ทำไม เวียร์ตซ์ ยังไม่ปัง

บางคนมองว่ามันไปไกลกว่านั้น เวย์น รูนี่ย์ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษกล่าวว่าการเซ็นสัญญามูลค่า 116 ล้านปอนด์ ได้ "ทำลายสมดุล" ของทีม ลิเวอร์พูล
"เขาเป็นผู้เล่นระดับท็อป และผมมั่นใจว่าเขาจะพัฒนาขึ้นไปอีก แต่เขาเริ่มต้นฤดูกาลได้ค่อนข้างช้า และผมคิดว่านั่นปฏิเสธไม่ได้เลย" รูนี่ย์ กล่าว
เวียร์ตซ์ ยังไม่สามารถทำประตูแรกกับทีมใหม่ได้ และแอสซิสต์เพียงครั้งเดียวของเขาเกิดขึ้นในเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่แพ้ คริสตัล พาเลซ แต่นั่นสะท้อนภาพรวมทั้งหมดหรือไม่?
ในที่นี้ เราจะมาวิเคราะห์กันว่าเขาทำผลงานได้ดีแค่ไหน ทำไมเขาถึงยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และ ลิเวอร์พูล จะสามารถดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของเขาออกมาได้อย่างไร
สไตล์การเล่นที่เปลี่ยนไปของ ลิเวอร์พูล และบทบาทของ เวียร์ตซ์
ลิเวอร์พูล เสียสมดุล แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน
อาร์เน่อ สล็อต ผู้จัดการทีมได้เปลี่ยนแนวทางการเล่นในฤดูกาลนี้ และบางทีการเสีย เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ไปอาจก่อให้เกิดคำถามใหญ่โตกว่าที่คาดการณ์ไว้
ในแนวทางที่คล้ายคลึงกันกับ เฟเยนูร์ด ของ สล็อต ลิเวอร์พูล กำลังมองหาการหมุนเวียนผู้เล่นที่มากขึ้น โดยเคลื่อนตัวผ่านกลางสนามอย่างรวดเร็วและมีพื้นที่ว่าง
ดังนั้นจึงสมเหตุสมผลที่ เวียร์ตซ์ จะเป็นศูนย์กลางเกมรุกที่เชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน
แต่ในความเป็นจริง เขาถูกขอให้เล่นบทบาทที่แตกต่างจากที่เขาเคยเล่นอยู่เล็กน้อย
และนั่นทำให้เขามีโอกาสน้อยลงในการอยู่ในตำแหน่งที่จะทำประตูหรือแอสซิสต์
แม้ว่าจะไม่ได้แสดงผลงานที่ดีที่สุดออกมาจากตัว เวียร์ตซ์ แต่เขาก็ไม่ได้เล่นแย่ในบทบาทที่ไม่เหมาะสมนี้
เวียร์ตซ์ ลงมาล้วงบอลลึกมากขึ้น
เวียร์ตซ์ ลงมารับบอลในแนวลึกอยู่บ่อยครั้งมาก
อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มีความน่าประทับใจกับความสามารถในการผ่านบอลเมื่อเล่นแนวลึก และดูเหมือนว่า ลิเวอร์พูล จะขาดคุณสมบัตินี้ไปเยอะเลย
การสลับบอลยาวของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีม ไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการส่งบอลขึ้นหน้าอย่างแม่นยำ ไม่งั้นแล้ว ลิเวอร์พูล ก็จะขาดคุณภาพในการผ่านบอลจากแนวรับสู่เพื่อนร่วมทีมในแดนบน
ความรับผิดชอบนี้ตกอยู่ที่ เวียร์ตซ์ เป็นบางครั้ง เขาต้องถอยลงมารับบอลก่อนจะหันหลังและพยายามพาบอลขึ้นไปแดนบน เขาสามารถทำได้เพราะเทคนิคอันยอดเยี่ยม แต่นั่นก็ช่วงลดเวลาที่เขาต้องอยู่ไกลจากประตูของคู่แข่ง
หากผู้เล่นคนอื่นสามารถรับผิดชอบในการวางบอลได้ ก็อาจทำให้ เวียร์ตซ์ สามารถวางตำแหน่งของตัวเองให้สูงขึ้นในสนามได้
เวียร์ตซ์ โดดเด่นในการทะลวงไปในพื้นที่คล้าย แจ็ค กรีลิช
หนึ่งในความแตกต่างที่สำคัญที่สุดที่ เวียร์ตซ์ กำลังเผชิญในพรีเมียร์ลีกคือพื้นที่ที่ลดลงและแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น
เมื่อต้องยืนตรงกลางระหว่างแนวรับกับทีมที่เน้นเกมรับแน่นหนาอย่าง คริสตัล พาเลซ เวียร์ตซ์ พบว่าตัวเองมีเวลาและพื้นที่ในการเล่นน้อยลง
สำหรับ เลเวอร์คูเซ่น มีบางเกมที่ เวียร์ตซ์ ออกไปยืนปีกซ้าย ขณะที่เพื่อนร่วมทีมจะจ่ายบอลขึ้นไปก่อนจะหาเขา
อีกทางเลือกหนึ่ง เขาจะวางตำแหน่งของเองในตำแหน่งกองกลางตัวรุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมที่เน้นพื้นที่ระหว่างแนวรับมากกว่าในเกมที่มีลักษณะการเล่นโต้กลับมากขึ้น
เพื่อดึงศักยภาพสูงสุดของ เวียร์ตซ์ การส่งบอลให้เขาในขณะที่ไม่มีแรงกดดันใดๆ ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุด
เมื่อเขาได้บอลในระยะกึ่งพลิกตัวและพาบอลไปข้างหน้า โดยมีระยะห่างระหว่างตัวเขากับผู้เล่นที่อยู่ใกล้ เขาสามารถใช้การหลอกล่อทางร่างกายและเปลี่ยนความเร็วเพื่อโจมตีแนวรับของฝ่ายตรงข้ามได้
เช่นเดียวกับ กรีลิช ปีก เอฟเวอร์ตัน ผลงานที่ดีที่สุดของเขาทั้งในการเลี้ยงบอลและการจ่ายบอลมาจากสถานการณ์ที่เขากำลังมีบอลและจี้เข้าหาผู้เล่น
นั่นคือเหตุผลที่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ เวียร์ตซ์ ในฤดูกาลนี้หลายครั้งเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนจากรับเป็นรุก
มันสามารถทำได้ด้วยการวางเขาไว้ที่ปีกซ้ายในช่วงแรก หรือโดยการหาเขาในแดนกลางช่วงต้นเกม หากเขาอยู่ในตำแหน่งระหว่างแนวรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแนวรับของฝ่ายตรงข้ามถูกยืดออก เพื่อนร่วมทีมต้องจ่ายบอลไดเร็กต์ไปหา เวียร์ตซ์
อัตราการทำงานของ เวียร์ตซ์ อาจเป็นอุปสรรคของเขา
ความเข้มข้นของพรีเมียร์ลีกส่งผลต่อแผนก็จริง แต่ก็ส่งผลต่อผู้เล่นแต่ละคนด้วย และดูเหมือนว่า เวียร์ตซ์ จะยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างเต็มที่
ด้วยสไตล์การเล่นที่รวดเร็วและเน้นการหมุนเวียนมากขึ้นของ สล็อต ทำให้ ลิเวอร์พูล มีแนวโน้มที่จะถูกโต้กลับได้ง่าย โดยมีผู้เล่นอยู่หลังบอลน้อยลง ซึ่งทำให้ตัวรุกอย่าง เวียร์ตซ์ ต้องเพรสซิ่งอย่างเข้มข้นเมื่อเสียบอล
เวียร์ตซ์ ทำตามคำแนะนำในการบุกเมื่อไม่ได้ครองบอลอย่างเต็มที่และไล่บีบอย่างหนักหน่วง ในเกมรุก เขาถูกกระตุ้นให้ถอยลงมาเพื่อช่วยในการสร้างสรรค์เกม พร้อมกับมีอิสระในการโจมตีทั้งซ้ายและขวา
ความต้องการทางร่างกายส่งผลต่อเทคนิคอย่างไร
ในการสัมภาษณ์กับ สกาย สปอร์ต เยอรมัน เมื่อไม่นานมานี้ เวียร์ตซ์ ได้พูดถึงความแตกต่างในผลงานของเขาในฤดูกาลนี้เมื่อเทียบกับซีซั่นที่แล้ว
เขากล่าวว่า สล็อต ได้แสดงความคิดเห็นว่า "อาจเป็นเพราะเรากดดันหนักและผมวิ่งเยอะ"
เวียร์ตซ์ กล่าวเสริมว่า "ยกตัวอย่างเช่น สถิติการวิ่ง : ผมมักจะอยู่อันดับต้นๆ ที่นั่นเพราะผมพยายามผลักดันอย่างหนักและทำตามคำสั่งโค้ช ผมต้องการความแข็งแกร่งและพลังงานอย่างมากสำหรับสิ่งนั้น เมื่อผมได้บอล ผมอาจจะเหนื่อยไปบ้าง มันจะค่อยๆ พัฒนาไปทีละขั้น เมื่อผมได้ลงเล่นมากขึ้น ฟิตขึ้น ทำอะไรได้ง่ายขึ้น และเมื่อผมได้บอล ผมก็ฟิตและฟื้นตัวพอที่จะผลักดันอย่างหนักได้"
สำหรับ เลเวอร์คูเซ่น มีบางช่วงของเกมที่ เวียร์ตซ์ จะเดินหน้าวิ่งเหยาะๆ นิดหน่อยเพื่อฟื้นตัว ทำให้เขาสามารถใช้พลังของเขาได้อย่างเด็ดขาดมากขึ้น
เวียร์ตซ์ จะพัฒนาขึ้นตามธรรมชาติเมื่อสภาพร่างกายของเขาดีขึ้น แต่การประหยัดพลังงานก็เป็ฯส่วนสำคัญของเกม หากเขาต้องการวิ่งทะลวงแนวรับและส่งบอลอย่างแม่นยำในช่วงท้ายเกม
การจับคู่เขากับกองกลางจอมขยันคนอื่นๆ อย่าง โดมินิก โซบอสไล อาจเป็นประโยชน์ต่อทั้ง เวียร์ตซ์ และ ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล และ เวียร์ตซ์ จะเป็นอย่างไรต่อไป
แนวทางการแก้ไขที่เป็นไปได้เหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อนำ เวียร์ตซ์ ที่เราเคยเห็นมาทั้งหมดไปอยู่ในสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับสถานการณ์ที่เขาเคยมีกับ เลเวอร์คูเซ่น มากขึ้น
แน่นอนว่า สล็อต อาจหวังว่า เวียร์ตซ์ และเพื่อนร่วมทีมจะเริ่มมีเคทีที่เข้ากันได้ดีอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้พวกเขาสามารถนำวิสัยทัศน์ของเขาไปปฏิบัติได้
ผู้เล่นต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้ากับทีมใหม่ แต่การเซ็นสัญญาราคาแพงจะต้องเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้นในการทำผลงาน เพื่อหลีกเลี่ยงคำวิจารณ์จากภายนอก
การสรุปว่า เวียร์ตซ์ มีผลงานที่ไม่ดีมาจนถึงตอนนี้ อาจเป็นการตัดสินที่ใจร้ายเกินไป เมื่อพิจารณาจากผลงาน สิ่งที่ถูกคาดหวัง และความไม่แน่นอนอื่นๆ เกี่ยวกับ ลิเวอร์พูล
เรื่องราวของฤดูกาลนี้อาจอยู่ที่การที่พวกเขาปรับสมดุลทีมให้เหมาะสมที่สุดก่อนที่จะปรับปรุงบทบาทของ เวียร์ตซ์ โดยเน้นที่การดึงเอาจุดแข็งของเขาออกมาแทนที่จะใช้เขาเพื่อบรรเทาจุดอ่อนของทีม