อย่าถามหามาตรฐาน

ใบแดงของ ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ ที่ตัดเกม แมตต์ โดเฮอร์ตี้ บริเวณหน้าเขตโทษ วูล์ฟส์ กลายเป็นที่ถกเถียงอย่างหนักอย่างสมควรแล้วหรือไม่
ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวแจกใบแดงให้ ลูอิส-สเกลลี่ แบบไม่ลังเลและในทันทีที่การฟาวล์เกิดขึ้น
ขณะที่ วีเออาร์ ที่ควบคุมโดย ดาร์เรน อิงแลนด์ ก็เห็นพ้องต้องกัน ไม่ได้บอกให้ โอลิเวอร์ เช็กเหตุการ์เพิ่มเติมที่หน้าจอมอนิเตอร์ด้วยตัวเอง
อาร์เซน่อล จึงเหลือ 10 คนตั้งแต่ท้ายครึ่งแรก และเป็นครั้งที่ 4 ในฤดูกาลแล้วที่ได้ใบแดงต่อจาก เดแคลน ไรซ์ ในเกมพบ ไบรท์ตัน, เลอันโดร ทรอสซาร์ ในเกมพบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ วิลเลียม ซาลีบา ในเกมพบ บอร์นมัธ
ในมุมของ อาร์เซน่อล แน่นอนว่าไม่เห็นด้วยอยู่แล้วกับใบแดงที่เกิดขึ้นเพราะเป็นจังหวะฟาวล์เห็นแทบทุกสัปดาห์ในเกมพรีเมียร์ลีก และส่วนใหญ่เป็นเพียงใบเหลือง
มิเกล อาร์เตต้า หัวเสียอย่างหนักกับจังหวะใบแดงนี้ ส่วนนักเตะในทีมก็เข้าไปรุมประท้วงขอคำอธิบายจาก ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ แต่ผู้ตัดสินวัย 39 ปี ก็ยังมั่นใจการชี้ขาดของตัวเอง
ลูอิส-สเกลลี่ ได้ใบแดงหลังฟาวล์ โดเฮอร์ตี้
เอียน ไรท์ อดีตกองหน้า อาร์เซน่อล ทนไม่ไหวออกมาตำหนิพรีเมียร์ลีกและทีมงานผู้ตัดสินว่าขนาดบอลนอกลีกยังไม่ตัดสินแย่ขนาดนี้
"มันเป็นอะไรที่บ้าบอสิ้นดี ใครก็ตามเคยเล่นฟุตบอล ไม่ใช่แค่ในพรีเมียร์ลีก ฟุตบอล 5 คน หรือซันเดย์ลีก ทุกคนรู้ว่ามันไม่ใช่ใบแดง ถ้าเป็นใบเหลืองจะไม่มีใครโต้เถียงอะไรเลย
"กี่ครั้งแล้วที่ระดับการตัดสินในพรีเมียร์ลีก ไม่มีความคงเส้นคงวา มีแต่ข้อแก้ตัว คำขอโทษ ทั้งหมดล้วนเป็นประเด็น
"ขอโทษทีที่ต้องบอกว่านี่คือฟุตบอลระดับสูงสุด แต่เราไม่มีผู้ตัดสินในระดับสูงสุด เมื่อไหร่พรีเมียร์ลีกจะนำผู้ตัดสินที่ดีที่สุดเข้ามาตัดสินในลีกที่เรียกว่าดีสุดในโลกเสียที ผู้ตัดสินที่เราในเวลารนี้มีไม่ได้ใกล้เคียงเลย"
ขณะที่คนกลางอย่าง อลัน เชียเรอร์ อดีตดาวยิง นิวคาสเซิ่ล ก็ไม่เห็นด้วยเช่นกันกับใบแดงนี้
"นี่คือ 1 ในการตัดสินที่แย่สุดที่ผมเคยเห็นมาเป็นเวลานาน ในฐานะผู้ตัดสิน คุณอาจตัดสินผิดพลาดในสนามได้ คุณอาจมองบางอย่างผิดไป แต่ทำไม ดาร์เรน อิงแลนด์ ถึงคิดว่าผู้ตัดสินตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว และไม่มีความจำเป็นต้องแนะนำเขาไปดูจอที่ข้างสนาม"
ในมุมของพรีเมียร์ลีก พวกเขาชี้แจงว่าเป็นการ "ฟาวล์รุนแรง" ซึ่งถ้าอิงตามกฎก็พอเข้าข่ายได้เพราะเป็นการยกเท้าสูง ปะทะกันชัดเจน และแรงพอบริเวณเหนือข้อเท้าขึ้นไป
แต่สิ่งที่พรีเมียร์ลีกไม่สามารถชี้แจงได้คือ การฟาวล์ในลักษณะเดียวกันนี้ และในหลายครั้งรุนแรงมากกว่า มีเจตนาเล่นคนมากกว่าชัดเจน แต่กลับได้เพียงใบเหลือง หรือไม่ก็ไม่โดนลงโทษอะไรเลย
ไม่ต้องอื่นไกล จังหวะของ ชูเอา โกเมซ ที่ฟาวล์ เจอร์เรียน ทิมเบอร์ จนเป็นใบเหลือง-แดง ในเกมเดียวกันนี้ แทบไม่ต่างกันเลยกับการฟาวล์ของ ลูอิส-สเกลลี่
จังหวะนี้ของ ชูเอา โกเมส ควรแดงโดยตรง
โกเมซ ต้องออกจากสนามเช่นกัน แต่บทลงโทษระหว่างใบเหลืองที่สองซึ่งกลายเป็นใบแดง กับใบแดงโดยตรงมีความต่างกัน กองกลางหมาป่าโดนแบนนัดเดียว ส่วนดาวรุ่งปืนโตโดนไป 3 นัด
ถ้า ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ และทีมงานให้ใบแดง ลูอิส-สเกลลี่ จังหวะฟาวล์ของ ชูเอา โกเมส ก็ต้องใบแดงโดยตรงเช่นกัน ไม่ใช่ใบเหลืองอีกใบ
หรือจะเป็นอีกสนามในสนามเดียวกันที่ ฮูลิโอ เอ็นซีโซ่ ของ ไบรท์ตัน กระโดดยกขาสูงใส่ วาตารึ เอ็นโด ของ ลิเวอร์พูล ซึ่งดูยังไงก็เป็นการเล่นอันตรายมากกว่า แต่กลับไม่โดนใบแดง
นี่จึงเป็นอีกครั้งที่มาตรฐานการตัดสินสินของผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีกถูกตั้งคำถาม
ตัดสินค้านสายตาไม่พอ ยังไม่มีความสม่ำเสมออีก ขณะที่องค์กรผู้ดูแลก็มองไม่เห็นความผิดปกติใดๆ และแทบไม่เคยลงโทษคนของตัวเอง
แม้ทีมงานผู้ตัดสินจะยกเหตุผลร้อยแปดมาอธิบายให้การทำงานของคนตัวเองมีความชอบธรรมมากขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่ากลับสวนทาง
มาตรฐานที่ไร้ความคงวาคงวา ความผิดปกติ ความ "อีหยังว่ะ" ล้วนไม่ไปคนละทิศละทางกับคำยกย่องที่บอกว่าเป็นลีกที่ดีสุดของโลก
จังหวะเหล่านี้ไม่มีใบแดงจากผู้ตัดสิน!!
ใบแดงล่าสุดนี้ อาร์เซน่อล เอาตัวรอดได้ก็จริง แต่พวกเขาต้องหมดพลัง หมดเรี่ยวแรงมากกว่าที่ควรจะเป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ แทบเดินไม่ไหวต้อนหลังจบเกมจนต้องให้สตาฟฟ์ช่วยพยุงออกจากสนาม
ส่วนใบแดงนัดอื่นๆ ก่อนหน้านี้ส่งผลชัดเจน พวกเขาไม่สามารถเอาชนะได้เลย และโทษแบนที่เกิดขึ้นก็กระทบในเกมถัดๆ มา ยิ่งฤดูกาลนี้เจออาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนัก ขุมกำลังของทีมจึงสะบักสะบอมสุดๆ
อาร์เซน่อล และทุกทีมในลีกไม่ควรต้องเจอการตัดสินที่ไร้มาตรฐานแบบนี้ เพราะทุกสิ่งที่ทุกอย่างที่ลงทุนกันมาทั้งเงินและความพยายาม รวมถึงการสนับสนุนของแฟนบอล ไม่ควรถูกทำลายลงง่ายๆ เพียงแค่การบ้วนน้ำลายของคนไม่กี่คน
มันไม่ควรมีใครต้องเจอกับสถานการณ์ยากลำบากโดยที่ไม่ได้มาจากความผิดของตัวเองจริง ๆ
แต่นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในพรีเมียร์ลีกและเกิดขึ้นมานานแล้ว และแน่นอนว่าจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต ตราบใดที่การตัดสินยังไร้ซึ่งมาตรฐาน
และ "ความซวย" ก็จะไปตกที่ใครสักคนหรือทีมใดสักทีมที่ไม่มีทางรู้ล่วงหน้าได้เลย เพราะรู้ตัวอีกทีก็มีใบแดงชูขึ้นตรงหน้าแล้ว
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT