โดยเฉพาะ ศูนย์ฝึกกีฬามวยสากลมาตรฐานระดับสากล(Thailand International Boxing Training Center:TIBTC) ซึ่งเป็น อาคารสูง 9 ชั้น + ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 17,000 ตารางเมตร
เริ่มการก่อสร้างเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 วงเงินสัญญาก่อสร้าง ประมาณ 608.4 ล้านบาท (ผู้รับเหมาร่วมคือ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด (เป็นหนึ่งในบริษัทที่รับเหมาก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่มมาเมื่อต้นปี)
อย่างไรก็ตาม ทาง กกท. ได้อนุมัติให้ใช้เงินสมทบจากกองเงินสะสมจำนวน 63,440,000 บาท เพื่อช่วยสนับสนุนการก่อสร้างและค่าควบคุมงานในช่วงปีงบประมาณ 2564–2566 แม้ว่าจะมีการตั้งเป้าส่งมอบไว้ก่อนซีเกมส์ แต่โครงการกลับล่าช้าและยังไม่สามารถส่งมอบตามสัญญาได้ในเวลาที่กำหนด ข้อเท็จจริงเหล่านี้ชี้ให้เห็นปัญหาการวางแผนงบประมาณ การกำกับดูแลงาน และการตรวจสอบประสิทธิภาพของโครงการ”
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (ตำแหน่งในขณะนั้น) ในฐานะ นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย พลตำรวจโทชัยวัฒน์ โชติมา อุปนายกและเลขาธิการ และ ดร.ประชุม บุญเทียม ผู้จัดการสมาคม ตรวจเยี่ยมและติดตาม การก่อสร้าง ศูนย์ฝึกกีฬามวยสากล ยืนยันว่าแล้วเสร็จทันตามกำหนด
กระทั่งวันที่ 15 กรกฏาคม นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (ตำแหน่งในขณะนั้น) ก็ได้เข้าตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารศูนย์ฝึกกีฬามวยสากล พร้อมด้วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายจักรพรรดิ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา, นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และนายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา
หลังจากการตรวจสอบความคืบหน้าแล้ว ได้รับการยืนยันว่าทั้งสองสถานที่ จะแล้วเสร็จทันใช้สำหรับจัดการแข่งขันกีฬาดังกล่าว อย่างแน่นอน
แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ได้ออกมาเปิดเผยว่า ต้องย้ายสังเวียนแข่งขันมวยสากล ในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 เนื่องจากสถานที่เดิมก่อสร้างเสร็จไม่ทัน ทำให้ต้องย้ายไปจัดแข่งขันที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แทน โดยนายประชุม บุญเทียม อุปนายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยและรองเลขาธิการสมาคมฯ พร้อมด้วยตัวแทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย เดินทางเข้าดูสถานที่ ณ อาคารเฉลิมราชสุดากีฬาสถาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อจะใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นซีเกมส์
ขณะที่ นายประชุม บุญเทียม เผยว่า สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ต้องมาดูสถานที่ ก็เพราะศูนย์ฝึกกีฬามวยสากลของการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ก่อสร้างในงบประมาณกว่า 600 ล้านบาท ที่ถูกวางไว้เป็นสังเวียนมวยซีเกมส์ 2025 มีปัญหาก่อสร้างเสร็จไม่ทันตามกำหนด ทำให้ต้องย้ายสนามแข่งขัน หลังจากเข้าตรวจสนาม ค่อนข้างพอใจ ขณะนี้ ได้ปรับแผนใหม่ทั้งเรื่องสนาม และที่พักนักมวยซีเกมส์ ที่จะย้ายมาแข่งขันที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครับ แถมยังเดินทางสะดวกอีกด้วย
จึงเป็นคำถามที่ไม่รู้จะมีใครมาตอบหรือไม่ว่า งบประมาณกว่า 600 ล้านที่ใช้สร้างศูนย์ฝึกกีฬามวยสากล กลับไม่ได้ใช้ตามวัตถุประสงค์หลักที่จะใช้เป็นสนามแข่งขันในซีเกมส์ ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
ซึ่งไม่ใช่แค่ สนามมวยแห่งเดียว ซีเกมส์ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ มีปัญหานานับประการ สระว่ายน้ำในกกท.ที่ใช้งบการประมาณในการซ้อมบำรุงอีกหลายร้อยล้านบาทก็เสร็จไม่ทัน ร่วมถึงกีฬาหลายชนิดต้องย้ายสถานที่แข่งขันกันจะละหวั่น กอล์ฟ เก็บตัวฝึกซ้อมที่นครนายก ซึ่งแต่เดิมถูกกำหนดให้แข่งที่นี้ แต่พอเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกีฬา ก็เปลี่ยนสนามแข่งโยกไปพัทยา แถมนักกีฬากอล์ฟ ก็ยังซ้อมไม่ได้ กีฬาตะกร้อ เดิมที่จะแข่งที่นครปฐมก็โยกไปโยกมายังหาสถานที่แข่งไม่ลงตัว
และสดๆร้อน เปตอง ถูกสหพันธ์เปตองนานาชาติ สั่งลงโทษห้ามจัดการแข่งขันในซีเกมส์ เนื่องจากปัญหาคุณสมบัติของนายกสมาคมฯ
ซีเกมส์ ในไทยปลายปีนี้ยังมีเรื่องให้น่าอับอายไปจนถึงพิธีปิดการแข่งขันเลยหรือไม่ต้องติดตามดู
