"ป๋าแบร์" กับ 6 เดือนสุดปังชุบชีวิตปืน

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลังการอำลาสโมสรของ เอดู กาสปาร์ เมื่อปลายปีที่แล้ว แฟนบอล อาร์เซน่อล กังวลใจไม่น้อยว่าจะได้ใครมารับช่วงต่อในตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬา และจะสามารถทำงานได้ดีแค่ไหน

สโมสรเลือก "อันเดรีย แบร์ต้า" ผู้บริหารชาวอิตาเลียนที่ทำงานกับ แอตเลติโก มาดริด มานาน 12 ปี

แบร์ต้า มีภารกิจรออยู่มากมายในการรับงานต่อจาก เอดู เพราะ อาร์เซน่อล กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านอีกครั้ง  

อดีตผู้บริหารตราหมีได้รับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ของสโมสรในเดือนมีนาคม และหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ อาร์เซน่อล ก็หมดลุ้นแชมป์ทั้งในพรีเมียร์ลีกและยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

การปรับทีมขุมกำลังครั้งใหญ่จึงต้องเกิดขึ้น เนื่องจากสโมสรมือเปล่าไร้แชมป์เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน

อาร์เซน่อล ถูกจับตาอย่างมากในตลาดนักเตะซัมเมอร์ 2025 โดยเฉพาะการเสริมทัพเพื่อยกระดับให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นและดีพอสำหรับการคว้าแชมป์รายการสำคัญให้ได้ 

นั่นคือภารกิจสุดท้าทายของ อันเดรีย แบร์ต้า ในฐานะผู้อำนวยการกีฬา และ มิเกล อาร์เตต้า ในฐานะกุนซือที่ต้องประสานงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงขุมกำลังของทีม

และอีกงานที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การต่อสัญญานักเตะแกนหลักออกไปให้ได้มากที่สุด

ในส่วนของการเสริมทัพมีสองตำแหน่งที่จำเป็นอย่างยิ่งคือ "กองหน้าตัวเป้า" ที่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นจุดอ่อนทำให้ทีมพลาดชัยชนะในนัดสำคัญ และส่งผลถึงการพลาดแชมป์ตลอดสามฤดูกาลที่ผ่านมา 

ขณะที่อีกตำแหน่งคือ ตัวแทนของ โธมัส ปาร์เตย์ ที่สโมสรตัดสินใจแยกทางหลังสัญญาสิ้นสุดลงในช่วงซัมเมอร์


ผู้เล่นขาเข้า-ขาออกในตลาดซัมเมอร์

แบร์ต้า เดินหน้าทำงานอย่างมุ่งมั่น และสามารถดึงผู้เล่นใหม่ 6 คนแรกมาร่วมทีมได้ก่อนสิ้นเดือนกรกฎาคมซึ่งถือว่าปิดดีลได้รวดเร็วมาก

2 จาก 6 ดีลแรกคือาการได้ มาร์ติน ซูบีเมนดี้ กองกลางทีมชาติสเปนมาแทน ปาร์เตย์ ส่วนหน้าเป้าที่แฟนบอลโหยหาจบที่ วิคตอร์ โยเคเรส ที่ระเบิดฟอร์มเปรี้ยงปร้างกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในสองฤดูกาลหลังสุด

ส่วนอีก 4 รายเป็นการเสริมทัพเพื่อเพิ่มขุมกำลังเชิงลึกให้มีคุณภาพขึ้นทั้ง เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูที่เข้ามาเป็นมือสองให้กับ ดาบิด ราย่า

คริสเตียน นอร์การ์ด กัปตันทีม เบรนท์ฟอร์ด เข้ามาเป็นอะไหล่ในตำแหน่งกลางรับแทน จอร์จินโญ่ 

โนนี่ มาดูเอเก้ ปีกจาก เชลซี ที่มาแบบถูกตั้งคำถามไม่น้อย แต่ในช่วงต้นฤดูกาลก็ได้คำตอบไปแล้วว่าเขาสามารถช่วยทีมได้จริงในช่วงที่ บูคาโย่ ซาก้า บาดเจ็บ 

เช่นเดียวกับ คริสเตียน มอสเกร่า เซนเตอร์หนุ่มจาก บาเลนเซีย ที่ได้โอกาสเยอะทีเดียวเนื่องจาก วิลเลียม ซาลีบา บาดเจ็บ และก็ทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง

หลังปิดดีล 6 คนแรก งานของ แบร์ต้า คือพยายามเคลียร์ผู้เล่นส่วนเกินออกจากทีมโดยที่ย้ายออกไปแล้วแน่นอนคือกลุ่มผู้เล่นหมดสัญญาทั้ง คีแรน เทียร์นีย์ และ โธมัส ปาร์เตย์ รวมถึงเจรจายกเลิกสัญญากับ จอร์จินโญ่ และ ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ

ในระหว่างที่พยายามเคลียร์ผู้เล่นนอกแผนออกไปนั้น อาร์เซน่อล ก็สบโอกาสคว้า เอเบเรชี่ เอเซ่ แข้งตัวเก่งของ คริสตัล พาเลซ มาร่วมทีม เนื่องจากนักเตะลังเลใจที่จะย้ายไป สเปอร์ส และติดต่อหา อาร์เตต้า เพื่ออยากรู้ว่าจะมีโอกาสย้ายสู่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม หรือไม่


ซาลีบา พร้อมปักหลักร่วมกับ กาเบรียล มากัลเญส ไปยาวๆ

แบร์ต้า ปิดดีลนี้ได้เร็วเช่นกัน และเป็นการย้ายทีมที่หักมุมไม่น้อยเพราะตอนแรกเหมือนว่ากำลังลงเอยกับ สเปอร์ส แต่อีกวันถัดมากลายเป็นเตรียมย้ายร่วมทีม อาร์เซน่อล และจากนั้นอีกวันก็เปิดตัวต่อหน้าแฟนบอลปืนใหญ่ในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

อาร์เซน่อล ส่งท้ายตลาดนักเตะด้วยการดึง ปิเอโร่ อินกาปีเอ้ กองหลังทีมชาติเอกวาดอร์มาร่วมทีม และปล่อยตัว ยาคุบ คีวิออร์ ไปให้ ปอร์โต้

คีวิออร์ ต้องการลงสนามอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาฟอร์มก่อนถึงฟุตบอลโลกในซัมเมอร์ปีหน้า การย้ายทีมของเขาจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าใจได้ และ อาร์เซน่อล ก็อุดช่องว่างนี้ด้วยตัวแทนที่มีศักยภาพอย่าง อินกาปิเอ้ ที่มีดีกรีแชมป์บุนเดสลีกาไร้พ่ายกับทัพห้างยา

สรุปการเสริมทัพของ อาร์เซน่อล ในซัมเมอร์ 2025

1. เกปา อาร์ริซาบาลาก้า จาก เชลซี ค่าตัว 5 ล้านปอนด์ 

2. มาร์ติน ซูบิเมนดี้ จาก เรอัล โซเซียดาด ค่าตัว 55.8 ล้านปอนด์ 

3. คริสเตียน นอร์การ์ด จาก เบรนท์ฟอร์ด ค่าตัว 12 ล้านปอนด์ 

4. โนนี่ มาดูเอเก้ จาก เชลซี ค่าตัว 52 ล้านปอนด์ 

5. คริสเตียน มอสเกร่า จาก บาเลนเซีย ค่าตัว 17 ล้านปอนด์ 

6. วิคตอร์ โยเคเรส จาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ค่าตัว 63.5 ล้านปอนด์ 

7. เอเบเรชี่ เอเซ่ จาก คริสตัล พาเลซ ค่าตัว 67.5 ล้านปอนด์ 

8. ปิเอโร่ อินกาปีเอ้ จาก เลเวอร์คูเซ่น ยืมตัว บวกออปชั่นซื้อขาด 45 ล้านปอนด์


แบร์ต้า ผ่าน 6 เดือนแรกด้วยผลงานยอดเยี่ยม

ส่วนการต่อสัญญานักเตะที่ดำเนินการควบคู่ไปกับการดึงนักเตะใหม่มาร่วมทีม แบร์ต้า ก็สามารถจับแกนหลักขยายสัญญาออกไปได้หลายคน

กาเบรียล มากัลเญส ปราการหลังทีมชาติบราซิลต่อสัญญาใหม่ถึงปี 2029 เมื่อเดือนมิถุนายน และในเดือนเดียวกันนี้ ไมลส์ ลูอิส-สเกลลี่ แบ็กซ้ายดาวรุ่งที่แจ้งเกิดเต็มตัวในฤดูกาลที่แล้ว ก็ต่อสัญญายาวออกไปเช่นกัน

จากนั้นในต้นเดือนสิงหาคมเป็นคิวของ อีธาน วาเนรี่ อีกหนึ่งผลผลิตจากเฮลเอนด์ที่ต่อสัญญาใหม่ออกไปเช่นกัน

นี่คือ 3 คนแรกต่อสัญญาออกไป ขณะที่ วิลเลียม ซาลีบา และ เลอันโดร ทรอสซาร์ ก็มีการตกลงต่อสัญญาใหม่และปรับปรุงสัญญาตามลำดับเป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียงลงสนามอย่างเป็นทางการเท่านั้น

และแน่นอนว่ารายต่อไปคือ บูคาโย่ ซาก้า ที่คงไม่มีปัญหาเช่นกัน

ในกลุ่มผู้เล่นที่ย้ายออกไปช่วงท้ายตลาด หรือเจาะจงชัดเจนเลยคือวันสุดท้ายของตลาดซัมเมอร์ก็สามารถเคลียร์ผู้เล่นส่วนเกินได้ทุกคน 

ฟาบิโอ วิเอร่า, แซมบี้ โลคองก้า, รีสส์ เนลสัน และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ได้ต้นสังกัดใหม่กันถ้วนหน้า ไม่มีใครเหลือตกค้าง

การปล่อยผู้เล่นที่ไม่อยู่ในแผนของ อาร์เตต้า ออกไปได้หมดนับว่าสำคัญไม่แพ้การเสริมทัพเพราะนักเตะจะได้โอกาสลงสนามมากขึ้นกับสโมสรใหม่ และยังเป็นการลดภาระค่าเหนื่อยรวมได้บ้างเล็กน้อย

ฤดูกาลที่แล้ว นักเตะบางรายอยู่กับทีมแต่แทบไม่ได้โอกาสลงเล่นแบบจริงจัง และสโมสรก็ต้องจ่ายค่าเหนื่อยตามปกติ

คีแรน เทียร์นีย์ มีชื่อสำรองไม่ได้ลงเล่น 20 นัด ขณะที่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ก็นั่งข้างสนามเฉยๆ มากถึง 22 นัด

นี่คือความสำคัญในการบริหารจัดการขุมกำลังของผู้เล่นให้พอเหมาะพอดี ผู้เล่นใหม่ถูกเสริมเข้ามา ผู้เล่นเก่าที่ไม่ได้ใช้งานถูกปล่อยออกไป ขณะที่แกนหลักได้รับการขยายสัญญา

อาร์เซน่อล ตอนนี้ถือว่าเป็นทีมที่มีเสถียรภาพเป็นอย่างมาก ขุมกำลังพร้อมสำหรับการไล่ล่าแชมป์ และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาหกเดือนหลังการมาของ อันเดรีย แบร์ต้า

หากถามว่า ใครคือการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของสโมสรในปี 2025 คำตอบอาจไม่ใช่นักเตะ แต่อาจเป็น "ป๋าแบร์" คนนี้แหละ



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด