ปิดท้ายได้ปังก่อนบุกรังผี

วิคตอร์ โยเคเรส ยิงประตูแรกได้สำเร็จ จากจังหวะเปิดบอลสุดเฉียบขาดของ มาร์ติน ซูบีเมนดี้ แข้งใหม่อีกราย ส่วนอีกสองประตูได้จาก บูคาโย่ ซาก้า และ ไค ฮาแวร์ตซ์ ลงสำรองซัดปิดกล่อง
หลังจบเกมยังมีการดวลจุดโทษ และเป็น ซูบีเมนดี้ ที่ยิงประตูตัดสินให้ทีมชนะ 6-5 คว้าแชมป์เอมิเรตส์ คัพ ไปครองอีกครั้ง
โปรแกรมต่อไปเริ่มต้นของจริงในนัดเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีกที่ต้องยกพลไปเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม
นอกจากชัยชนะสวยงามแล้ว อาร์เซน่อล ได้เรียกความมั่นใจอย่างเต็มที่จากชัยชนะนัดนี้ และพร้อมยิ่งขึ้นกับการยกพลบุกรังปีศาจแดง
∎ โยเคเรส นับหนึ่ง
ตอนที่โฆษกสนามเรียกชื่อขุนพลของ อาร์เซน่อล ก่อนเริ่มเกม เสียงเฮที่ดังกระหึ่มที่สุดเป็นไปตามคาดคือ วิคตอร์ โยเคเรส ดาวยิงคนใหม่ที่แฟนบอลคาดหวังว่าจะเป็นจิ๊กซอว์ล่าประตูพาทีมล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นหน้า
หลังจากออกสตาร์ตตัวจริงครั้งแรกในเกมกับ บียาร์เรอัล เมื่อกลางสัปดาห์ โยเคเรส ก็ใช้เวลาไม่นานนักในการปลดล็อกประตูแรกในสีเสื้อปืนใหญ่
หัวหอกเจ้าของค่าตัว 55 ล้านปอนด์ที่อาจเพิ่มขึ้นเป็น 63.5 ล้านปอนด์ มีโอกาสจังหวะแรกในนาที 21 ที่ยิงโดนไม่ดีนักเข้าซอง อูไน ซีมอน รับได้สบาย แต่โอกาสครั้งถัดมาจบด้วยการโหม่งสุดเฉียบขาด เช่นเดียวกับลูกเปิดอันยอดเยี่ยมของ ซูบีเมนดี้
เสียงเฮลั่นสนามก็ดังขึ้นทันทีหลังลูกบอลตุงตาข่าย และแน่นอน โยเคเรส จัดท่าดีใจประจำตัวมอบให้กับแฟนบอล
ในครึ่งหลัง โยเคเรส เกือบบวกอีกลูกจากการพุ่งโขกลูกเปิดของ โนนี่ มาดูเอเก้ แต่บอลติดปลายมือ ซีมอน ก่อนชนเสาน่าเสียดาย
นอกเหนือจากประตูแรกแล้ว ฟอร์มโดยรวมของดาวยิงป้ายแดงยังน่าประทับใจ เขาเล่นเข้าขากับเพื่อนร่วมทีมใหม่ได้ดี โดยเฉพาะจังหวะเชื่อมเกมและการเคลื่อนที่เปิดช่อง
อาร์เตต้า ชื่นชมว่า "ผมคิดว่าทุกอย่างที่เขาทำ การเคลื่อนที่ การจับจังหวะออกวิ่ง การคาดการณ์เพื่อเคลื่อนที่ครั้งต่อไป พื้นที่ว่าวางอยู่ตรงไหน และบอลจะตกตรงไหน นั่นคือสัญชาตญาณที่เขามี และเป็นเหตุผลที่เขายิงประตูได้มากมายในช่วง 2-3 ฤดูกาลหลังที่ผ่านมา"
"มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เขามองหาประตูอยู่ตลอดเวลา เขาสามารถตรึงเซ็นเตอร์ได้ทั้งคู่ ถ้าปล่อยให้เขาเจอ 1 ต่อ 1 กองหลังคู่แข่งพังแน่ เขาสร้างพื้นที่ให้เพื่อนเล่นได้อีกมาก ประตูแรกมันสำคัญมาก และเขาก็ทำได้ดีทีเดียว"
∎ เคมีเริ่มชัดกับแผงกองกลางที่รอคอย
แฟนปืนใหญ่รอกันมานาน และในที่สุดก็ได้เห็นไลน์อัพสามกองกลางชุดใหม่ "โอเดการ์ด-ซูบีเมนดี้-ไรซ์" ได้ออกสตาร์ตร่วมกัน
แม้เคยลงสนามพร้อมกันมาบ้างในเกมปรีซีซั่นก่อนหน้านี้ แต่แมตช์นี้คือการเล่นร่วมกันตั้งแต่เริ่มเป็นครั้งแรก และผลลัพธ์ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
โอเดการ์ด ยังยืนในพื้นที่ถนัดฝั่งขวาเป็นหลัก แต่ประตูของ ซาก้า ก็มาจากจังหวะที่เขากระดกบอลเร็วจากกลางสนามก่อนจบด้วยการยิงประตู
แต่จังหวะที่น่าสนใจที่สุดคือการประสานงานระหว่าง ซูบีเมนดี้ กับ ไรซ์ ซึ่งเล่นสลับตำแหน่งกันได้อย่างยืดหยุ่น สามารถคุมจังหวะเกมและขับเคลื่อนการเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซูบีเมนดี้ เริ่มเกมในบทบาทเบอร์ 6 ตัวลึก แต่บางช่วง ไรซ์ ก็รับบทบาทนั้นแทนได้ คอยสลับกันขึ้น-ลงอย่างเป็นจังหวะทำให้แดนกลางไหลลื่นยิ่งขึ้น
ไรซ์ เด่นชัดมากกับการจ่ายบอลยาวขึ้นหน้าให้ ซาก้า หลุดหลายครั้ง เพิ่มความเร็วเกมรุกได้ทันตา ส่วน ซูบีเมนดี้ เนียนกริบทุกจังหวะทั้งรุกและรับ โดยเฉพาะการจ่ายบอลสั้นที่เร็วและแม่น
กองกลางทีมชาติสเปนเล่นเหมือนอยู่ อาร์เซน่อล มาหลายปี และจังหวะแอสซิสต์สุดงามให้ โยเคเรส ยิ่งตอกย้ำคุณภาพของแข้งใหม่จาก เรอัล โซเซียดาด แถมเกือบได้อีกแอสซิสต์จากกาตอกส้นให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ยิงติดเซฟ
อาร์เตต้า กล่าวถึงแดนกลางของทีมว่า "เมื่อดูจากคุณภาพและวิธีที่พวกเขาเสริมจุดแข็งให้กันและกัน เราได้เห็นพัฒนาการอีกขั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมจะได้ประโยชน์อย่างมาก เพราะมันทำให้เราเล่นได้หลากหลายและคาดเดายากขึ้น รวมถึงมีความอันตรายมากขึ้น โดยเฉพาะจากตำแหน่งด้านในของสนาม"
เคมีที่เข้ากันระหว่าง ไรซ์ กับ ซูบีเมนดี้ ยังทำให้ฟูลแบ็กไม่ต้องปรับบทบาทเป็นอินเวิร์ตเข้ามาตรงกลาง แต่สามารถลุยขึ้นหน้าเล่นเกมรุกได้อย่างไม่ต้องกังวลมากนัก ซึ่งคนที่ได้ประโยชน์มากสุด และทำผลงานโดดเด่นไม่แพ้กันคือ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่
ฟอร์มโดยรวมของทั้งสามประสานแดนกลางคือ สัญญาณบวกชัดเจนก่อนเกมบิ๊กแมตช์ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด และเมื่อรวมผลงานในปรีซีซั่นของดาวรุ่ง อีธาน เอ็นวาเนรี เข้าไปอีก อาร์เตต้า ก็มีตัวเลือกในแดนกลางที่น่าสนใจไม่น้อย
∎ เกมรุกทำเร็วทำไวได้ผล
ตลอดปรีซีซั่นที่ผ่านมา อาร์เซน่อล พยายามฉีกสไตล์เดิมๆ ด้วยการเล่นเกมรุกที่ตรงจุดและเร็วขึ้น จุดนี้เริ่มเห็นได้ตั้งแต่เกมกับ สเปอร์ส ที่ฮ่องกง และชัดขึ้นอีกครั้งในเกมกับ บิลเบา
ซาก้า ได้บอลวางยาวทะลุแนวรับถึง 2 ครั้งตั้งแต่ต้นเกม เขาพักบอลลงได้เนียนกริบก่อนลุยใส่ เลกูเอ้ แบบตัวต่อตัวจนทำให้แบ็กชาวสเปนเสียคน
ในหลายปีที่ผ่านมา อาร์เซน่อล มักเล่นช้าและต่อบอลหลายจังหวะจนเสียโอกาส แต่ฤดูกาลนี้ดูเหมือนแนวทางจะเปลี่ยน
ประตูของ ซาก้า ก็เกิดจากเปลี่ยนรับเป็นรุกที่รวดเร็ว แม่นยำ โยเคเรส โหม่งชงให้ โอเดการ์ด ดีดขึ้นหน้าฉีกแนวรับไปถึง มาร์ติเนลลี่ ก่อนสะกิดต่อให้ ซาก้าแปโล่งๆ
โยเคเรส เองก็สร้างความตื่นเต้นในจังหวะสวนกลับ ด้วยสปีดและพละกำลังในการวิ่ง แม้ยังไม่คมทุกครั้งแต่ก็มีแววให้เห็น
ท้ายเกม ซาก้า โหม่งเช็ดบอลขึ้นหน้าให้ ฮาแวร์ตซ์ สับสปีดจากหน้าเขตโทษตัวเองวิ่งแซงแนวรับคู่แข่ง ก่อนพาบอลเข้าเขตโทษแล้วซัดเข้าไปสุดเฉียบขาด
อาร์เตต้า พูดถึงสไตล์การเล่นแบบใหม่นี้ว่า "การมีอาวุธโจมตีจากทุกตำแหน่งในสนามคือสิ่งที่เราต้องพัฒนาให้ต่อเนื่องไม่ว่าจะมาจาก ดาบิด ราย่า จากแนวรับ หรือมิดฟิลด์ เราต้องทำให้คู่แข่งรู้สึกว่าเราสามารถโจมตีพวกเขาได้ทุกเวลา ซึ่งนั่นจะช่วยให้ผู้เล่นคนอื่นมีพื้นที่เล่นมากขึ้น"
สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในเกมกับ บิลเบา เป็นการปิดท้ายปรีซีซั่นของ อาร์เซน่อล ได้อย่างมั่นใจ แข้งหน้าใหม่เริ่มปรับตัวและแสดงศักยภาพให้เห็น เกมรุกเฉียบคมขึ้นและแดนกลางที่เริ่มเข้าที่
นัดเปิดฤดูกาลกับ แมนฯ ยูไนเต็ด จึงน่าจะเป็นบททดสอบสำคัญของทีมในยุคใหม่ที่แฟนบอลตั้งตาคอยอย่างยิ่ง