'MLS' พายุลูกใหม่แรงเกินต้าน

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
จากอะคาเดมีสู่แชมเปี้ยนส์ ลีก ชีวิตของ 'ไมลส์ ลูอิส-สเกลลี่' ในวัยเพียง 18 ปี เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเหมือนพายุลูกใหญ่พัดโหมกระหน่ำไม่ทันตั้งตัว

เอมี่ ลอว์เรนซ์ นักข่าวสาย อาร์เซน่อล แห่ง ดิ แอธเลติก เปรียบเปรยเส้นทางของ ลูอิส-สเกลลี่ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาว่าเหมือน "Whirlwind" หรือ พายุหมุนที่เร็ว แรง และเปลี่ยนแปลงชีวิตไปอย่างมาก

ไม่บ่อยนักที่นักเตะคนหนึ่งจะได้ลงเล่นทั้งในเกมรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี และเกมรอบก่อนรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เบร์นาเบวในฤดูกาลเดียวกัน หรือได้เล่นทั้งในทีมชาติอังกฤษ ชุดอายุไม่เกิน 19 และทีมชุดใหญ่ในการแข่งขันระดับฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก

ฤดูกาล 2024/25 สำหรับ ลูอิส-สเกลลี่ เต็มไปด้วยความทรงจำและประสบการณ์ครั้งแรกมากมายไม่ว่าจะเป็นได้ใบเหลืองตั้งแต่ยังไม่ประเดิมสนาม , ลงเล่นชุดใหญ่ครั้งแรก , ออกสตาร์ตตัวจริง , ยิงประตูแรกในวันถล่ม แมนฯ ซิตี้ , ประเดิมเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก , สัมผัสนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ , ใบแดงแรก , ใบแดงที่ถูกยกเลิก , เผชิญหน้ากับ เรอัล มาดริด และ เปแอสเช ในรอบน็อกเอาต์แชมเปี้ยนส์ ลีก , ติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ และยิงประตูได้ทันทีตั้งแต่ 20 นาทีแรกในเกมเปิดตัว...ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาไม่นาน  

จากคนที่ไม่เคยลงเล่นชุดใหญ่มาก่อน ลูอิส-เกลลี่ จบฤดูกาลด้วยการลงสนามรวม 39 นัด และมีสถิติดวลตัวต่อตัวชนะมากสุดในบรรดาผู้เล่นฟูลแบ็กของพรีเมียร์ลีกที่จำนวน 73 เปอร์เซ็นต์


ความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทำให้การต่อสัญญาใหม่ของ ลูอิส-สเกลลี่ กลายเป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับ อาร์เซน่อล ทั้งเพื่อตอบแทนพัฒนาการอันยอดเยี่ยม และเพื่อกันท่าทีมอื่นที่กำลังจับตามอง

ลูอิส-สเกลลี่ อยู่กับ อาร์เซน่อล มาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เป็นหนึ่งในนักเตะที่สะท้อนแสงแห่งความหวังจากรั้ว เฮล เอนด์ ศูนย์ฝึกเยาวชนสโมสรที่ก่อนหน้านี้ เด็กทุกคนในทีมต่างยกให้ บูคาโย่ ซาก้า เป็นแบบอย่างของความสำเร็จ 

แต่ตอนนี้ พวกเขามีไอดอลอีกคนที่พิสูจน์ให้เห็นว่า การก้าวสู่ทีมชุดใหญ่คือเรื่องที่เป็นไปได้ ทั้งที่ไม่กี่เดือนก่อนเขายังเล่นอยู่ในทีมเยาวชนเหมือนกัน และอยู่ในช่วงวัยของการพัฒนา

อาร์เซน่อล ประสบความสำเร็จในการต่อสัญญาใหม่กับหนึ่งในดาวรุ่งที่พุ่งแรงที่สุดแห่งยุค และมีชื่อลุ้นรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอร่วมกับ อีธาน วาเนรี่ อีกหนึ่งความหวังจากเฮล เอนด์ (ประกาศผลวันที่ 19 สิงหาคม 2025)

ในวันประกาศต่อสัญญาที่เซ็นกันยาวถึงปี 2030 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ชื่อของ ไมลส์ ลูอิส-สเกลลี่ ยังปรากฏอยู่ในหน้าทีมเยาวชนของสโมสร แม้ในความเป็นจริงแล้วเขาได้กลายเป็นตัวหลักของทีมทั้งในพรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่


เจมส์ แม็คนิโคลัส นักข่าวอีกรายของ ดิ แอธเลติก เคยกล่าวถึงผลงานของ ลูอิส-สเกลลี่ ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เรอัล มาดริด ว่า "เขาเพิ่งเล่นฟุตบอลชุดใหญ่มาแค่ราวๆ 30 นัด และไม่เคยถูกปล่อยยืมหรือมีประสบการณ์ในเกมผู้ใหญ่มาก่อนฤดูกาลนี้เลย แต่เขากลับไปยืนสู้กับ เรอัล มาดริด สู้กับเหล่านักเตะที่เขาเคยมองเป็นไอดอล และเขาก็เล่นได้อย่างมั่นใจแบบไม่มีอะไรต้องกลัว มันน่าเหลือเชื่อมาก"

"เขามีศักยภาพในการเปลี่ยนเกมในวัยที่ 'ไม่น่าจะทำได้' เหมือนอย่างที่ จู๊ดเบลลิงแฮม ทำที่ มาดริด หรือ เวย์น รูนีย์ กับเชส ฟาเบรกาส เคยทำมาแล้ว ซึ่งทั้งหมดนั้น มันไม่ได้เกิดจากพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่มันมาจากบุคลิกภายในที่แข็งแกร่ง และความเชื่อมั่นในตัวเองอย่างเต็มพิกัด"

"แน่นอนว่ามันอาจเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ว่าเขาจะไปได้ไกลแค่ไหน แต่สิ่งที่เขาทำอยู่ตอนนี้คือสิ่งที่ 'ไม่ธรรมดา' อย่างแท้จริง"

ลูอิส-สเกลลี่ ไม่ใช่นักเตะที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ เขายังมีรายละเอียดในเกมที่ต้องขัดเกลาเพิ่มเติม ซึ่งนักเตะระดับท็อปทุกคนต่างต้องทำไปตลอดอาชีพ แต่โดยรวมแล้ว ผลงานของเขานั้นยอดเยี่ยมนับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ เขาแสดงให้เห็นถึงความกล้า และความมั่นใจในการเล่น และเหนือกว่าสิ่งอื่นใดคือ ความภาคภูมิใจในการสวมเสื้อสโมสร


การก้าวกระโดดในอาชีพในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ถือว่าน่าทึ่ง เขาโดนใบเหลืองก่อนลงสนามในเกมเดบิวต์เจอ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งในมุมมองแฟนพันธุ์แท้ของทีมต่างมองเขาเป็น "ขวัญใจตัวจริง" ตั้งแต่ก้าวแรก และตอกย้ำความขัดเจนนี้ในทุกครั้งที่ลงสนาม 

ลูอิส-เกลลี่ กลายเป็นจุดสนใจตั้งแต่ปรากฏตัวในวงการ ทั้งด้วยฝีเท้าอันเกินวัย และจากการตีความภายนอกเกี่ยวกับบุคลิกที่บิดเบือนโดยสื่อบางแห่ง ซึ่งไม่เป็นธรรมกับนักเตะอายุ 18 ปี 

เขาเป็นคนมีคาแร็กเตอร์ และไม่กลัวที่จะแสดงมันออกมา แต่ในโลกยุคปัจจุบันที่ "ความคิดเห็นแรงมาก่อน ความละเอียดตามมาทีหลัง" การเป็นเป้าโจมตีในชั่วพริบตานั้นไม่ใช่เรื่องแปลก

แต่โชคดีที่เขามีครอบครัวที่เข้าใจและสนับสนุน มีคนรอบข้างที่เป็นกำลังใจอยู่ตลอด และโดยพื้นฐานแล้วเขาเป็นคนที่ฉลาด มีวิธีคิดแบบมืออาชีพทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ 

เช่นเดียวกับนักเตะระดับท็อปทั่วไป ลูอิส-สเกลลี่ แทบไม่มีวันหยุดช่วงซัมเมอร์ หลังเสร็จภารกิจกับ อาร์เซน่อล เขาลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษในเกมกระชับมิตรกับเซเนกัลเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน และจะเข้าร่วมพรี-ซีซั่นกับทีมในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 

หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน เขาจะลงเล่นอย่างต่อเนื่องทั้งให้สโมสรและทีมชาติจนถึงฟุตบอลโลก 2026 ในกลางปีหน้า และจากนั้นก็กลับมาลุยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2026/27 ต่อทันที ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในขณะที่อายุของเขายังเป็นเพียง "วัยรุ่น"


ฤดูกาล 2025/26 ที่กำลังมาถึงจะเป็นฤดูกาลเต็มฤดูกาลแรกในฐานะนักเตะอาชีพ เป้าหมายต่อจากนี้คือ ความสม่ำเสมอ ความมีวุฒิภาวะที่มากขึ้น การรักษาระดับการเล่น ความฟิต และสมาธิ

แม้แต่ตัวของ ลูอิส-สเกลลี่ ที่มีความมั่นใจและทะเยอทะยาน ก็คงไม่คาดคิดว่าทุกอย่างจะก้าวไปรวดเร็วขนาดนี้ มันเหมือนพายุหมุนอย่างที่ถูกเปรียบเปรยเอาไว้จริงๆ 

พายุไม่ใช่แค่ภัยธรรมชาติ แต่มันคือการเริ่มต้นใหม่ เหมือนกับชีวิตของ ลูอิส-สเกลลี่ ที่เปลี่ยนไปในพริบตา และเมื่อพายุได้ก่อตัวแล้ว มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด