในทุกรายการ

เฉพาะรอบคัดเลือก เวิลด์ คัพ 2026 โซนยุโรปจัดให้  16 ประตู, 2 แอสซิสต์ จากการลงเล่นเพียง 8 นัด 

ขณะที่นอร์เวย์จบแชมป์กลุ่มโดยไม่เสียแต้มแม้แต่แต้มเดียวและมีผลต่างประตูได้เสียถึง +32 

ความสำเร็จของชาจิจากสแกนดิเนเวียปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากหอก ‘เรือใบสีฟ้า’ เพราะปกติการจะผ่านไปเล่นฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ เมเจอร์สักครั้งก็เป็นเรื่องแสนพิเศษ 

อิทธิพลของสตาร์วัย 24 ปีมีมากจริงๆ แล้วตัวเลขไม่เคยโกหก

ยกตัวอย่างเมื่อเราพิจารณาสถิติการทำประตูของ นอร์เวย์ นับตั้งแต่ ฮาแลนด์ ประเดิมสนามพบกับมอลตา ในปี 2019

ผลงานทำประตูที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน 

แม้ว่าค่าเฉลี่ยประตู-ต่อ-เกมของทีมชาติในการแข่งขันอย่างเป็นทางการจะคงที่ในช่วงสามปีแรกของเขา 

ทั้งมีที่ลดลงในปี 2022 เหลือเพียง 1.17 ประตู-ต่อ-เกม 

แต่จากนั้นตัวเลขดังกล่าวก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีในอัตราที่น่าประทับใจ

จุดระเบิดในปี 2025 นอร์เวย์ มีค่าเฉลี่ยประตูต่อเกมที่น่าทึ่งถึง 4.63 ลูก-ต่อ-เกม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกองหน้าร่างยักษ์ของเขา 

หรือเอาแค่ค่าเฉลี่ยประตูต่อเกมในปีที่แล้วที่ 2.5 ประตู-ต่อ-เกมยังเป็นผลงานที่ดีที่สุดเป็นอันดับสองของทีมชาติในรอบ 15 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย

ตามบันทึกของเว็บไซต์ดัง นอร์เวย์ มีค่าเฉลี่ยประตู 1.88 ลูก-ต่อ-เกม นับตั้งแต่ เออร์ลิ่ง ประเดิมสนามให้กับทีมชาติ ซึ่งเพิ่มขึ้น 24% จากค่าเฉลี่ยประตูต่อเกมในช่วง 7 ปีก่อนหน้านั้น

ประตูที่ทำได้มาพร้อมการโกยแต้มรอบคัดเลือกเป็นกอบเป็นกำ 

สถิติการทำเฉลี่ย 3.0 คะแนน-ต่อ-เกมของนอร์เวย์ในปี 2025 นั้นสูงกว่าสถิติใดๆ ที่ ฮาแลนด์ เคยเล่นให้ทีมชาติมาก่อนหน้านี้อย่างมาก

เช่นเดียวกับสถิติการทำประตู 

ค่าเฉลี่ย 2.17 คะแนนต่อเกมในปี 2024 ก็ถือเป็นสถิติที่ดีที่สุดอันดับสามของทีมชาติในรอบ 15 ปีเช่นกัน 

ชื่อของสตาร์ ‘เรือใบสีฟ้า’ ยังขู่คู่แข่งได้ด้วย 

นับจาก ฮาแลนด์ เดบิวต์ ทีมชาติแพ้แค่  3 นัดในรอบคัดเลือก ชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป, 3 นัดใน เนชั่นส์ ลีก และ 1 นัดในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก จากทั้งหมด 38 นัดในการแข่งขันอย่างเป็นทางการ

นั่นทำให้คะแนนเฉลี่ย-ต่อ-เกมที่นอร์เวย์เคยทำไว้ เทียบกับ 7 ปียุค ฮาแลนด์ จึงเพิ่มขึ้นอย่างเหลือเชื่อ 68% 

จาก 1.30 คะแนน เป็น 2.19 คะแนน

มันอธิบายได้อย่างชัดเจนว่าทำไมทีมชาตินอร์เวย์ สามารถเรียกว่าทีม ฮาแลนด์ ได้เต็มปาก 

เวิลด์ คัพ ที่แผ่นดินอเมริกาเหนือจึงมันส์แน่นอน