วันหนึ่งผมจะกลับมา...
เซร์จี้ โดมิงเกซ เซนเตอร์วัย 20 ปีเป็นหนึ่งในแข้งดาวรุ่งพรสวรรค์หลายคนจาก 'ลา มาเซีย' ที่แจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่ของ บาร์เซโลน่า ภายใต้การกุมบังเหียนของ ฮันซี่ ฟลิค ในฤดูกาลที่แล้ว
แต่เขาตัดสินใจย้ายออกจากสโมสรไปค้าแข้งกับ ดินาโม ซาเกร็บ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยหวังเดินตามรอย ดาเนียล โอลโม่ ที่เคยย้ายไปโครเอเชียเมื่อปี 2014
หลังผ่านมาประมาณ 4 เดือน เซร์จี้ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถเป็นหัวใจสำคัญในแนวป้องกันของ ดินาโม ซาเกร็บ และเป็นผู้เล่นตัวหลักของเทรนเนอร์ มาริโอ โควาเชวิช ในเวลาไม่นานนัก
กองหลังวัย 20 ปีเปิดเผยว่าเขาได้ขอคำแนะนำจาก โอลโม่ ในการถ่ายทอดประสบการณ์ในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับ ดินาโม ซาเกร็บ เมื่อกว่าทศวรรษก่อน จนกระทั่งตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งในโครเอเชีย
'ผมถาม ดานี่ โอลโม่ ก่อนตัดสินใจขั้นสุดท้าย เพื่อให้เขาได้เล่าให้ผมฟังเล็กน้อย เขาบอกว่าลีกกำลังพัฒนา ถ้าผมฟิต ผมคงไม่มีปัญหาในการเล่น มันเป็นลีกที่ดีมากสำหรับการพัฒนาและสั่งสมประสบการณ์' เซร์จี้ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เซร์จี้ ยอมรับว่าการตัดสินใจย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน หลังอยู่ในศูนย์ฝึก 'ลา มาเซีย' มานานถึง 8 ปี

'แน่นอนว่าผมรู้สึกประหม่าเล็กน้อย มีความกังวลอยู่บ้าง แต่ กอนซาโล่ (บีย่าร์) เพื่อนร่วมทีมของผม ซึ่งเป็นชาวสเปน ก็อยู่ที่นั่นด้วย คุณจะรู้มากขึ้นว่าทุกอย่างจะเป็นอย่างไรหลังจากอยู่กับ บาร์ซ่า มาตลอดชีวิต แต่พวกเราส่วนใหญ่เป็นหน้าใหม่ ผมคิดว่ามีประมาณ 18 คน รวมถึงโค้ชด้วย'
'ทุกคนต่างรอที่จะเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้น'
เซร์จี้ ยังพูดถึงการตัดสินใจย้ายออกจากสโมสรว่า 'เมื่อฤดูกาลใกล้จะจบลง ผมไม่คิดว่าตัวเองจะได้เล่นในทีมสำรองของ บาร์ซ่า อีกหนึ่งปี และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ก็ยากมาก ผมจึงคิดว่าผมจะถูกขายหรือปล่อยไปเล่นกับทีมอื่นด้วยสัญญายืมตัว'
'แต่ผมไม่รู้ว่าอะไรคือตัวเลือกดีที่สุดสำหรับผม มันเป็นครั้งแรกที่ผมตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น'
'ผมกำลังอยู่ในช่วงวันหยุดพักร้อนตอนที่เราสรุปทุกอย่าง และเมื่อผมได้รับข้อเสนอ ซึ่ง (อัลเบิร์ต) กาเปยาส (โค้ชทีมเยาวชน ดินาโม ซาเกร็บ) รู้ถึงข้อเสนอดี แนวคิดของสโมสร และโปรเจ็กท์ก็ดีมาก มันไม่ใช่แค่เรื่องเวลาแค่เดือนเดียว แต่น้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์ ผมคิดว่าผมตัดสินใจถูกแล้ว'
เมื่อนึกถึงฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเป็นปีที่อารมณ์ของ เซร์จี้ พลุ่งพล่านเหมือนรถไฟเหาะตีลังกา ขณะที่เขาแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่ แต่ บาร์ซ่า แอธเลติก ตกชั้น
'ปีที่แล้วมันบ้ามาก ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ฝึกซ้อมในช่วงปรีซีซั่น นับประสาอะไรกับการได้ลงประเดิมสนาม พอนักเตะชุดใหญ่มาถึง มันต้องยอมรับว่าพวกเขาจะลงเล่น คุณก็กลับไปทีมชุด เบ สถานการณ์มันไม่ดีนัก เพราะเรากำลังดิ้นรนหนีการตกชั้น'
'ผมรู้สึกสับสน ไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ แต่มันก็เป็นแบบนั้น ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ลงเล่นเกมแรก และความคิดของผมคือการได้เล่นในทีมชุด เบ สุดท้ายแล้ว ตอนอายุ 19 ปี สิ่งเดียวที่ผมต้องการทำคือการลงสนาม ผมรู้สึกขอบคุณที่ได้ร่วมฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ แต่คุณอยากลงเล่นและพิสูจน์ตัวเอง'

เมื่อถูกถามถึงการทำงานวันแรกภายใต้การดูแลของ ฮันซี่ ฟลิค กองหลังวัย 20 ปีเผยว่า 'ผมจำได้ว่าเราทดสอบร่างกายและฝึกซ้อมกันในช่วงบ่าย การปรับตัวเข้ากับระดับนั้นง่ายมาก เพราะพวกเรา 15 หรือ 20 คนมาจากทีมสำรอง'
'บางคนจากทีมชุดใหญ่ จากนั้นบางคนจากทีมสำรองก็ถอนตัวออกไปเมื่อมีนักเตะใหม่เข้ามา บรรยากาศในทีมสำรองและผู้เล่นชุดใหญ่นั้นยอดเยี่ยมมาก'
เซร์จี้ ยังพูดถึงไลน์แนวรับสูงที่ บาร์เซโลน่า ใช้ตามแท็คติกของเทรนเนอร์ชาวเยอรมันว่า 'มันเกิดขึ้นระหว่างการฝึกซ้อม บางครั้งเราแยกกองหน้าและกองหลังออกจากกัน เราเริ่มสวิงบอลไปมารอบๆ แล้วพวกเขาก็บอกเราว่า 'เมื่อปีกได้บอล ฟูลแบ็กต้องเพรสหนักหน่วง และเซนเตอร์แบ็กสองคนต้องเคลื่อนที่ขึ้นเป็นไลน์เดียวกับฟูลแบ็ก'
'ความประทับใจแรกนั้นน่าตกใจมาก ผมไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนในฟุตบอล แต่พอเกมแรกมาถึง และคุณทำให้ฝ่ายตรงข้ามล้ำหน้าถึง 9 ครั้ง และ 7 ครั้งในเกมที่สอง ทุกคนทำตามไอเดียนั้น เพราะมันได้ผล'
เมื่อถูกถามถึงช่วงเวลาดีที่สุดของเขาในฤดูกาลที่แล้ว ซึ่ง เซร์จี้ ไม่ลังเลที่จะเลือกเกมประเดิมสนามของเขาในเกมกับ เรอัล บายาโดลิด
'ผมคงเลือกเกมเปิดตัวของผม แต่คุณรู้สึกมากจนลืมไป จิตใจของคุณถูกกระตุ้นอย่างมาก และผมบอกไม่ได้ว่าผมรู้สึกอย่างไรในช่วงเวลาก่อนลงสนาม ผมมีความสุขและรู้สึกประหม่ามาก เมื่อทุกอย่างจบลง คุณจะรู้ตัว ใครจะไปคิดล่ะ?'
'บอกตามตรง พอเห็นสถานการณ์ต่างๆเป็นแบบนี้ ผมเลยบอกกับพ่อแม่ว่าผมจะได้ลงเล่นนัดแรก ผมรู้สึกได้ถึงมันภายในใจ ผมเตรียมตัวมากขึ้นอีกหน่อย'
'ผมมีความสุขและขอบคุณ ฟลิค มาก เขามอบโอกาสให้ผมได้เล่นในระดับสูงสุดกับสโมสรดีที่สุดในชีวิต ผมจะเก็บมันไว้กับตัวตลอดไป'
'ผมจะรู้สึกขอบคุณเขาตลอดไป จริงๆแล้วเขามอบโอกาสให้ผมเกือบทุกอย่าง ทั้งโอกาสในการพิสูจน์ตัวเอง ให้คนอื่นรู้ว่าผมเป็นใคร และความมั่นใจที่จะตระหนักว่าผมสามารถเล่นในระดับสูงสุดได้'

เมื่อถูกถามถึงนักเตะทีมชุดใหญ่ที่ทำให้เขาประหลาดใจมากที่สุด เซร์จี้ เลือก เฟรงกี้ เดอ ย็อง มิดฟิลด์ชาวดัตช์ โดยกล่าวว่า 'ผมเคยพูดไปแล้ว แต่ เฟรงกี้ ว้าว...ในการฝึกซ้อม ตอนที่เขากลับมาหลังจากบาดเจ็บข้อเท้า เขาทำทุกอย่างได้อย่างถูกต้อง ถ้าคุณมีปัญหา คุณก็ส่งบอลให้เขา และเขาจะแก้ไขสถานการณ์ทุกอย่างได้'
'แน่นอนว่า ลามีน คือนักเตะระดับท็อป แต่ผมรู้เรื่องนั้นดีอยู่แล้ว สำหรับผม เฟรงกี้ คือคนสำคัญ'
เซร์จี้ ยังพูดถึงนักเตะจาก 'ลา มาเซีย' ที่มีโอกาสลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ว่า 'เมื่อคุณอยู่ที่ บาร์ซ่า คุณไม่รู้เลยว่าที่นี่ยิ่งใหญ่แค่ไหน โดร, โตนี่, โจเฟร และนักเตะคนอื่นๆที่อยู่ตรงนั้นตอนนี้ ทุกอย่างตั้งแต่การฝึกซ้อม การลงสนาม ไปจนถึงการถูกเรียกตัว มันบ้ามาก มีน้อยคนนักที่จะมีโอกาสแบบนี้'
'คุณต้องรู้สึกขอบคุณและพยายามพัฒนาตัวเองด้วยการฝึกซ้อมกับนักเตะเก่งที่สุด'
เซร์จี้ ยังกล่าวถึงการก้าวขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ของ ลามีน ยามาล และ เปา กูบาร์ซี่ ตั้งแต่อายุ 16 ปีว่า 'ใช่ มันอาจทำให้ผู้เล่นอยากเลื่อนขั้นมากขึ้น แต่สิ่งที่ทั้งสองคนทำนั้นไม่ปกติ การทำแบบนั้นตอนอายุ 16 ปี ซึ่งเป็นปีแรกของพวกเขา ผมคิดว่าคุณต้องอดทน แน่นอนว่าการเริ่มต้นตอนอายุ 16 ปีย่อมดีกว่าตอนอายุ 19 ปี แต่มันไม่ปกติ'
ต่อด้วยการพูดถึงเพื่อนสนิทอย่าง มาร์ก เบร์นาล ที่กำลังฟื้นตัวจากการบาดเจ็บเอซีแอลฉีกขาดว่า 'ผมได้คุยกับเขาก่อนหน้านี้ เขาเข้าใจสถานการณ์ดี เขาพักไปนานหนึ่งปีแล้ว และตอนนี้มันยากที่จะกลับมาลงสนาม เพราะผลงานโดยรวมค่อนข้างสูสี แต่ผมมั่นใจว่าเมื่อเขามีโอกาส เขาจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนั้นอย่างเต็มที่ เขาทำได้ดีมาก'
'กองกลางที่เรามีตอนนี้ก็ดีมาก ทั้ง เฟรงกี้ และ เปดรี้ แต่ในอนาคต เขาเป็นมิดฟิลด์ตัวจริงของ บาร์ซ่า แน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์'

เซร์จี้ ยังพูดถึงฟอร์มการเล่นของ บาร์เซโลน่า ในฤดูกาลนี้ที่ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาบ้าง แต่จะฟื้นตัวกลับมาได้ 'ผมคิดว่าทีมกำลังทำผลงานได้ดี แน่นอนว่าพวกเขาออกสตาร์ทได้ดีกว่าปีที่แล้ว แต่ท่ามกลางการบาดเจ็บและปัจจัยอื่นๆ'
'นักเตะที่เข้ามาและออกไปทำให้การสร้างทีมเป็นเรื่องยากขึ้น เมื่อคุณคนกลับมาอยู่ในจังหวะของตัวเอง พวกเขาจะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง'
'พวกเขาทำได้ในปีที่แล้ว และปีนี้ ด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้น ผมมั่นใจว่าพวกเขาจะพัฒนาขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์'
เซร์จี้ ยังเผยถึงเป้าหมายที่ชัดเจนของเขาคือการหวนคืน บาร์เซโลน่า ในอนาคต 'เป้าหมายของผมคือการกลับบ้าน เป้าหมายสูงสุดคือการเล่นให้ บาร์ซ่า อีกครั้ง มันยากลำบาก แต่ผมจะพยายามอย่างเต็มที่ ผมมีทุกอย่างที่นั่น ทั้งบ้าน, เพื่อนฝูง และครอบครัว มันจะเป็นสิ่งดีสุดที่จะเกิดขึ้นกับผม'
'แต่ผมต้องพิสูจน์ตัวเอง ลงสนาม และถ้ามีโอกาส ผมหวังว่าจะได้ลงเล่น ถ้าไม่ ผมก็จะสู้ต่อไป แน่นอนว่าการเป็นนักเตะอาชีพระดับท็อป การสร้างรากฐานของตัวเอง และการเป็นเซนเตอร์แบ็กที่ดี นั่นคือเป้าหมายเร่งด่วน'
'แต่เป้าหมายสูงสุดคือการเล่นให้ บาร์ซ่า แต่เพื่อจะทำเช่นกัน ผมต้องสะสมเวลาลงเล่นและพิสูจน์ตัวเอง'

