การ์ลอส เกสต้า ได้เวลาโบยบิน

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
การ์ลอส เกสต้า ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเฮดโค้ชคนใหม่ของ ปาร์ม่า อย่างเป็นทางการ หลังอำลาบทบาทผู้ช่วยของ มิเกล อาร์เตต้า ที่ อาร์เซน่อล

โค้ชชาวสเปนวัย 29 ปี เจรจากับ ปาร์ม่า มานานหลายสัปดาห์ ก่อนตกลงกันลุล่วงในการเข้ารับตำแหน่งแทน คริสเตียน คิวู อดีตกองหลังทีมชาติโรมาเนียวัย 44 ปี ที่เพิ่งโยกไป อินเตอร์ มิลาน ต่อจาก ซิโมเน่ อินซากี้ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

หลังการแต่งตั้งรับงานใหญ่ครั้งแรกในชีวิต เกสต้า ได้โพสต์ข้อความขอบคุณ อาร์เซน่อล และ อาร์เตต้า ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว  

"หลังจาก 5 ปีที่งดงาม มันเป็นเรื่องยากที่จะถ่ายทอดทุกความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดได้ทั้งหมด แต่สิ่งเดียวที่ผมอยากจะพูดก็คือ ผมรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่งที่ได้ใช้ชีวิตในแต่ละวันร่วมกับผู้คนที่พิเศษมาก และได้สัมผัสถึงความหมายของการเป็นตัวแทนของสโมสรแห่งนี้ สโมสรที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่และคุณค่าที่น่าภาคภูมิใจ"

"สิ่งเดียวที่ผมพยายามมาตลอดคือ การทุ่มเททุกอย่างที่มีในตัวเองให้กับที่นี่ในทุก ๆ วัน ผมได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมที่เราร่วมกันสร้าง จากความกระหายของทุกคนในองค์กร และจากความสามัคคีที่เรามีไม่ว่าเราจะต้องเผชิญสถานการณ์ใด"

"มันคือเกียรติอย่างสูงที่ผมเคยมีโอกาสได้ร่วมงานกับนักเตะ ทีมงาน ผู้บริหาร และพนักงานทุกคนของสโมสร และในขณะเดียวกัน ก็ได้รับแรงผลักดันพิเศษจากแฟนบอลอันยอดเยี่ยมของเราในทุกแมตช์ที่ลงสนาม"

"ด้วยคุณภาพของผู้คนที่นี่ ผมเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่า ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของสโมสรแห่งนี้ยังรออยู่ข้างหน้า"

"ขอให้ทุกคนสนุกกับการเดินทางต่อไป เพราะมันคือเส้นทางที่น่าตื่นเต้นเหลือเกิน"

เกสต้า ย้ายจากทีมเยาวชน ยูเวนตุส มาร่วมทีม อาร์เซน่อล ในเดือนสิงหาคม ปี 2020 โดยก่อนหน้านั้นเคยทำงานกับ แอตเลติโก มาดริด


ผู้ช่วยหนุ่มมีบทบาทสำคัญในทีมโค้ชของ อาร์เซน่อล ที่ช่วยทีมคว้าแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2 สมัยในปี 2020 และ 2023 หลังรับตำแหน่งผู้ช่วยตอนอายุเพียง 25 ปี

การอำลาของ คาร์ลอส เกสต้า แม้จะสร้างความน่ากังวลใจในหมู่แฟนบอลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตเกินจะรับมือในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

แม้ มิเกล อาร์เตต้า จะไม่อยากเสียทีมงานคนสำคัญไปในช่วงก่อนเริ่มพรี-ซีซั่นแบบกะทันหัน แต่การที่ เกสต้า ได้งานคุมทีม ปาร์ม่า ในระดับกัลโช่ เซเรีย อา ก็ถือเป็นโอกาสก้าวสำคัญในเส้นทางผู้ฝึกสอน ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเมื่อดูจากพรสวรรค์และความสามารถที่เจ้าตัวแสดงให้เห็นมาตลอด

ฟุตบอลหมุนไปข้างหน้าอยู่ตลอด ไม่เคยหยุดนิ่ง และ อาร์เซน่อล ก็ต้องขยับตัวให้เร็วเพื่อปรับทีมงานให้ลงตัวต่อไป

อาร์เตต้า เองให้ความสำคัญกับการสร้างทีมสตาฟฟ์ที่เหนียวแน่นและไว้ใจกันได้ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะเขาเชื่อว่าทีมงานที่กลมเกลียวคือเบื้องหลังความสำเร็จในระยะยาว 

อาร์เซน่อล ยังมีทีมงานที่พร้อมเดินหน้าต่อ ไม่ว่าจะเป็น อัลเบิร์ต สตีเฟนเบิร์ก มือขวาคู่บุญของอาร์เตต้า ที่อยู่กันมาตั้งแต่วันแรก หรือ มิเกล โมลิน่า โค้ชหนุ่มวัย 32 ปีที่สามารถสร้างความใกล้ชิดกับนักเตะได้ดี ด้วยอายุที่ไม่ห่างกันมากนัก

นั่นทำให้สถานการณ์ไม่ได้เร่งด่วนขนาดต้องรีบหาคนใหม่แบบไฟลนก้น เหมือนกับตอนที่ เอดู ลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคกลางฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งสโมสรเองก็ใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะตกลงแต่งตั้ง อันเดรีย แบร์ต้า มาทำหน้าที่แทน


หาก อาร์เซน่อล จะหาคนมาแทน เกสต้า สิ่งที่ทีมมองหาคือ ความสามารถระดับสูง และความไว้วางใจที่สร้างกันได้ยากในเวลาอันสั้น ซึ่ง อาร์เตต้า ให้ความสำคัญกับเรื่องหลังเป็นพิเศษ

เรียกได้ว่า "ต้องได้คนที่ใช่" จริง ๆ 

นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ทีมงานคนสนิทใน "วงใน" ของอาร์เตต้าต้องอำลาแบบไม่ใช่ความตั้งใจของเฮดโค้ช ซึ่งต่างจากกรณีของ สตีเฟ่นเบิร์ก ที่เคยมีสโมสรทาบทามให้ไปเป็นกุนซือใหญ่ แต่ยังคงยืนหยัดอยู่กับทีมต่อ

แน่นอนว่า อาร์เซน่อล จะจับตาความก้าวหน้าของอดีตมือขวาคนนี้อย่างใกล้ชิด เหมือนกับที่ครั้งหนึ่ง อาร์เตต้า เองก้าวออกมาจากเงาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพื่อมาเป็นกุนซือเต็มตัวกับ อาร์เซน่อล ช่วงกลางซีซั่น 2019/20

  หลายคนที่ไม่ได้รู้จัก การ์ลอส เกสต้า อาจจะเซอร์ไพรส์และอดตั้งคำถามไม่ได้ว่าเหตุใดคนที่อายุเพียง 29 ปีที่ไม่เคยคุมทีมชุดใหญ่มาก่อนจึงกล้ารับงานคุมทีมระดับเซเรีย อา อิตาลี

เกสต้า อายุ 29 ปีก็จริง แต่อยู่ในสายงานโค้ชมาตลอด 11 ปีหลังสุดเพราะมีความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวในการเป็นโค้ชจนถึงขั้นตัดสินใจเลิกเป็นนักฟุตบอลตั้งแต่อายุ 18 ปีเพื่อเอาดีด้านโค้ช 

ตอนอายุ 21 ปี เขาเคยติดต่อไปหา เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพื่อขอศึกษาการทำงาน และนั่นทำให้ได้รู้จักกับ มิเกล อาร์เตต้า 

เขาผ่านหลักสูตรไปร ไลเซนซ์ ของยูฟ่า ในวันเพียง 22 ปี และได้งานใหม่คุมทีมยู-17 ของ ยูเวนตุส หลังเป็นสตาฟฟ์โค้ชยู-17 ของ แอต.มาดริด มา 4 ปี


ตอนที่อยู่กับม้าลายนี่แหละคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ ปาร์ม่า มองว่า เกสต้า คือตัวเลือกที่ใช่เพราะเคยทำงานกับสโมสรใหญ่ในอิตาลี และไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสารเพราะตอนที่อยู่ แอต.มาดริด เขาก็เรียนภาษาควบคู่ไปกับศาสตร์ด้านโค้ชจนสามารถสื่อสารได้ถึง 5 ภาษาไม่ว่าจะเป็น สเปน, โปรตุเกส, อังกฤษ, อิตาลี และ ฝรั่งเศส

เรียกได้ว่า การ์ลอส เกสต้า ที่กลายเป็นกุนซืออายุน้อยสุดในเซเรีย อา และ 5 ลีกใหญ่ยุโรป ไม่ได้รับงานคุม ปาร์ม่า โดยไม่มีอะไรเป็นพื้นฐานรองรับแม้เป็นงานคุมทีมชุดใหญ่ครั้งแรก

เขามีอาวุธในมืออยู่แล้ว และซุ่มลับคมตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ และตอนนี้ได้เวลาชักอาวุธออกมาให้ทุกคนได้เห็นพร้อมกันแล้ว


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด