โยเคเรส กับเสียงเชียร์แรกที่เอมิเรตส์

แม้จะพ่ายให้กับ บียาร์เรอัล 2-3 ในเกมกระชับมิตรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา แต่แฟนบอลที่เฝ้ารอ "หน้าเป้า" ตัวจริงเสียงจริงมานาน ต่างก็พร้อมใจต้อนรับสมาชิกใหม่ของทีม "วิคตอร์ โยเคเรส" กันอย่างคึกคัก
โยเคเรส ได้ออกสตาร์ทตัวจริงนัดแรกในสีเสื้อปืนใหญ่ และเป็นการลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลในเอมิเรตส์เป็นครั้งแรก หลังจากประเดิมสนามในฐานะสำรองช่วงท้ายเกมที่พบ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่ฮ่องกง
เพียงไม่กี่วินาทีหลังเสียงนกหวีดเริ่มเกม แฟนบอลก็ได้เห็นเค้าลางของบางสิ่งที่ยืนยันว่าความคาดหวังที่มีต่อดาวยิงคนใหม่ไม่ใช่เรื่องลมๆ แล้งๆ
เกมยังไม่ทันได้เซ็ตตัวดี หอกทีมชาติสวีเดนก็ฉีกหนีเข้าเขตโทษฝั่ง บียาร์เรอัลทั นที แม้ลูกเปิดตัดกลับของเขาจะถูกเคลียร์ทิ้ง แต่จังหวะนี้ก็เป็นเหมือนภาพตัวอย่างของสิ่งที่แฟนๆ จะได้เห็นในฤดูกาลใหม่นี้ และอาจต่อเนื่องไปอีกหลายปี
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง ยังมีหลายจังหวะที่บ่งชี้ว่า การประสานงานระหว่าง โยเคเรส กับทีมชุดนี้ยังต้องการเวลาในการจูน
"เขาเพิ่งอยู่กับเราแค่ประมาณสัปดาห์เดียวเท่านั้น" มิเกล อาร์เตต้า กล่าวหลังเกม "แต่ผมก็เห็นอะไรหลายอย่างจากเขา ทั้งทัศนคติและความมุ่งมั่น โดยเฉพาะเวลาที่เขาโจมตีพื้นที่บางจุด"
การเล่นเกมรุกของ อาร์เซน่อล มีความลังลงไม่น้อยในครึ่งแรก ตัวอย่างหนึ่งคือจังหวะสวนกลับที่ผู้รักษาประตู ดาบิด ราย่า ขว้างบอลให้ ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ ขณะที่ โยเคเรส วิ่งทำทางไปให้แล้ว แต่แบ็กซ้ายดาวรุ่งกลับเลือกส่งบอลคืนหลัง
จากนั้นไม่นาน ราย่า โยนบอลให้ ลูอิส-สเกลลี่ อีกครั้ง คราวนี้เขารอจังหวะได้ดีขึ้น เกมรุกของทีมขยับขึ้นหน้าได้ และแบ็กดาวรุ่งก็แทงทะลุช่องให้ โยเคเรส ได้หลุดเข้าไปโชว์ลีลาพลิ้วหลบกองหลังสองคน ก่อนจะเปิดตัดกลับอีกครั้ง แต่ยังขาดผู้เล่นวิ่งเติมจากแผงมิดฟิลด์ จังหวะนี้เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนบอลได้พอสมควร
การเปิดบอลจากด้านข้างของเพื่อนร่วมทีมยังไม่เข้าเป้าไปถึง โยเคเรส มากนัก และมีเพียงเกมรุกฝั่งขวาที่พอจะคุกคามแนวรับ บียาร์เรอัล ได้ ส่วนฝั่งซ้ายยังมีเครื่องหมายคำถามกับการเล่นของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และนั่นทำให้ไม่น่าแปลกใจที่ อาร์เซน่อล มีข่าวกับผู้เล่นคนใหม่ที่เล่นในพื้นที่นี้ได้
ช่วงท้ายครึ่งแรก โยเคเรส ต้องถ่างออกมาล้วงบอลนอกเขตโทษฝั่งซ้ายเอง ส่วนจังหวะสุดท้ายก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง เขามีโอกาสจะแจ้งสุดจากการจ่ายให้ของ มิเกล เมรีโน่ ที่ได้สับด้วยขวาติดเซฟผู้รักษาประตู
จากฟอร์มเมื่อคืนที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่า วิคตอร์ โยเคเรส มีคุณสมบัติบางอย่างที่ อาร์เซน่อล ได้ประโยชน์แน่นอน แต่คำถามสำคัญคือ จะใช้อย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ผลงานโดยรวมของทีมในปรีซีซั่นยังลุ่มๆ ดอนๆ พวกเขาเสียประตูจากความผิดพลาดในแนวรับจนแพ้ สเปอร์ส 0-1 ในฮ่องกงเมื่อสัปดาห์ก่อน และในเกมกับ บียาร์เรอัล อาร์เตต้า ก็ยอมรับว่า "เรายังดูไร้เดียงสา โดยเฉพาะในวิธีที่เราป้องกันพื้นที่เปิด"
มาร์ติน ซูบีเมนดี้ และ อีธาน วาเนรี่ โดดเด่นในแผงมิดฟิลด์ ส่วนหนึ่งเพราะกล้าเล่นตามสัญชาตญาณ ซูบีเมนดี้ มีทักษะในการจ่ายบอลไปข้างหน้าเสมอ ส่วน วาเนรี่ ได้ลงตัวจริง 3 จาก 4 นัดในปรีซีซั่น และสร้างความประทับใจด้วยการเล่นนอกเขตโทษ เช่น การแตะขาแล้วเร่งสปีด และจ่ายตัดหลังแนวรับ พร้อมพัฒนาการในการเล่นเกมรับที่ดีขึ้นด้วย
ความไม่แน่นอนในฟอร์มของทีมส่วนหนึ่งมาจากการจัดตัวของ อาร์เตต้า ในเกมอุ่นเครื่องที่มักจะเป็นการผสมผสานระหว่างตัวหลักและผู้เล่นสำรอง
อย่างเช่น แผงกลางตัวจริงที่ประกอบด้วย ซูบีเมนดี้, โอเดการ์ด และ ไรซ์ ยังไม่เคยได้ลงตัวจริงพร้อมกันเลย แม้จะเคยมีช่วงเวลาที่อยู่ในสนามพร้อมกันระหว่างเกมกับ เอซี มิลาน ที่สิงคโปร์ แต่ก็เกิดขึ้นหลังมีการเปลี่ยนตัว
เกมนี้เองก็เพิ่งได้เห็น กาเบรียล มากัลเญส กลับมาลงเล่นเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เจ็บแฮมสตริงเมื่อเดือนเมษายน
ช่วงท้ายเกม อาร์เตต้า ยังส่ง โนนี่ มาดูเอเก้ ปีกซ้ายตัวใหม่ลงสนาม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่าเขายังอยู่ในช่วงทดลองแผนและระบบ
"โนนี่เล่นได้ทั้งซ้ายและขวาแบบสบายมาก เราต้องการนักเตะที่เท้าถนัดด้านตรงข้าม (เช่น ซ้ายเล่นขวา) เพื่อเพิ่มทางเลือกในเกมรุก แต่ถ้าเราต้องการเล่นแบบธรรมชาติ (เท้าซ้ายเล่นฝั่งซ้าย) เขาก็ให้คำตอบนั้นได้เหมือนกัน"
ขณะที่ บีบีซี กล่าวถึงผลงานของ วิคตอร์ เยอเคเรส ว่า "แม้ผลการแข่งขันจะไม่เป็นใจ แต่ อาร์เซน่อล ก็ได้เห็นสิ่งที่ต้องการจาก วิคตอร์ เยอเคเรส ในเกมแรกทั้งการเคลื่อนที่อย่างฉลาด การหาพื้นที่ในกรอบเขตโทษ และพลังงานที่เขาแสดงออกมา ล้วนเป็นสัญญาณบวก
"การประเดิมสนามต่อหน้าแฟนบอลในบ้าน อาจยังไม่มีประตูให้ฉลอง แต่ก็เป็นก้าวแรกที่สำคัญสำหรับการสร้างความเข้าใจและจังหวะร่วมกับเพื่อนร่วมทีม"
ด้วยนักเตะตัวหลักในทีมที่เริ่มกลับมาทีละคน เกมสุดท้ายของปรีซีซั่นกับ แอธเลติก บิลเบา ในวันเสาร์นี้จึงน่าจับตามอง
อาร์เตต้า หวังว่า ไค ฮาแวร์ตซ์, ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ และ เลอันโดร ทรอสซาร์ จะหายเจ็บทันสำหรับเกมนี้ และเชื่อว่ามีโอกาสที่เขาจะได้เห็น "ทีมชุดที่ใกล้เคียงกับตัวจริงที่สุด" ก่อนที่ฤดูกาลพรีเมียร์ลีกจะเปิดฉากอย่างจริงจังในเกมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคมนี้