พบกันครึ่งทาง

วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม 2568 คอลัมน์ บรรเลงเพลงแข่ง โดย แว่นดำ
288
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
"พบกันตรงครึ่งทางก็แล้วกัน เพราะมันไม่เหนื่อยดี"

จับมือสงบศึกอย่างสันติวิธี

สงครามย่อมๆ ประเด็นปลอกแขนกัปตันทีม ระหว่าง มาร์ก อันเดร แทร์ ชเตเก้น กับต้นสังกัด บาร์เซโลน่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จบลงภายในเวลาอันรวดเร็ว

เราไปไล่เรียงเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ กระทั่งปลายน้ำ กันอีกซักครั้งครับ

29 กรกฎาคม นายทวารชาวเยอรมัน เข้ารับการผ่าตัดแผ่นหลังที่ประเทศฝรั่งเศส และทุกอย่างลุล่วงไปได้ด้วยดี

กระนั้น ปัญหาเรื่องระยะเวลาพักรักษาตัวของแทร์ ชเตเก้นยังคงเป็นปัญหา

ทีมแพทย์สโมสร ระบุว่า ต้องพักมากกว่า 4 เดือน ขณะที่ แทร์ ชเตเก้น มองว่าน้อยกว่านั้น หลังเคยพักแค่ 2 เดือนจากปัญหาเดียวกัน

ความเห็นที่แตกต่าง นำมาสู่การไม่ยอมเซ็นเอกสารทางการแพทย์ของมือกาววัย 33 ปี 

เอกสาร์นี้ สโมสรต้องการส่งไปยัง ลา ลีกา เพื่อขออนุญาตใช้เงินเดือน 80% ของแทร์ ชเตเก้น ในการลงทะเบียนผู้เล่นรายอื่นๆ

เหมือนอย่างที่เคยทำในฤดูกาลที่แล้ว อันนำมาสู่การลงทะเบียน ดานี่ โอลโม่ ที่ย้ายมาจากแอร์เบ ไลป์ซิก ในช่วงซัมเมอร์

หากแต่เมื่อไร้ลายเซ็นจากเจ้าของไข้ เอกสารดังกล่าวย่อมมีปัญหา

ตัดกลับไปที่ชาวคณะ ช่วงเวลาเดียวกัน ขณะทัวร์เอเชีย เมื่อผู้สื่อข่าวยื่นไมค์สอบถามผู้เล่นบาร์เซโลน่า เกี่ยวกับตำแหน่งกัปตันทีม แทบทั้งหมดยังคงให้การสนับสนุน แทร์ ชเตเก้น ไม่ว่าจะเป็น ราฟินญ่า, เฟร็งกี้ เดอ ยอง หรือ เฟร์ราน ตอร์เรส

ความดุเดือด เริ่มต้นจริงจังหลังจบทัวร์ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้


ริบปลอกแขน

5 สิงหาคม มีรายงานว่า นายทวารชาวเยอรมันปฏิเสธลงนามในเอกสารการผ่าตัดของตนเอง ด้วยเหตุผลที่กล่าวข้างต้น

6 สิงหาคม มีกระแสข่าวว่า สโมสรต้องการปลดแทร์ ชเตเก้น จากตำแหน่งกัปตันทีม เพื่อเป็นการลงโทษทางวินัย

7 สิงหาคม สโมสรแถลงการณ์ ปลดแทร์ ชเตเก้นอย่างเป็นทางการ

วันเดียวกัน มีรายงานว่า นายทวารชาวเยอรมัน ไม่สนใจการปลดของสโมสร และแสดงจุดยืนของตนเองชัดเจน พร้อมความเชื่อมั่นว่าได้รับการสนับสนุนจากห้องแต่งตัวเป็นอย่างดีเช่นเดิม

บรรยากาศระหว่างแทร์ ชเตเก้นกับสโมสรเข้าขั้นมาคุ ต่างฝ่ายต่างหัวชนฝา อัตราความรุนแรงระดับ 9 ริกเตอร์ 

นาทีนี้ไม่ใช่แค่รอยร้าว แต่ดูเหมือนถึงจุดแตกหัก!

ไม่มีใครยอมใคร

ท่ามกลางเสียงวิจารณ์อื้ออึง

ชาบี เอร์นานเดซ ตำนานบาร์ซ่าและเจ้านายเก่า เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหาทางออกอย่างสันตวิธี

ซานติอาโก้ กานญีซาเรส อดีตนายทวารทีมชาติสเปน มองว่า แทร์ ชเตเก้น ทำไม่ถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฐานะกัปตันทีม

ขณะที่ฝั่งทีมชาติเยอรมนี ไม่เห็นด้วยกับบาร์เซโลน่า ในการจัดการสถานการณ์ดังกล่าว และมองว่า โหดร้ายเกินไปสำหรับนายทวารมือหนึ่ง


ถอยคนละก้าว

หลัง 1 วันเดือดๆ บรรยากาศคลี่คลายในเวลาอันรวดเร็ว

8 สิงหาคม แทร์ ชเตเก้น แถลงการณ์อย่างเป็นทางการด้วยท่าทีที่อ่อนลง

"ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับผม ทั้งทางร่างกายและจิตใจ สิ่งสำคัญที่สุดของผม คือการได้กลับมาลงสนามและช่วยทีม"

"การตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดได้รับความเห็นชอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและได้รับการอนุมัติจากสโมสร โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องเส้นทางค้าแข้งระยะยาวของผม"

"มีการคาดเดามากมายที่ไม่มีมูลความจริง ผมชอชี้แจงว่า การเซ็นสัญญาและการต่อสัญญาทั้งหมดเสร็จสิ้นก่อนการผ่าตัด มันไม่ยุติธรรมเลยที่จะบอกว่าอาการบาดเจ็บของผมถูกนำไปใช้เพื่อลงทะเบียนคนอื่นๆ "

"ผมปฏิบัติด้วยความเป็นมืออาชีพและความเคารพเสมอมา ผมรัก บาร์ซ่า เมืองนี้ และแฟนๆ อย่างสุดซึ้ง ความมุ่งมั่นของผมที่มีต่อสโมสรนั้นยิ่งใหญ่เสมอ"

"ผมพร้อมร่วมมือกับฝ่ายบริหารของสโมสรเพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้อย่างสร้างสรรค์"

"หลายสิ่งอาจเปลี่ยนแปลงไป แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงคือ ผมรักพวกคุณ กูเลส์!"

ด้วยวรรคทอง "ผมพร้อมร่วมมือกับฝ่ายบริหาร" สะท้อนถึงการยอมถอยจากจุดยืนแข็งกร้าวก่อนหน้านี้ และนำมาสู่การคลี่คลาย

ไม่กี่ชั่วโมงถัดมา สโมสรบาร์เซโลน่าแถลงการณ์ว่า แทร์ ชเตเก้น ได้ลงนามในเอกสารเรียบร้อยแล้ว เป็นอันสิ้นสุดกระบวนการลงโทษทางวินัย

แทร์ ชเตเก้น ยอมถอย ด้วยการเซ็นเอกสาร

บาร์ซ่า ยอมถอย และคืนปลอกแขนกัปตันทีม

ปิดฉากรอยร้าวเล็กๆ ภายใน 24 ชั่วโมง


พบกันครึ่งทาง

มีการเปิดเผยถึงสาเหตุของการกลับมาจูบปากคืนดีระหว่าง แทร์ ชเตเก้น กับบาร์เซโลน่า

คีย์แมนอยู่ที่ โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสร

ทุกปัญหาความขัดแย้ง จบลงได้ด้วยการเจรจาอย่างเปิดอกและต้องวงเล็บตัวโตๆ ว่า "ด้วยความจริงใจ" แนบท้าย

ในชั่วโมงวิกฤติ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างเดือดดาลเข้าหากัน กระนั้น ทุกคนต่างตะหนักดีว่า การทะเลาะกันยืดเยื้อเช่นนี้ไม่เป็นผลดีกับใคร และสุดท้าย สโมสรเองเป็นฝ่ายได้รับผลกระทบสูงสุด

ลาปอร์ต้าได้เปิดอกพูดคุยกับแทร์ ชเตเก้น และทั้ง 2 ฝ่ายต่างพูดทุกอย่างที่ตนเองรู้สึก ความอัดอั้น ความเจ็บปวด ถูกบอกกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

จากจุดยืนเดิมของใครของมัน สู่ทางออกของเราทั้งสองฝ่าย


มันคือการ "พบกันครึ่งทาง" เหมือนเพลงของ พี่โต๊ะ-วสันต์ โชติกุล คราวผลิตผลงานร่วมกับ วงอีสซึ่น ในอัลบั้ม "กีตาร์โต๊ะ" เมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว

นี่เป็นหนึ่งผลงานดีๆ ช่วงคั่นกลางระหว่างสตูดิโอของ อัสนี-วสันต์ และเต็มไปด้วยบทเพลงขึ้นหิ้งมากมาย อาทิ เลยตามเลย หรือ ให้เธอ (ซึ่งมี พี่เต๋อ-เรวัต พุทธินันทน์ เสาหลักของแกรมมี่ เขียนคำร้องให้) นั่นละครับ

อ้อ งานชุดนี้ พี่เต๋อยังรับหน้าที่โปรดิวเซอร์ด้วยนะครับ

เนื้อเพลงจาก พี่เขต-เขตต์อรัญ เลิศพิพัฒน์ บอกว่า

ก็อยากจะบอกเธอว่าเป็นอย่างไร บอกให้เข้าใจถึงคนอย่างฉัน

บอกว่าความจริงที่ยอมอย่างนั้นนั่นมันเหนื่อยเกินไป

ใช่ครับ ทุกความสัมพันธ์ย่อมไม่มีใครได้รับเสมอไป และไม่มีใครให้ตลอดกาล การอยู่กันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย และพยายามเข้าใจอีกฝ่าย เป็นสิ่งที่ช่วยให้ความสัมพันธ์เป็นไปได้ด้วยดี

พบกันตรงครึ่งทางก็แล้วกัน เพราะมันไม่เหนื่อยดี

พบกันตรงครึ่งทางสักที ก็คงสะดวกดีตรงนั้น

พบกันตรงครึ่งทางก็แล้วกัน เพราะมันไม่เหนื่อยดี

แล้วทุกทุกอย่างก็คงจะเข้าที ก็คงอยู่ตรงนี้ด้วยกัน

บางครั้ง การระบายนำมาสู่การแตกหัก แต่บางครั้ง ก็นำมาสู่การปรับความเข้าใจได้เช่นกัน

ขอบคุณสวรรค์ที่บาร์ซ่ากับแทร์ ชเตเก้นเป็นอย่างหลัง

เปลี่ยนจากที่เราเป็นเช่นดำกับขาว เปลี่ยนเป็นสีเทาก็คงจะพอ

แต่ว่าบางทีถ้ามีขัดคอก็จงอย่าเคืองกัน

เธอคิดจะอยู่ตรงนั้น ฉันเองก็ตรงนี้ ลองย้ายมาอยู่ตรงกลางสักที แล้วคงไม่มีใครเหนื่อยใจ

การสนทนาครั้งนี้นำมาสู่การตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว หลังจากนั้นไม่นาน แทร์ ชเตเก้น จึงออกแถลงการณ์และยินยอมเซ็นเอกสารในที่สุด

แน่นอน นี่อาจเป็นแค่เปราะหนึ่ง และไม่ใช่บทสรุปทั้งหมดระหว่างความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย

หากแต่อย่างน้อยก็เป็นผลดีต่อสโมสร แม้เป็นช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น

หลังการพักฟื้นและกลับมาฟิตพร้อมลงสนาม ถึงช่วงเวลานั้นก็อาจมีปัญหาอีกระลอกเข้ามาแทน เฉพาะอย่างยิ่ง โอกาสลงสนาม ซึ่งในห้วงสุดท้ายก่อนฟุตบอลโลก อาจเป็นสิ่งที่ แทร์ ชเตเก้น ต้องการมากที่สุด

การพุ่งทะยานแซงหน้า วอยเชียค เชสนี่ 

การแย่งมือหนึ่งจาก โจน การ์เซีย 

ถึงเวลานั้น ว่ากันอีกที


 บทเพลงที่ 55 : พบกันครึ่งทาง

 คำร้อง  เขตต์อรัญ เลิศพิพัฒน์

 ทำนอง / เรียบเรียง  จาตุรนต์ เอมซ์บุตร 

 ศิลปิน  วสันต์ โชติกุล และ อีสซึ่น

 อัลบั้ม  กีตาร์โต๊ะ

 ปี  2531



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด