ถึงเวลาอำลาบาร์ซ่า

หนึ่งในการบ้ายทีมที่น่าประหลาดใจสุดที่เกิดขึ้นกับ บาร์เซโลน่า ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาคือการจากไปของ อินญีโก้ มาร์ตีเนซ หลังเซนเตอร์วัย 34 ปีตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งกับ อัล-นาสเซอร์ ของซาอุดิอาระเบีย
เซนเตอร์ชาวบาสโก้กลายเป็นขุมกำลังสำคัญของ บาร์เซโลน่า ภายใต้การกุมบังเหียนของ ฮันซี่ ฟลิค ซึ่งคว้าแชมป์ทั้ง 3 รายการในประเทศเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และคาดว่าเขาจะมีบทบาทสำคัญในซีซั่นนี้เช่นเดียวกัน แต่ อินญีโก้ เลือกตีจากสโมสรหลังตอบรับสัญญา 2 ปีรับค่าจ้างก้อนโตถึง 20 ล้านยูโร
อินญีโก้ ได้พูดถึงช่วงเวลาของเขากับ บาร์เซโลน่า และเผยถึงสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจย้ายออกจากสโมสรในช่วงซัมเมอร์เพื่อย้ายไปค้าแข้งกับ อัล-นาสเซอร์
'ผมกำลังฝึกซ้อมช่วงปรีซีซั่นอยู่ตอนที่ได้รับข้อเสนอเข้ามา และผมรู้ว่าคุณต้องหยุดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้' อินญีโก้ กล่าว
'ผมต้องย้ายครอบครัวของผมทั้งหมด ทิ้งตำแหน่งที่คุณจะได้เป็นตัวจริงต่อไป แต่คุณต้องชั่งน้ำหนักทุกอย่าง และไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม อายุก็เป็นปัจจัยสำคัญด้วยเช่นกัน'
เมื่อกล่าวถึงความต้องการจากทีมระดับท็อปที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของเขาอย่างไร อินญีโก้ ตอบว่า 'จังหวะการเล่นไม่เคยหยุดนิ่ง มันเร็วขึ้นเรื่อยๆ และการทุ่มเท 50 เปอร์เซ็นต์นั้นยังไม่เพียงพอ เพราะคุณต้องทุ่มเททุกอย่างเสมอ ความต้องการนั้นมหาศาล และคุณต้องผลักดันตัวเองให้ถึงขีดสุด'
'ต้องการเดินทางเป็นเวลานาน เดินทางบ่อย และผมคิดว่ามันถึงเวลาที่ต้องถอยออกมาแล้ว มันถึงเวลาที่จะมาที่นี่ ผมเอาชนะใจใครหลายคน ทั้งแฟนๆ สโมสร และนักเตะ ผมประสบความสำเร็จมากมาย'
'มันถึงเวลาแล้วที่จะเปิดพื้นที่ให้คนอื่นๆ และให้ผมได้เล่นฟุตบอลต่อไป ด้วยไอเดียของผม และสนุกกับประเทศอื่นที่มอบทุกสิ่งทุกอย่างแก่ผม'
อินญีโก้ ต้องรับมือกับการบาดเจ็บหลายครั้งก่อนจะย้ายมาอยู่กับ บาร์เซโลน่า และยังต้องต่อสู้กับปัญหาความฟิตในปีแรกกับทีมอาซูลกราน่า แต่ไม่นานปัญหาเหล่านั้นก็กลายเป็นอดีต โดยเฉพาะในฤดูกาลที่แล้ว
'ตอนที่ผมย้ายมา บาร์เซโลน่า ผมมีอาการเจ็บที่พังผืดซึ่งทำให้ผมต้องพักรักษาตัวนาน 5-6 เดือน ทุกเช้าเหมือนตกนรก ผมไม่เคยเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากขนาดนี้มาก่อน บางครั้งผมก็คิดที่จะถอยออกมาและเลิกเล่น มีบางวันที่ผมเดินไม่ได้เลย'
'ผมโชคดีที่ได้เซ็นสัญญาฉบับนั้นกับ บาร์ซ่า ได้พบกับแพทย์ดีที่สุด ได้ลองวิธีการรักษาที่หลากหลาย และหนึ่งในนั้นช่วยผมได้มาก มันน่าทึ่งมาก มันช่วยเซฟผมไว้ได้'
'ผมกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง และหลังจากนั้นไม่นาน ผมก็ได้รับบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายฉีกขาดสองครั้ง ผมยอมรับบทบาทของตัวเองและพยายามทุ่มเททุกอย่างเต็มที่ในการฝึกซ้อมทุกครั้ง เคารพทุกคนและคิดถึงทีมอยู่เสมอ'
อินญีโก้ ยังพูดถึงสภาพร่างกายของเขาในฤดูกาลที่แล้วว่า 'ปีถัดมา ผมมองเห็นโอกาสของตัวเองเมื่อนักเตะอย่าง โรนัลด์ (อาเราโฮ) และ อันเดรียส (คริสเตนเซ่น) ได้รับบาดเจ็บ ผมผลักดันตัวเองจนถึงขีดสุดในทุกด้าน ทั้งในและนอกสนาม'
เซนเตอร์วัย 34 ปียังเผยว่าเขาสนุกกับการเล่นภายใต้การกุมบังเหียนของ ฮันซี่ ฟลิค ในฤดูกาลที่แล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับความท้าทายจากการไลน์แนวรับขึ้นสูงตามสไตล์ของเทรนเนอร์ชาวเยอรมัน
'การสนุกกับมันและต้องทนทุกข์ไปพร้อมๆกันในการรักษาไลน์แนวรับสูงอย่างสมบูรณ์แบบและแม่นยำ นั่นคือสิ่งที่ ฟลิค ยืนกรานมาตลอด มันคือสไตล์การเล่นของเขาและยังคงเป็นสไตล์การเล่นของเขา ในแบบที่เขาต้องการให้ทีมเล่น เราขัดเกลามันจนสมบูรณ์แบบ'
'มันเป็นปีที่ผมสนุกอย่างเต็มที่และได้เรียนรู้อะไรมากมาย ผมไม่รู้ว่าการคว้าแชมป์มันเป็นอย่างไร เพราะผมเคยได้แค่แชมป์ ซูเปอร์ คัพ กับ แอธเลติก และทันใดนั้นก็มีนัดชิงชนะเลิศ และผมสามารถคว้าแชมป์และสนุกกับมันได้ มันทำให้ผมขนลุก'
เมื่อถูกถามถึงงาน บัลลง ดอร์ ปี 2025 ซึ่ง ลามีน ยามาล อดีตเพื่อนร่วมทีมของเขาคว้าอันดับ 2 รองจาก อุสมาน เดมเบเล่ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
'ผมติดตามดูอย่างใกล้ชิด เพราะผมชอบ ลามีน มาก และผมชอบ ราฟินญ่า มาก การเลือกระหว่าง ลามีน กับ เดมเบเล่ แต่บอกตามตรง ผมรู้ว่า เดมเบเล่ จะเป็นผู้ชนะ เขาคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก และนั่นสำคัญมาก'
'ผมรู้ว่า เดมเบเล่ มีโอกาสมากกว่า แต่เขาอายุแค่ 18 ปี และเป็นอันดับ 2 บัลลง ดอร์ ใครสามารถพูดแบบนั้นได้ล่ะ เขายังมีอนาคตอีกหลายปี'
'ผมหวังว่าเขาจะยังคงสนุกกับฟุตบอลต่อไป เพราะเขาเป็นเด็กหนุ่มที่ยอดเยี่ยมทั้งในและนอกสนาม ปีหน้าเขาจะได้ไปที่นั่น'
เมื่อพูดถึงความเหนือกว่าอย่างไม่มีข้อโต้แย้งของ บาร์เซโลน่า ต่อ เรอัล มาดริด ในฤดูกาลที่แล้ว หลังทีมอาซูลกราน่าคว้าชัยชนะในเกม 'เอล กลาซิโก้' ที่ทั้งสองทีมพบกันในทุกรายการ 4 เกม สองครั้งบนเวทีลีกา อีกสองครั้งในนัดชิงชนะเลิศ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า และ โกปา เดล เรย์
'มีบางแมตช์ที่เรารู้สึกว่าเหนือกว่า หรือบางจังหวะที่คู่แข่งดูเหมือนจะเล่นงานเราหนักหน่วง ผมไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเมื่อ 2 ปีก่อน ผมเห็น เรอัล มาดริด ยืนหยัดสู้กับเรา และรู้ว่าพวกเขาจะได้โอกาสและสร้างปัญหาให้เรา'
'ฤดูกาลที่แล้วไม่เป็นแบบนั้น เรารู้ว่า เรอัล มาดริด มีโอกาสทำประตูชัดเจนหนึ่งหรือสองครั้งต่อเกมเสมอ แต่เรารู้ว่าเราจะมีโอกาสมากกว่าพวกเขามาก ในด้านแท็คติก เราเหนือกว่าด้วยซ้ำตอนครองบอล เราสร้างสรรค์โอกาสได้อย่างมาก'
อินญีโก้ ยังยืนยันว่าเขามั่นใจว่า บาร์เซโลน่า จะคว้าชัยชนะในรอบชิงชนะเลิศของศึก โกปา เดล เรย์ แม้ว่า เรอัล มาดริด จะสู้สุดใจจนต้องชี้ขาดในช่วงต่อเวลาพิเศษก็ตาม
'พวกเขาโต้กลับเรา แต่ผมไม่เคยรู้สึกว่าเกมจะหลุดมือไปจากเรา ผมไม่คิดว่าจะลืมมันไปได้เลย เพราะไม่มีใครโค่น เรอัล มาดริด ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรอบชิงชนะเลิศ มันแปลกที่ต้องเผชิญหน้ากับ เรอัล มาดริด แล้วไม่รู้สึกว่าเราเอาชนะพวกเขาไม่ได้'
'แต่มันไม่ใช่แบบนั้น โมเมนตัมของเราดีมาก เราเอาชนะพวกเขาได้ทั้งใน ลา ลีกา และ ซูเปอร์คัพ ซึ่งเป็นชัยชนะครั้งใหญ่และนั่นสำคัญมาก เมื่อคุณเผชิญหน้ากับทีมที่คุณเคยเอาชนะได้แบบนั้น คุณจะรู้สึกกลัวโดยไม่รู้ตัว'
อินญีโก้ ยังพูดถึง เรอัล มาดริด ชุดปัจจุบันภายใต้การดูแลของ ชาเบียร์ อลอนโซ่ ว่า 'ปีนี้ เรอัล มาดริด ดูดีมาก มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย และมีผู้จัดการทีมที่ยอดเยี่ยมอย่าง ชาบี อลอนโซ่ ซึ่งผมเคยเล่นด้วย ผมมั่นใจว่าตอนนี้มันจะยากขึ้นกว่าเดิม'