เรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต

ประตูของ เดแคลน ไรซ์ และจุดโทษของ บูคาโย่ ซาก้า ช่วยให้ทีมเก็บชัยต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนที่แซงชนะ นิวคาสเซิ่ล ในช่วงทดเจ็บ รวมถึงชัยชนะเหนือ โอลิมเปียกอส ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่่อกลางสัปดาห์
นัดนี้น่าสนใจตั้งแต่การจัดตัวที่เน้นเกมรุกมากขึ้นส่ง เอเบเรชี่ เอเซ่ ปั้นเกมตรงกลางร่วมกับ มาร์ติน โอเดการ์ด และใช้ เดแคลน ไรซ์ เล่นตัวรับคนเดียว ส่วน มาร์ติน ซูบีเมนดี้ สลับไปนั่งสำรอง
การเล่นร่วมกันระหว่าง เอเซ่ กับ โอเดการ์ด คือสิ่งที่แฟนบอลหลายคนอยากเห็นว่าทีมจะสามารถสร้างสรรค์จังหวะเกมรุกได้แค่ไหน เกมในบ้านเจอคู่แข่งที่ผลงานเป็นรองคือโอกาสดีในการลองแท็กติกนี้
อย่างไรก็ตาม ไอเดียนี้ยังไม่ทันปรากฎผลลัพธ์อะไรให้เห็นเนื่องจาก โอเดการ์ด โชคร้ายได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง
โอเดการ์ด เจ็บเข่าตั้งแต่นาทีที่ 20 และพยายามฝืนเล่นต่อได้อีกราวสิบนาทีก็ไม่ไหว สุดท้ายต้องเปลี่ยนตัวออกให้ มาร์ติน ซูบีเมนดี้ ลงแทน
ดับเบิ้ลเพลย์เมกเกอร์ "เอเซ่-โอเดการ์ด" จึงยังไม่ได้แสดงศักยภาพออกมามากนัก และเป็นครั้งที่ 3 จาก 7 นัดแรกในลีกฤดูกาลนี้ที่กัปตันทีมบาดเจ็บถูกเปลี่ยนออกตั้งแต่ครึ่งแรก
"ปีนี้เราก็ไม่ค่อยโชคดีกับอาการบาดเจ็บเลย" มิเกล อาร์เตต้า กล่าวถึงอาการของลูกทีม "ตั้งแต่ต้นฤดูกาลเขาก็ยังไม่สมบูรณ์ดีเลย ไม่เจ็บตรงหัวไหล่ก็เจ็บเข่า เราต้องรอดูว่าอาการครั้งนี้จะหนักแค่ไหน เราจะหาทางแก้ไข แต่แน่นอนว่าเขาคือกัปตันและเป็นคนที่ทำให้ทีมมีมิติที่ต่างออกไป โดยเฉพาะในเกมรุก หวังว่าจะไม่หนักมากนัก"
กัปตันโอเดการ์ดบาดเจ็บอีกแล้ว
ในเวลาต่อมา อาร์เซน่อล แถลงการณ์ว่าอัปเดตอาการบาดเจ็บของ โอเดการ์ด โดยยืนยันว่าได้รับบาดเจ็บที่ MCL หรือเอ็นหัวเข่าด้านใน และต้องถอนตัวออกจากแคมป์ทีมชาตินอร์เวย์สำหรับโปรแกรมทีมชาติที่จะถึงนี้ และยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะต้องพักรักษาตัวนานแค่ไหน
อาร์เตต้า เลือกส่ง ซูบีเมนดี้ ลงสนามเพื่อเล่นเกมรับในตำแหน่งหมายเลข 6 และขยับ ไรซ์ ไปเล่นเกมรุกมากขึ้นในบทบาทหมายเลข 8 คอยเล่นหน้าไลน์เกมรับ เวสต์แฮม เช่นเดียวกับ เอเซ่
ถ้าหากเลือกเปลี่ยนตามตำแหน่งเพื่อรักษาเชฟเดิมเอาไว้ อีธาน วาเนรี่ ควรได้ลงแทน โอเดการ์ด แต่ อาร์เตต้า มองว่า ซูบีเมนดี้ น่าจะเหมาะมากกว่ากับสถานการณ์ที่เห็นในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก
"แม้ไม่ใช่สถานการณ์ในฝัน เพราะเรามีแผนชัดเจนในการจัดตัวจริง แต่แผนก็พังหลังจาก โอเดการ์ด เจ็บ แต่ข่าวดีคือ เรามีผู้เล่นที่สามารถลงมาเปลี่ยนเกมได้และยังคงประสิทธิภาพไว้ได้" อาร์เตต้า เผยถึงการปรับแผนหลังเสียกัปตันทีม
"โดยเฉพาะในช่วงที่ เวสต์แฮม พยายามสู้ในแดนกลางและปิดพื้นที่ ซูบีเมนดี้ คือคนช่วยเปิดเกมและควบคุมจังหวะได้ดี พวกเขาเล่นบอลยาวและเน้นเก็บบอลจังหวะสอง เราจึงต้องคุมเกมให้อยู่ในพื้นที่ที่เราต้องการ ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่ตรงนั้นได้อย่างยอดเยี่ยม"
การลงสนามของ ซูบีเมนดี้ ทำให้ อาร์เซน่อล ควบคุมจังหวะการเล่นได้อย่างที่ อาร์เตต้า ต้องการ แถมด้วยออปชั่นพิเศษมีส่วนกับทั้งสองประตู
ซูบีเมนดี้ ทำให้เกมของ อาร์เซ่นอล สมดุลขึ้น
ซูบีเมนดี้ คือคนที่แทงบอลทะลุช่องเข้าเขตโทษให้ เอเซ่ ได้สับเต็มข้อติดเซฟก่อนบอลเด้งเข้าทาง เดแคลน ไรซ์ ได้ซ้ำแปนิ่มๆ เสียบตาข่าย
เมื่อ ซูบีเมนดี้ ลงมาเล่นเกมรับตรงกลาง ไรซ์ ก็ได้ดันเกมรุกเข้าเขตโทษ พาตัวเองไปอยู่ในจุดที่มีโอกาสทำประตู และยิงได้ดีมากๆ กับประตูขึ้นนำของทีม หลังก่อนหน้านี้ เอเซ่ มีโอกาสส้มหล่นที่ง่ายกกว่า แต่ซัดข้ามคานเหลือเชื่อ
ส่วนประตูที่สองก็เป็น ซูบีเมนดี้ ตักบอลโด่งไปให้ ยูร์เรียน ทิมเบอร์ ดึงลงพลิกหนี เอล ฮัดจิ มาลิค ดิยุฟ ที่เหลี่ยมเสียเปรียบจึงกลายเป็นทำฟาวล์จากด้านหลังและเสียจุดโทษทันทีจากการชี้ขาดของ จอห์น บรู๊คส์
วิคตอร์ โยเคเรส อยู่ในสนามด้วย และเป็นคนยิงจุดโทษแรกของทีมในฤดูกาลนี้ตอนเจอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด แต่คราวนี้เป็นมือสังหารตัวจริงอย่าง บูคาโย่ ซาก้า
แม้หลายคนอยากเห็น โยเคเรส รับหน้าที่ยิงจุดโทษเพราะไร้สกอร์มา 5 นัดติด แต่นัดนี้ก็เป็นโอกาสที่พิเศษสำหรับ ซาก้า เพราะเป็นการลงเล่นพรีเมียร์ลีกนัดที่ 200 และมีส่วนร่วมได้ประตู 99 ลูก ดังนั้นจุดโทษเพื่อถึงหลัก 100 ประตูจึงเหมาะสมอย่างยิ่ง
ซาก้า ไม่พลาดซัดผ่าน อัลฟงส์ อาเรโอล่า พร้อมฉลองโมเมนต์สุดพิเศษ ขณะที่ อาร์เตต้า ยกย่องว่า "เมื่อคุณมองตัวเลขแบบนี้ 200 นัดกับ 100 ส่วนร่วมในประตู มันเหลือเชื่อมาก กับอายุของเขา และวิธีที่เขาทำได้ น่าประทับใจสุดๆ นี่แหละคือนักเตะแบบที่เราต้องการเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายของเรา"
ไรซ์ เปิดหัวลูกแรก
สกอร์ 2-0 ในนาที 67 อาจจะยังวางใจไม่ได้มากหากเป็นเกมอื่น แต่เกมนี้ อาร์เซน่อล ควบคุมทุกอย่างได้ค่อนข้างดี ไม่ปล่อยให้ เวสต์แฮม ได้สร้างความอันตรายใดๆ เลย
ย้อนไปสองซีซั่นก่อนหน้านี้ เวสต์แฮม คือตัวแสบที่บุกชนะ อาร์เซน่อล ถึงเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ได้ติดต่อกันในสกอร์ 2-0 และ 1-0
แต่ครั้งนี้ อาร์เซน่อล แก้มือได้ และไม่ปล่อยให้ เวสต์แฮม ได้ลุ้นยิงเข้ากรอบแม้แต่ครั้งเดียวจากโอกาสง้าง 4 ครั้ง
ในสองซีซั่นก่อนที่แพ้คาบ้าน อาร์เซน่อล เคลียร์บอลได้เพียง 9 ครั้งและ 6 ครั้ง แต่นัดล่าสุดสามารถทำได้ถึง 25 ครั้ง
เช่นเดียวกับการเข้าแท็คเกิลคู่แข่งที่ทำได้แม่นยำ เด็ดขาด และชนะมากขึ้น จากเดิมมีเปอร์เซ็นต์ชนะเพียง 35% และ 41.7% ในสองซีซั่นที่ผ่านมา ก็เพิ่มเป็น 63.6%
นี่คือสถิติในเชิงเกมรับที่ อาร์เซน่อล ทำได้ดีขึ้นมากในการเจอกับ เวสต์แฮม รอบนี้ และไม่ปล่อยให้เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีกครั้ง
จริงอยู่ว่า อาร์เซน่อล พลาดโอกาสที่น่าจะเป็นประตูไปหลายครั้งทั้งยิงจ่อๆ ข้ามคาน ชนเสา และยิงติดบล็อกอีกนับไม่ถ้วน แต่เมื่อเกมรับแข็งแกร่งมั่นคง ประตูของ ไรซ์ และ ซาก้า ก็ถือว่าเพียงพอ
ไม่ใช่เกมที่หวือหวาในแง่ผลการแข่งขัน ไม่ใช่เกมที่เอนเตอร์เทนแฟนบอลขั้นสุด แต่เป็นเกมที่กระชับ รัดกุม และเน้นความชัวร์ในการป้องกัน ซึ่งสุดท้ายสามารถคว้าผลการแข่งขันที่ต้องการได้
ซาก้า กดจุดโทษฉลองนัด 200 ในพรีเมียร์ลีก
การเอาชนะ เวสต์แฮม ได้ในนัดล่าสุดก็เท่ากับว่า อาร์เซน่อล สามารถแก้มือทีมที่เคยเสียท่าได้ 3 ทีมติด โดยเริ่มจากบุกชนะ นิวคาสเซิ่ล ทั้งที่เคยแพ้ที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค 3 นัดติด ต่อด้วยเปิดรังชนะ โอลิมเปียกอส ทีมที่เคยบุกชนะถึงเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ได้ตลอด 3 ครั้่งก่อนหน้านี้ และล่าสุดกับ "ขุนค้อน"
"ตอนที่เราเจอกับ นิวคาสเซิ่ล เราบอกกันว่าเราต้องเรียนรู้จากอดีตและบาดแผลที่เคยได้รับในสนามนั้น วันนี้ก็เช่นกัน เราเคยแพ้ เวสต์แฮม สองครั้งก่อนหน้านี้ที่เอมิเรตส์ แต่วันนี้เราชนะ และเป็นชัยชนะที่สมควรได้อย่างแท้จริง" อาร์เตต้า กล่าว
ชัยชนะล่าสุดส่งให้ อาร์เซน่อล ขึ้นนำบนหัวตารางได้สำเร็จเนื่องจาก ลิเวอร์พูล สะดุดแพ้ 2 นัดติด เป็นสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างมากเพราะก่อนเกมเยือน นิวคาสเซิ่ล ทีมของ อาร์เตต้า ยังตามหลังผู้นำถึง 5 คะแนน
อาร์เซน่อล ผ่าน 7 นัดแรกได้ดีทีเดียวเก็บไป 16 คะแนนทั้งที่โปรแกรมหนักเอาเรื่องไปเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, นิวคาสเซิ่ล รวมถึงเกมในบ้านพบ แมนฯ ซิตี้ แถมมีผู้เล่นเจ็บในแทบจะทุกนัด
"เราเจอโปรแกรมที่หนักมากตั้งแต่เปิดฤดูกาล แถมยังมีนักเตะบาดเจ็บหลายคนที่ส่งผลต่อทีม แต่ถึงอย่างนั้น ทีมก็ยังทำผลงานได้ดี เล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยม" อาร์เตต้า กล่าว
"วันนี้เราชนะด้วยความเหนือชั้นแบบสุดๆ โดยไม่เสียประตูเลย ถือเป็นเรื่องดีที่เราได้เข้าสู่ช่วงพักเบรกทีมชาติด้วยสภาพจิตใจแบบนี้"
ลูกทีมของ อาร์เตต้า เคยผิดพลาดถึงขั้นแพ้ เวสต์แฮม คาบ้านและพลาดถึง 2 ครั้งติด แต่วันนี้พวกเขาไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3
นี่ไม่ใช่แค่การชนะในสนาม แต่คือสัญญาณของทีมที่เติบโต เรียนรู้ และไม่ยอมผิดพลาดซ้ำเดิมอีก